แม้ว่าเราจะไม่ได้กินลมเข้าไปเหมือนกับอาหารหรือดื่มเข้าไปในระบบย่อยอาหารเหมือนกับของเหลวในรูปแบบต่าง ๆ แต่อาหารและเครื่องดื่มหลายชนิดที่เรากินและดื่มเข้าไปมีก๊าซอยู่ และมันแทรกซึมอยู่ในทุกส่วนของอาหารเช่นกัน ยังไม่นับอาหารหลายชนิดที่อาจจะเกิดปฏิกิริยาต่าง ๆ ในระหว่างการย่อย รวมถึงการทำงานของจุลินทรีย์และแบคทีเรียที่อยู่ในลำไส้ส่วนต่าง ๆ ที่อาจจะทำให้เกิดก๊าซในร่างกายของคุณ และเมื่อมันเกิดขึ้นร่างกายก็ต้องปลดปล่อยมันออกไป
หากมันเกิดขึ้นบริเวณทางเดินอาหารตอนบนอย่างส่วนของกระเพาะอาหาร ร่างกายของคุณจะปลดปล่อยมันออกมาในรูปแบบของการเรอ (Burp) ซึ่งมันก็จะมีกลิ่นเช่นกัน แต่กลิ่นเหล่านี้คุณอาจจะเดาได้เพราะว่ามันจะเป็นกลิ่นของสิ่งที่คุณเพิ่งกินเข้าไปนั่นเอง ส่วนกลิ่นนี้จะเหม็นหรือไม่ก็ขึ้นอยู่กับคนที่ได้กลิ่นว่ากลิ่นอาหารที่เพิ่งกินเข้าไปหรือกลิ่นอาหารที่ผ่านการหมักในกระเพาะเล็กน้อยด้วยน้ำย่อยนั้นน่าอภิรมย์หรือไม่ ส่วนก๊าซที่เกิดขึ้นในช่วงท้าย ๆ ของระบบย่อยอาหารก็อย่างที่เรารู้ ๆ กันว่ามันจะถูกปล่อยออกมาในรูปแบบการตดหรือผายลม (Fart)
แม้ว่าการกลืนอากาศเข้าสู่ระบบย่อยอาหารอย่างไม่ตั้งใจเป็นส่วนหนึ่งของการใช้ชีวิตและเกิดขึ้นตลอดช่วงของเรา ก๊าซหรือลมส่วนใหญ่ที่มีในระบบของเราเป็นส่วนหนึ่งของผลพลอยได้ byproduct ซึ่งเกิดจากกระบวนการย่อยของจุลินทรีย์ และกว่า 99% ของก๊าซที่เกิดขึ้นและปลดปล่อยออกจากร่างกายนั้น เป็นก๊าซที่ไม่มีกลิ่น หรืออย่างน้อยก็เราไม่ได้กลิ่น ได้แก่ ก๊าซไนโตรเจน ก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ ก๊าซไฮโดรเจน ก๊าซออกซิเจน และที่สำคัญคือก๊าซมีเทน ซึ่งเป็นชนิดเดียวกับที่เราพัฒนาและนำมาใช้เป็นพลังงาน ส่วนที่ทำให้เกิดกลิ่นนั้นมีเพียงเล็กน้อยแต่คุณภาพของมันมหาศาล ก๊าซที่มีกลิ่นเป็นก๊าซจำพวกกำมะถัน หรือมีกำมะถันเป็นส่วนประกอบ เช่น ก๊าซไฮโดรเจนซัลไฟด์ ดังนั้นหากเราไม่ต้องการผายลมมีกลิ่นก็ควรจะหลีกเลี่ยงการนำกำมะถันเข้าสู่ร่างกาย
การกินกลุ่มอาหารที่มีกำมะถันอยู่มากก็เพิ่มความเสี่ยงให้มีผลพลอยได้จากการย่อยอาหารเป็นก๊าซกลุ่มที่มีกลิ่นได้ เช่น ทุเรียน โดยปกติแล้วก๊าซบางส่วนจะถูกดูดซึมผ่านผนังลำไส้ได้ ยกเว้นมันมีมากเกินกว่าที่จะดูดซึมได้ทันหรือเรากินอาหารที่ทำให้เกิดก๊าซจำนวนมากอย่างเช่น ถั่ว ร่างกายต้องผลักดันมันออกผ่านไส้ตรงแทน และนั่นคือการผายลม
ไม่ว่าจะผายลมมีเสียงหรือไม่มีเสียง ก็ล้วนแต่มีกลิ่นได้ทั้งนั้น มันมีความเชื่อสำหรับบางคนที่ว่าการผายลมที่มีเสียงจะไม่มีกลิ่นและการผายลมแบบไม่มีเสียงจะทำให้เกิดกลิ่นเหม็น แต่ตอนนี้เราคงรู้แล้วว่ากลิ่นของลมตดนั้นไม่ได้เกี่ยวของกับเสียง มันแยกกัน และแม้ว่าเราจะรู้สาเหตุของการเกิดก๊าซ ชนิดของก๊าซที่ทำให้เกิดกลิ่น หรือแม้แต่พยายามหลีกเลี่ยงอาหารที่ทำให้เกิดก๊าซและกลิ่น
ภาพปก : Shutterstock