เมื่อได้ทำการขุดหลุมและได้ตอกเข็มไม้หรือเข็มคอนกรีตตามขนาดความยาวและจำนวนที่ต้องการแล้วช่างจะตั้งเสาไม้และติดตั้งคานและตงทั้งชั้นล่างและชั้นบนต่อจากนั้นก็ติดตั้งขื่อหลังคาแล้วจึงวางโครงหลังคาเริ่มมุงหลังคาโดยใช้กระเบื้องลอนหรือแผ่นสังกะสีหรือแผ่นอะลูมินัมลอนเมื่อมุงหลังคาเสร็จแล้วจึงจะเริ่มติดตั้งบันไดชั้นล่างขึ้นชั้นบนปูพื้นไม้ติดตั้งเคร่าฝาวงกบประตูหน้าต่างแล้วตีฝาไม้ตามนอนหรืออาจจะตีฝาตามตั้งก็ได้ไม้กระดานฝามักใช้ไม้ยางขนาด ๑/๒ นิ้ว x ๖ นิ้ว เมื่อบ้านเสร็จแล้วจึงเริ่มทาสี โดยใช้สีน้ำมันทาใช้สีรองพื้นชั้นหนึ่งก่อนสีรองพื้นนี้ใช้อุดตามรูและแผลในเนื้อไม้เสร็จแล้วจึงใช้สีน้ำมันทาทับอีก ๒ ครั้ง บ้านไม้บางหลังไม่ใช้สีน้ำมันทาแต่ใช้น้ำมันกันตัวสัตว์ทาก็มี
ไม้กระดานพื้นนิยมปูตามความยาวของเรือน
บันไดไม้มีบันไดพุกและบันไดเจาะความกว้างของขั้นบันไดไม่ควรจะน้อยกว่า ๑.๐๐ เมตร ไม้ทำขั้นบันไดควรใช้ไม้หนา ๑ ๑/๒ นิ้ว ขึ้นไปความสูงและความกว้างของขั้นบันไดควรจะได้มาตรฐานเพื่อจะได้ขึ้นลงได้สะดวกสบาย
หลังคามีรูปทรงแบบต่าง ๆ หลายแบบซึ่งอาจจะสรุปได้ดังนี้ คือ
๑) หลังคาทรงปั้นหยา
๒) หลังคารูปจั่ว
๓) หลังคารูปเพิง
๔) หลังคารูปโดม
ไม้หลังคานิยมใช้ไม้เต็งรังหรือไม้เนื้อแข็งระแนงควรใช้ไม้สักเพื่อกันการบิดตัวไม้ทุกชิ้นควรได้รับการทาด้วยน้ำมันดิน (น้ำมันโซลิกนัม) ทั้งนี้เพื่อป้องกันปลวกมอดที่จะเข้ากัดกินเนื้อไม้ระยะห่างของไม้ระแนงหรือไม้แปขึ้นอยู่กับชนิดของกระเบื้องไม้หลังคาที่ต่อกันนั้นจะต้องต่อเฉพาะตอนที่มีไม้รองรับจันทันก็ต้องต่อกันตรงที่รองรับจันทันหลังคาต้องมีช่องลมสำหรับระบายความร้อนซึ่งจะช่วยทำให้ห้องชั้นบนไม่ร้อนจนเกินไปเมื่อได้รับความร้อนจากแสงแดด
โดยทั่วไปนิยมใช้กระเบื้องกระดาษหนาประมาณ ๔ มิลลิเมตร หรือ ๖ มิลลิเมตร ทำฝ้าเพดานส่วนกระทงฝ้ามักใช้ไม้ยางหรือไม้เนื้อแข็ง ขนาด ๑ ๑/๒ นิ้ว x ๓ นิ้ว วางห่างกัน ประมาณระยะ ๖๐ เซนติเมตร เพื่อใช้รับกระเบื้องกระดาษบางครั้งก็ใช้ไม้กระดานฝาขนาด ๖ นิ้ว x ๑/๒ นิ้ว ตีทำฝ้าเพดาน