ซึ่งการมีความกังวลในเรื่องนี้ ก็เป็นสิ่งที่สามารถป้องกันและแก้ไขได้ ด้วยวิธีการหนึ่งที่เรียกว่า One on One time นั่นเองค่ะ
One on One time นั้น ก็คือช่วงเวลาที่พ่อหรือแม่ใช้เวลาส่วนตัวกับลูกแต่ละคนแบบหนึ่งต่อหนึ่ง เพื่อให้ลูกคนนั้น ๆ ได้รับรู้ถึงความสำคัญของตน รู้สึกถึงความใกล้ชิด และรู้สึกว่าพ่อกับแม่มองเห็นเค้าเป็น “ลูกคนหนึ่ง” ที่มีความต้องการแตกต่างไปจากลูกคนอื่น และได้รับความเข้าใจและใส่ใจในความแตกต่างนั้น ซึ่งเวลาเหล่านี้ ไม่ได้จำเป็นต้องมากมาย หรือต้องเตรียมการยุ่งยากอะไรเลยค่ะ เราลองมาดูไปพร้อม ๆ กันนะคะว่า จะมีช่วงเวลาใดบ้าง ที่เราสามารถจะสร้างสถานการณ์แบบ One on One กับลูกได้
ช่วงเวลาเหล่านี้ แม้เป็นช่วงเวลาสั้น ๆ แต่ส่งผลต่อความรู้สึกต่อเด็กได้มาก เพราะเป็นช่วงเริ่มต้นของวันหรือเป็นช่วงสุดท้ายของวัน ที่จะทำให้เขาประทับใจและรู้สึกดีได้มากที่สุด ซึ่งโดยปกติแล้ว เด็กแต่ละคนจะนอนแยกเตียงหรือแยกห้องกัน ก็แล้วแต่ความสะดวกของแต่ละบ้าน แต่วิธีการง่าย ๆ ก็คือ การเข้าไปสัมผัส แสดงความรัก ส่งเข้านอนทีละคน แทนการกล่าวอรุณสวัสดิ์หรือราตรีสวัสดิ์แบบรวม ๆ นั่นเองค่ะ
สถานการณ์ที่เด็กแสดงออกถึงความเครียด เกิดปัญหา หรือมีความวิตกกังวล เป็นช่วงเวลาสำคัญที่คุณพ่อคุณแม่ควรเลือกใช้การพูดคุยหรือถามไถ่แบบ One on One มากที่สุด โดยเฉพาะเมื่อเป็นเรื่องที่ลูกรู้สึกว่า เป็นเรื่องส่วนตัว หากพูดต่อหน้าพี่น้อง อาจแสดงให้เห็นถึงความไม่ใส่ใจและไม่ให้ความเป็นส่วนตัวกับลูก ซึ่งเป็นจุดหนึ่งที่อาจทำให้ลูกเกิดความรู้สึกน้อยใจได้ค่ะ
คุณพ่อคุณแม่หลายคนคิดว่า การสอนการบ้านแบบนั่งสอนรวม ๆ กัน อาจเป็นการประหยัดเวลา และทำให้ควบคุมเด็ก ๆ ได้ดี แต่อันที่จริงแล้ว เด็กแต่ละคนอาจมีความถนัดที่แตกต่างกัน และต้องการความช่วยเหลือที่ไม่เหมือนกัน การสอนการบ้านลูกแบบรายคน จะทำให้เราเห็นปัญหา และความโดดเด่นของลูกแต่ละคนได้ดีกว่า และทำให้เด็กรู้สึกถึงการได้รับความสนใจมากกว่า อีกทั้งลูกยังมีความกล้าในการถามหรือบอกถึงปัญหาที่แท้จริงของลูกได้มากกว่าการอยู่ต่อหน้าพี่น้อง เพราะในบางครั้งเด็กอาจกังวลต่อการเปรียบเทียบซึ่งมักเกิดขึ้นได้บ่อย ๆ โดยที่พ่อแม่ไม่ได้ตั้งใจ
การทำผิดแล้วถูกตำหนิจากพ่อแม่ นับว่าเป็นเรื่องที่ส่งผลต่อความรู้สึกของเด็กอยู่แล้ว แต่ความรู้สึกนั้นจะเป็นไปในทางใด ก็ขึ้นอยู่กับวิธีการจัดการของพ่อแม่เป็นสำคัญ และหนึ่งในวิธีการที่เราพึงระวังก็คือ การลงโทษลูกต่อหน้าคนอื่น หรือการละเลยความรู้สึกของลูก นอกจากนี้ เด็กที่แสดงพฤติกรรมไม่ดีส่วนใหญ่แล้วนั้น เกิดจากความรู้สึกขาดความรักและขาดเวลาคุณภาพกับพ่อแม่ ดังนั้น สิ่งที่เกิดขึ้นจึงเป็นเสมือนสัญญาณบ่งบอกว่าเขากำลังต้องการเวลาที่เป็นส่วนตัวกับคุณ
เวลาที่ดีที่สุดสำหรับการใช้เวลาเป็นส่วนตัวกับลูกแต่ละคน ก็คือ เมื่อใดก็ตามที่คุณทำได้ หรือหากเป็นไปได้ การกำหนดวัน date กับลูกนั้น ก็นับเป็นไอเดียที่ไม่เลวเลยหละค่ะ โดยเราอาจจะกำหนดเป็นรายสัปดาห์ รายเดือน หรือรายปี ก็ขึ้นอยู่กับความสะดวกของแต่ละครอบครัว ทั้งนี้ก็เพื่อให้ความรักและความผูกพันระหว่างคุณกับลูกแต่ละคน เป็นไปอย่างเหนียวแน่นนั่นเองค่ะ
ครูพิม ณัฏฐณี สุขปรีดี
นักจิตวิทยาผู้เชี่ยวชาญด้านการพัฒนาศักยภาพเด็กเล็กและการเลี้ยงลูกเชิงบวก