Home
Education
Classroom
Knowledge
Blog
TV
ธรรมะ
กิจกรรม
โครงการทรูปลูกปัญญา

ทำไมตดถึงมีกลิ่นเหม็น

Posted By Plook Creator | 29 ส.ค. 60
22,762 Views

  Favorite

ของเสียที่ออกจากร่างกายเราต่างมีกลิ่นเป็นของตัวเอง และส่วนใหญ่นั้นเหม็น ไม่ว่าของเสียจะอยู่ในสถานะใด จะเป็นของแข็งอย่างอุจจาระ ของเหลวอย่างปัสสาวะ หรือแม้แต่ก๊าซอย่างตด ต่างก็มีกลิ่นที่ไม่พึงประสงค์ และมันคงเป็นเรื่องน่าอายหากคุณเผลอผายลมออกมากลางวงอาหารหรือกลางที่ประชุม แม้ว่าจะไม่มีเสียงแต่หากมันมีกลิ่นเหม็นก็เป็นเรื่องสะเทือนใจคนรอบข้างอยู่ดี ซึ่งมีวิทยาศาสตร์อยู่เบื้องหลังการผายลมและกลิ่นที่ออกมา ไม่ว่าจะเป็นกระบวนการและสาเหตุของการเกิดไปจนถึงสาเหตุของกลิ่นที่ไม่พึงประสงค์

ภาพ : Shutterstock


ทำไมจึงผายลม

แม้ว่าเราจะไม่ได้กินลมเข้าไปเหมือนกับอาหารหรือดื่มเข้าไปในระบบย่อยอาหารเหมือนกับของเหลวในรูปแบบต่าง ๆ แต่อาหารและเครื่องดื่มหลายชนิดที่เรากินและดื่มเข้าไปมีก๊าซอยู่ และมันแทรกซึมอยู่ในทุกส่วนของอาหารเช่นกัน ยังไม่นับอาหารหลายชนิดที่อาจจะเกิดปฏิกิริยาต่าง ๆ ในระหว่างการย่อย รวมถึงการทำงานของจุลินทรีย์และแบคทีเรียที่อยู่ในลำไส้ส่วนต่าง ๆ ที่อาจจะทำให้เกิดก๊าซในร่างกายของคุณ และเมื่อมันเกิดขึ้นร่างกายก็ต้องปลดปล่อยมันออกไป

 

หากมันเกิดขึ้นบริเวณทางเดินอาหารตอนบนอย่างส่วนของกระเพาะอาหาร ร่างกายของคุณจะปลดปล่อยมันออกมาในรูปแบบของการเรอ (Burp) ซึ่งมันก็จะมีกลิ่นเช่นกัน แต่กลิ่นเหล่านี้คุณอาจจะเดาได้เพราะว่ามันจะเป็นกลิ่นของสิ่งที่คุณเพิ่งกินเข้าไปนั่นเอง ส่วนกลิ่นนี้จะเหม็นหรือไม่ก็ขึ้นอยู่กับคนที่ได้กลิ่นว่ากลิ่นอาหารที่เพิ่งกินเข้าไปหรือกลิ่นอาหารที่ผ่านการหมักในกระเพาะเล็กน้อยด้วยน้ำย่อยนั้นน่าอภิรมย์หรือไม่ ส่วนก๊าซที่เกิดขึ้นในช่วงท้าย ๆ ของระบบย่อยอาหารก็อย่างที่เรารู้ ๆ กันว่ามันจะถูกปล่อยออกมาในรูปแบบการตดหรือผายลม (Fart)

ภาพ : Shutterstock


แม้ว่าการกลืนอากาศเข้าสู่ระบบย่อยอาหารอย่างไม่ตั้งใจเป็นส่วนหนึ่งของการใช้ชีวิตและเกิดขึ้นตลอดช่วงของเรา ก๊าซหรือลมส่วนใหญ่ที่มีในระบบของเราเป็นส่วนหนึ่งของผลพลอยได้ byproduct ซึ่งเกิดจากกระบวนการย่อยของจุลินทรีย์ และกว่า 99% ของก๊าซที่เกิดขึ้นและปลดปล่อยออกจากร่างกายนั้น เป็นก๊าซที่ไม่มีกลิ่น หรืออย่างน้อยก็เราไม่ได้กลิ่น ได้แก่ ก๊าซไนโตรเจน ก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ ก๊าซไฮโดรเจน ก๊าซออกซิเจน และที่สำคัญคือก๊าซมีเทน ซึ่งเป็นชนิดเดียวกับที่เราพัฒนาและนำมาใช้เป็นพลังงาน ส่วนที่ทำให้เกิดกลิ่นนั้นมีเพียงเล็กน้อยแต่คุณภาพของมันมหาศาล ก๊าซที่มีกลิ่นเป็นก๊าซจำพวกกำมะถัน หรือมีกำมะถันเป็นส่วนประกอบ เช่น ก๊าซไฮโดรเจนซัลไฟด์ ดังนั้นหากเราไม่ต้องการผายลมมีกลิ่นก็ควรจะหลีกเลี่ยงการนำกำมะถันเข้าสู่ร่างกาย

 

การกินกลุ่มอาหารที่มีกำมะถันอยู่มากก็เพิ่มความเสี่ยงให้มีผลพลอยได้จากการย่อยอาหารเป็นก๊าซกลุ่มที่มีกลิ่นได้ เช่น ทุเรียน โดยปกติแล้วก๊าซบางส่วนจะถูกดูดซึมผ่านผนังลำไส้ได้ ยกเว้นมันมีมากเกินกว่าที่จะดูดซึมได้ทันหรือเรากินอาหารที่ทำให้เกิดก๊าซจำนวนมากอย่างเช่น ถั่ว ร่างกายต้องผลักดันมันออกผ่านไส้ตรงแทน และนั่นคือการผายลม


ไม่ว่าจะผายลมมีเสียงหรือไม่มีเสียง ก็ล้วนแต่มีกลิ่นได้ทั้งนั้น มันมีความเชื่อสำหรับบางคนที่ว่าการผายลมที่มีเสียงจะไม่มีกลิ่นและการผายลมแบบไม่มีเสียงจะทำให้เกิดกลิ่นเหม็น แต่ตอนนี้เราคงรู้แล้วว่ากลิ่นของลมตดนั้นไม่ได้เกี่ยวของกับเสียง มันแยกกัน และแม้ว่าเราจะรู้สาเหตุของการเกิดก๊าซ ชนิดของก๊าซที่ทำให้เกิดกลิ่น หรือแม้แต่พยายามหลีกเลี่ยงอาหารที่ทำให้เกิดก๊าซและกลิ่น

 

ความจริง คือ หากร่างกายของเราต้องการการปลดปล่อยมันเป็นเรื่องยากที่จะอั้นมันเอาไว้ การอั้นก๊าซไม่ให้ปล่อยออกมาทำให้มีก๊าซค้างในร่างกายมากและอาจทำให้ท้องอืดได้และนั่นก็ทำให้เราป่วยอีกนั่นแหละ ดังนั้นหากคุณรู้ตัวว่ามันกำลังจะออกมา การขอตัวไปห้องน้ำเพื่อปลดปล่อยของเสียในรูปแบบของก๊าซ คงเป็นทางที่ดีที่สุด แต่บางครั้งก็ช่วยไม่ได้จริง ๆ ที่มันอาจจะหลุดรอดออกมาในยามคับขันก็ตาม การหัวเราะอาจช่วยกลบเสียงได้ ส่วนกลิ่นนั้นคงต้องขอโทษกันไป

 

ภาพปก : Shutterstock

 

 

เว็บไซต์ทรูปลูกปัญญาดอทคอมเป็นเพียงผู้ให้บริการพื้นที่เผยแพร่ความรู้เพื่อประโยชน์ของสังคม ข้อความและรูปภาพที่ปรากฏในบทความเป็นการเผยแพร่โดยผู้ใช้งาน หากพบเห็นข้อความและรูปภาพที่ไม่เหมาะสมหรือละเมิดลิขสิทธิ์ กรุณาแจ้งผู้ดูแลระบบเพื่อดำเนินการต่อไป
Tags
  • Posted By
  • Plook Creator
  • 15 Followers
  • Follow