จริง ๆ แล้วเพจ HappyNancy เกิดจากความที่แนนซี่เป็นคน Low Tech ตอนนั้นเราตั้งใจจะแชร์ทริปดำน้ำกับเพื่อนในเฟซบุ๊กส่วนตัว เพราะเรามีภาพนิ่งจากการไปดำน้ำเยอะมาก เราก็เลยเอาไปตัดเป็นวิดีโอเล่น ๆ แล้วกะจะแชร์กับเพื่อน แต่เพราะตอนนั้นมันเพิ่งมีปุ่มใหม่เกิดขึ้นซึ่งเรากดผิด เลยกลายเป็นแชร์สาธารณะในกลุ่มดำน้ำ คนก็เลยแชร์กันไปเป็นพัน จนเราต้องเปิดเพจ
การไปเที่ยวคนเดียวมันง่ายทุกอย่างตั้งแต่เดินเข้าแอร์พอร์ตเลย เพราะเราไม่ต้องรอใคร เราอยากทำอะไรเราก็ทำเลย กะเวลาได้ถูกต้องเพราะเราไม่ต้องรอ ซึ่งมันได้เปรียบกว่าการไปเที่ยวเป็นกลุ่มเยอะ แต่คนไทยชอบติดว่าต้องไปเป็น
กลุ่มเป็นก้อนถึงจะสนุกได้ ชะนีต้องปวดฉี่พร้อมกัน รอกันเข้าห้องน้ำ
น่าจะเป็นเกาะลอมบอก ประเทศอินโดนีเซีย เพราะเราต้องดำลงไปลึกมากถ้าเราอยากเจอปลาวาฬ หรือพวกฉลามวาฬ ฉลามหัวค้อน แต่ระดับน้ำที่ปลาพวกนั้นอยู่ กระแสน้ำก็จะแรงมากค่อนข้างอันตราย คือแค่เราโดดลงไปในน้ำ น้ำก็จะดูดเราลงไปแล้ว 5 เมตร พอลงไปถึงเมตรที่ 6 น้ำก็จะดึงเราขึ้นมา ถ้าเราไม่รีบตีขา ปอดเราก็อาจจะดับหรือหูเราก็อาจจะบอดไปเลยก็ได้ เพราะฉะนั้นเราเลยคิดว่ามันโหดดี
จริงค่ะ คือก็ต้องยอมรับว่าผู้หญิงทุกคนจะมีช่วงที่ติดแบรนด์เนม ติดของแพง ซึ่งเราก็หลงอยู่กับช่วงนั้นประมาณปีหนึ่ง หาเงินมาได้เท่าไหร่ก็จะไปลงกับกระเป๋า เสื้อผ้า เครื่องสำอาง แต่พอเราโตขึ้น เราก็คิดได้เพราะเราหาเจอว่าอะไรคือสิ่งที่เราชอบจริง ๆ ก็เลยมุ่งไปทางนั้นซึ่งสำหรับแนนคือ แนนชอบทะเล แนนชอบดำน้ำ
จริงนะ แนนก็ยอมรับว่าแนนก็กลัว แต่ถึงจะกลัว แนนก็เชื่อว่าคนจะหากันเจอ อย่างไรมันก็ต้องเจอ แต่ถ้ายังไม่เจอก็แค่ต้องรอต่อไป ทำสิ่งที่เราชอบ ทำสิ่งที่เราอยากจะเป็นต่อไปเรื่อย ๆ เพราะถ้าใครจะมองว่าเราเก่งหรือมองว่าเราสวย ของพวกนั้นมันเป็นสิ่งที่ได้เพิ่มมามากกว่า ความเก่งมาจากไหนล่ะ ถ้าเราไม่ทำในสิ่งที่เราชอบซ้ำ ๆ ความสวยก็เหมือนกันนั่งเฉย ๆ ใครจะมองว่าเราสวย เราเก่ง เราต้องทำอะไรสักอย่าง เขาถึงได้หาเจอว่าเราสวย เราเก่งอย่างไร
สำหรับแนน เรากลัวอ้วนเพราะว่าการไปเที่ยวแต่ละที่อาหารอร่อยมาก (เน้นเสียง) อย่างไปดำน้ำภาคใต้ก็จะมีคั่วกลิ้ง โรตี แกงต่าง ๆ ไปฟิลิปปินส์ก็มีช็อกโกแลตอร่อย ซึ่งแต่ละทริปแนนกินเยอะมาก อิ่มหนำสำราญมาก เวลากลับมากรุงเทพฯ ต้องรีบเข้าฟิตเนสหรือไปปีนผาให้ไขมันออกไป คือแนนไม่ได้แคร์เรื่องเซลลูไลท์นะ แต่แนนแคร์ว่าถ้าวันหนึ่งแนนสุขภาพไม่ดี ไปเที่ยวไม่ไหวแล้วจะทำอย่างไร เพราะเราอยากเที่ยวไปจนแก่เลย คือถึงจะอายุ 50 ปี ก็ยังอยากดำน้ำอยู่
เคยโดนล้อเรื่องสีผิวและทรงผมเป็นประจำค่ะ โดนล้อจนอึดอัด ต้องย้ายโรงเรียน เพราะตอนเด็กเราอยู่โรงเรียนหญิงล้วน สังคมโรงเรียนหญิงล้วนก็จะเป็นสังคมที่ผู้หญิงส่วนใหญ่ขาวหมวย แต่แนนเป็นผู้หญิงที่ชอบขี่ม้า ว่ายน้ำ ตีเทนนิส ทุกอย่างที่ได้ออกเเดดจะชอบมาก ผมเราก็หยิกแบบนี้ตั้งแต่เด็ก ส่วนผิวตอนนั้นยังไม่ได้แทนขนาดนี้ แต่ก็ไม่ได้ขาวถ้าเทียบกับเพื่อน ทุกคนก็จะชอบคิดว่าแนนเป็นทอม
ใช่ ย้ายจากโรงเรียนหญิงล้วนมาเรียนที่สาธิต (หัวเราะ) พอมาอยู่สาธิตเราก็เหมือนเจอที่ของเรา เพราะไม่มีใครแคร์เรื่องสีผิวหรือทรงผมของเราเลย ทุกคนสนใจแต่เรื่องเล่น เรื่องเรียนเป็นเรื่องรอง เป็นสังคมที่เรารักอีกสังคมหนึ่ง พอเราโตขึ้นก็ไม่ได้มัวนั่งเสียใจเรื่องที่เพื่อนล้อแล้ว เพราะมันเป็นเรื่องปกติของคน คนเราก็ต้องมีทั้งผมตรง ผมหยิกและผิวสี ซึ่งมันต้องใช้เวลาสักพักในการทำความเข้าใจ ตอนเด็กเราอาจเสียใจที่โดนล้อ แต่พอโตขึ้นเราจะเข้าใจได้เอง ยิ่งเราไปเที่ยวแต่ละที่มันยิ่งเป็นเรื่องปกติ อย่างไปอิตาลี เราจะเห็นคนหลายเชื้อชาติมาก มีทั้งอินเดีย ฝรั่งเศส แอฟริกา เขาก็อยู่กันได้ ไม่มีสายตาเหยียดหยามกัน แต่คนไทยเรายังมีค่านิยมการเหยียดอยู่ ซึ่งตอนนี้มันกำลังค่อย ๆ ดีขึ้นนะ
อาจจะมีส่วน แต่แนนไม่เคยคิดว่าตัวเองเป็นสาวฮอตเลยเพราะแนนไม่มีหน้าอก แนนไม่มีอะไรเลย ก้นก็ลาย แต่เขาอาจจะมองว่าเราเป็นคนกล้าแสดงออกมากกว่า หรือว่าเป็นคนที่อยู่ดี ๆ ก็ขึ้นมาถ่ายรูปบิกินี่แบบไม่อาย
เราอยากให้คนไทยเปลี่ยนทัศนคติ บิกินี่ไม่ได้เป็นเสื้อผ้าที่ใส่ไปสยามได้ เพราะบิกินี่เป็นชุดกีฬา และถ้ามันเป็นชุดกีฬา เราก็ต้องใส่ให้ถูกกาลเทศะ ซึ่งแนนใส่ไปดำน้ำ เพราะมันสบาย เวลาไปดำน้ำ เราขึ้นมาจากน้ำ เราหนาวต้องการอาบแดด มันเป็นเรื่องปกติของนักดำน้ำที่เวลาดำน้ำเสร็จแล้วเขาจะขึ้นมานอนอาบแดดกัน แนนอยากให้ทุกคนเลิกอายกับการใส่ชุดบิกินี่เวลาไปทะเลหรือว่ายน้ำค่ะ
สาวฮอตสำหรับเราต้องเป็นคนคิดบวกก่อน เพราะเมื่อความคิดดีทุกอย่างมันก็จะดีตาม สาวฮอตของแนนซี่ไม่ได้แปลว่าต้องหุ่นดีไม่มีเซลลูไลท์ ไม่มีพุง ก้นต้องไม่ลาย แต่สาวฮอตของเราสามารถก้นลายได้ มีพุงได้ แต่ต้องสุขภาพดีสามารถออกไปทำกิจกรรม Outdoor ได้ แนนจะมีคติประจำใจว่า “Hakuna Matata” ซึ่งแปลว่า อย่ากังวล เวลาทำอะไรให้คิดบวกเพราะมันจะช่วยทุกอย่าง
พังเหมือนกันแหละ ยอมรับเลยว่าชีวิตเราเปลี่ยนไปเลยในช่วงนั้น ไม่ทำงาน ไม่ทำอะไรเลย ซึ่งมันไม่ผิดเลยนะ ที่เราจะร้องไห้เสียสติ คือถ้าเสียใจก็เสียใจไปเลยให้มันสุด เพราะมันหมายความว่าเรากำลังให้เวลากับตัวเองและเราจะได้เข้าใจตัวเอง เมื่อเราเข้าใจตัวเองแล้วก็รวบรวมสติกลับมาให้เป็นเราได้อีกครั้งหนึ่ง ซึ่งวิธีการรับมือตอนอกหักของแนนคือ ออกไปเที่ยว ไปกิน แล้วก็ออกกำลังกาย
จริง ๆ แล้วแนนพยายามเป็นตัวเองให้ได้มากที่สุด ชีวิตปกติของแนนจะไม่แต่งหน้า ออกไปซื้อของ ชอปปิง ดื่มกาแฟหรือไปยิม แนนจะไม่แต่งหน้าเลย คนส่วนใหญ่ก็จะแอบเม้าท์เวลาเราไม่มีคิ้ว แต่เรามองว่านี่คือตัวเรา เราไม่ใช่แนนซี่นักดำน้ำตลอดเวลา บางทีก็มีมุมเดินซื้อของไปทำกับข้าวบ้าง
ใครที่คิดว่าแนนเป็นคนแมน ๆ ไม่ชอบเข้าครัว เล่นแต่กีฬา คิดผิดนะคะ แนนเป็นแม่บ้านแม่เรือนมาก ชอบทำกับข้าวมาก โดยเฉพาะอาหารโซนยุโรป แนนจะถนัดเลย และช่วงนี้จะชอบทำขนม ทำอาหารเกือบทุกวันเพราะเพิ่งทำครัวใหม่ อาหารที่ทำอร่อยที่สุดคือ scrambled eggs และ กูลาซเนื้อ ใครได้กินก็บอกว่าอร่อยทุกคน
ไม่จำเป็น ผู้หญิงยุคใหม่สำหรับแนนคือ ผู้หญิงที่กล้าเผชิญกับโลก เป็นคนจริง รู้จักยอมรับความจริง ยอมรับตัวเอง รักตัวเองก่อน ซึ่งถ้ามีสิ่งเหล่านั้น เขาก็จะไม่กลัวที่จะกล้าออกไปเผชิญกับทุกอย่าง ไม่เหมือนผู้หญิงสมัยก่อนที่จะต้องไปยืดผมตรงให้เหมือนบริทนีย์ สเปียร์ส เอาโลชั่นมาทาให้ขาว พอกหน้าให้ขาว เราต้องรักสิ่งที่ตัวเองมีก่อน
เราเชื่อว่าสุดท้ายแล้วผู้หญิงทุกคนอยากมีความสุขนะ แต่บางคนอาจจะยังไม่เจอ หรือหลงคิดว่าความสุขต้องมาจากคนอื่น ซึ่งแนนว่าผู้หญิงสามารถสร้างความสุขให้ตัวเองได้เสมอ และมันสุขกว่าการได้มาจากคนอื่นอีก อย่างแนนถ้าได้เจอ แมนต้า (ปลากระเบนชนิดหนึ่ง) ม้าน้ำ แนนจะมีความสุขมาก และการที่จะเจอสิ่งเหล่านั้นได้ แนนต้องออกไปหามันเอง
เป็นตัวของตัวเอง อย่าตามคนอื่น ถ้าเราเป็นตัวของตัวเองมันก็จะเป็นเส้นทางที่จะนำไปสู่จุดหมายที่เราอยากจะเป็น ถ้าเราเขว ไม่เป็นตัวของตัวเองเมื่อไหร่ สุดท้ายทางมันก็จะตัน แต่ถ้าเราเป็นตัวของตัวเอง เราจะเดินตรงไปเรื่อย ๆ มีปัญหาเข้ามาก็แค่แก้ ถึงจะตันบ้างแต่สุดท้ายเราจะถึงจุดหมาย ถึงเส้นชัยที่มันเป็นของเราจริง ๆ
เรื่อง : วัลญา นิ่มนวลศรี
ภาพประกอบ : อารัมภ์พร เอี่ยมวุฒิ