มัธยม – เราถูกวางแบบแผนมาว่าต้องเรียนวันละสิบวิชานะ วิชาละเกือบชั่วโมง เรียกได้ว่าเรียนกันอย่างบ้าคลั่งกันเลยทีเดียว
มหา’ลัย – ในหนึ่งวันของมหาวิทยาลัยเราอาจได้เรียนแค่วันละ 1-2 วิชา แต่ ในแต่ละวิชานั้นยาวนานถึงสามชั่วโมงเลย บางวันเข้าเรียนยังไม่ทันคุ้มค่ารถอาจารย์ก็ปล่อยแล้ว…
มัธยม – เข้าเรียนแปดโมง แต่ต้องตื่นก่อนเวลามาเพื่อมาเตรียมตัวเข้าแถวเคารพธงชาติอีก โอ้โห ชีวิตเกินครึ่งของวันได้มอบให้โรงเรียนเรียบร้อยแล้ว
มหา’ลัย – เรียนแปดโมงครึ่งก็ตื่นแปดโมง เรียนบ่ายครึ่งก็ตื่นบ่าย บางทีตื่นสายก็ยังได้ แต่สิ่งที่ต้องทำจริงๆ ก็มีแค่ตื่นและอาบน้ำมาเรียนให้ทันก็พอ
มัธยม – มองซ้ายก็เห็นรั้วโรงเรียน มองขวาก็เห็นยามเฝ้าประตู แค่เดินเฉียดเข้าใกล้ประตูโรงเรียนก็สามารถเรียกฝ่ายปกครองให้มาเยี่ยมเยือนได้ เสียงกริ่งบอกเวลาเลิกเรียนเปรียบเสมือนสัญญาณว่าอิสระในวันนี้มาถึงแล้ว
มหา’ลัย – กรอบคืออะไรเราไม่รู้จัก มองซ้ายก็โล่ง มองขวาก็ไม่มีใคร จะไปไหนก็ได้เพราะไม่มีใครคอยห้าม ชีวิตได้สัมผัสกับคำว่าอิสระโดยไม่ต้องรอสัญญาณ
มัธยม – เรียนวิชาเยอะ การบ้านก็เยอะ รายงานก็เยอะ แต่มีหนังสือแค่เล่มเดียวก็ทำรายงานเสร็จได้แล้ว… คะแนนเก็บเรียกได้ว่าเกินครึ่งของคะแนนทั้งหมดเลยทีเดียว เก็บคะแนนกันดี ๆ เกรด 4 ก็ได้ไม่ยาก
มหา’ลัย – เรียนน้อย แต่งานหนัก รีเสิร์ชข้อมูลกันทั้งเทอม รายงานหนึ่งวิชาต้องหาข้อมูลกันหัวหมุน จะก๊อปหนังสือมาอาจารย์ก็เปรียบเสมือนนักปราชญ์ที่รู้ได้ทันทีว่าเอามาจากเล่มไหน ร้ายแรงถึงขั้นบอกหน้าได้เลยทีเดียว หนึ่งเทอมมีหนึ่งงานแต่เป็นงานที่ตัดสินชีวิตได้เลย
เห็นมั้ยว่าชีวิตมัธยมกับชีวิตมหาลัยมันต่างกันยังไง แน่นอนว่าเราทุกคนต้องก้าวไปข้างหน้าให้เหมือนกับเวลาที่ไม่เคยเดินถอยหลัง ดังนั้น สิ่งสำคัญคือการเตรียมตัวรับมือให้พร้อม สู่การใช้ชีวิตในรั้วมหาวิทยาลัย
แหล่งข้อมูล
ที่มา : Praerii.com ชีวิตมัธยมปลาย VS ชีวิตมหาลัย
Dek-d.com 10 เรื่องในมหา’ลัย ที่เด็กมัธยมฯ เข้าใจผิด
และ https://เด็กฝึกงาน.com/มัธยม-vs-มหาวิทยาลัย/
ภาพปก : เว็บไซต์เด็กฝึกงาน.คอม