หลายคนคงเคยชมภาพยนตร์หรือโทรทัศน์ที่มีเรื่องเกี่ยวกับการขี่ม้าซึ่งดูแล้วมีลักษณะสง่างามหรืออย่างพวกเลี้ยงปศุสัตว์หรือคาวบอย (Cowboys) ที่มีความสามารถในการขี่ม้าได้อย่างเชี่ยวชาญและทำให้ดูเหมือนว่าการขี่ม้าเป็นเรื่องที่ทำกันได้ง่าย ๆ แต่แท้จริงแล้ว การขี่ม้าเป็นศิลปะอย่างหนึ่งที่ผู้ขี่ต้องมีคุณสมบัติที่เหมาะสมส่วนม้าที่ใช้ขี่จะต้องมีอุปกรณ์ที่เรียกว่า เครื่องม้า อย่างครบถ้วนและการผูกอานม้าใส่บังเหียนก็ต้องเป็นไปอย่างถูกต้องประกอบกันไปด้วย การขี่ม้าที่ถูกวิธีนั้นผู้ขี่ต้องได้รับการฝึกฝนมาอย่างดีและมีความอดทนสูงจึงจะสามารถบังคับม้าให้วิ่งไปตามความต้องการได้
การเป็นนักขี่ม้าที่ดีต้องได้รับการฝึกสอนและมีการฝึกฝนเป็นประจำทั้งในทางปฏิบัติและทฤษฎี แต่การที่จะให้ทุกคนเป็นนักขี่ม้าที่ดีนั้นลำบากเพราะสิ่งแวดล้อม เวลา และการอบรมตลอดจนนิสัยของนักขี่ม้าแต่ละคนไม่เหมือนกันลักษณะของผู้ขี่ม้าที่ดี คือ
(๑) ต้องมีนิสัยเป็นคนเรียบร้อย สุภาพ อ่อนโยน ปฏิบัติตามคำสั่งของครูฝึกสอนและเจ้าของคอกม้า รู้จักระเบียบข้อปฏิบัติต่าง ๆ ในเรื่องการขี่ม้าของสนาม
(๒) มีนิสัยรักม้า เมื่อเกิดความรักก็มีใจเมตตาต่อม้านั้น ๆ
(๓) ต้องมีความซื่อตรงโดยต้องเป็นคนไว้ใจได้ ซื่อตรงต่อหน้าที่ของตนทั้งต่อหน้าและลับหลัง
(๔) ได้รับการฝึกมาแล้วเป็นอย่างดี การเป็นนักขี่ม้าแข่งได้ต่อเมื่อได้ผ่านการทดสอบมาแล้วแม้เมื่อผ่านการทดสอบมาแล้วใช่ว่าจะเป็นนักขี่ม้าที่ดี ต้องคอยซ้อมทบทวนหรือหาความชำนาญเสมอ
(๕) เป็นคนที่สนใจและชอบการขี่ม้า สนใจในการหัดม้าไม่เกียจคร้านในการฝึกซ้อม พยายามสังเกตนิสัยของม้าเสมอ ๆ รู้จักม้าและจำม้าที่เคยซ้อมได้
(๖) มีความสามารถในการบังคับม้าหรือพูดได้ว่า ขี่ม้าเก่ง ซ้อมม้าได้ดี รู้จักผ่อนหนัก ผ่อนเบากับม้า
(๗) มีกำลังใจกล้าแข็งเหนือม้า ไม่กลัวม้าและไม่กลัวอันตรายที่ได้รับจากม้าตลอดจนรู้ว่าอันตรายนั้นมีอะไรบ้าง มีความเข้มแข็งอดทน
(๘) ใจเย็นไม่ฉุนเฉียว ไม่ลงโทษม้าด้วยความโมโหโทโส รู้จักการลงโทษม้าให้รางวัลม้าและรู้จักการฝึก การปลอบ การเอาใจม้า
(๙) ต้องมีความเมตตากรุณารู้จักการให้อภัยเพราะม้าพูดกับเราไม่ได้ ไม่ทราบว่าจะทำอย่างไรจึงจะสัมพันธ์กันและม้าไม่เคยมีความรู้เรื่องการวิ่งการแข่งมาก่อนเราต้องเป็นผู้ฝึกหัดให้
(๑๐) รู้จักการถนอมกำลังกายของตัวเองเพื่อให้มีความสมบูรณ์อยู่เสมอ รู้จักการรักษาเนื้อรักษาตัวให้เป็นคนที่แข็งแรงเพื่อมีกำลังกาย กำลังใจ ความคิด ในการขี่ม้า
เครื่องม้าและการเก็บรักษาเป็นสิ่งสำคัญอย่างหนึ่งในวงการม้าขี่และม้าแข่งเพราะเครื่องม้าเป็นส่วนประกอบในการขี่ม้า ถ้าหากว่าการเก็บรักษาและการทำความสะอาดไม่ดีพอแล้วอาจทำให้ชำรุดหรือเสียหายเร็วเกินไปหรือถ้าหากว่าผู้ใช้ไม่ตรวจให้ละเอียดรอบคอบแล้วอาจทำให้เกิดอันตรายต่อผู้ขี่ม้าถึงพิการหรือเสียชีวิตได้
เครื่องขี่ม้า
ประกอบไปด้วยสิ่งต่าง ๆ เช่น
ก. เครื่องบังเหียน
ข. อานม้า
ค. เครื่องม้าและเบ็ดเตล็ดอื่น ๆ
ก. เครื่องบังเหียน เป็นเครื่องมือที่ใช้ในการบังคับม้าเพื่อให้ม้าเลี้ยวไปตามทิศทางที่ผู้ขี่ต้องการ บังเหียนใช้ผูกบริเวณส่วนหน้าของม้า
ข. อานม้า เป็นเครื่องมือที่ใช้ในการนั่งขี่และบังคับม้าด้วยเข่ามีส่วนประกอบที่สำคัญ คือ สายรัดทึบยึดติดตัวอานม้าไว้บนหลังไม่ให้เลื่อนไหลหรือพลิกกลับและสายโกลนซึ่งใช้ในการเหยียบและยึดเท้าของผู้ขี่
ค. เครื่องม้าและเบ็ดเตล็ดอื่น ๆ ได้แก่ สิ่งต่าง ๆ ดังนี้
๑. ขลุมขี่
๒. ขลุมจูง
๓. ขลุมตีวง
ขลุมขี่ เป็นเครื่องมือบังคับม้าให้ทำตามความประสงค์ของผู้ขี่ แบ่งออกเป็น ๒ ประเภท คือ
(๑) ขลุมเดี่ยว หรือเรียกอีกชื่อหนึ่งว่า ชุดบังเหียนปากอ่อนใช้สำหรับผูกบังเหียนอันเดียว
(๒) ขลุมคู่ หรือเรียกอีกอย่างหนึ่งว่า ชุดบังเหียนปากแข็ง ขลุมนี้ใช้สำหรับผูกกับบังเหียนคู่ เช่น บังเหียนปากอ่อนควบกับบังเหียนปากแข็งซึ่งต้องมีสายรัดกระหม่อม ๒ สาย สายขลุม ๒ สาย สายบังเหียน ๒ สาย การใช้ขลุมคู่นี้มักจะใช้กับม้าที่มีนิสัยดื้อ เกเร ซึ่งหากใช้บังเหียนปากอ่อนจะไม่สามารถบังคับม้าได้จึงใช้กับบังเหียนปากแข็งคู่
ขลุมจูง เป็นขลุมที่ใส่ไว้เพื่อล่ามม้าใช้มัดหรือจับจูงเดินในบริเวณที่ไม่ใช่แปลงปล่อยม้า ใช้เพื่อจูงเดินหรือล่ามเพื่อทำความสะอาดตัวม้า
ขลุมตีวง เป็นขลุมที่มีไว้เพื่อใช้ฝึกม้าให้รู้จักทำตามคำสั่ง ขลุมนี้จะใช้กับม้าที่นำมาฝึกใหม่ ๆ
สิ่งสำคัญอีกอย่างในการดูแลรักษาม้า คือ การใส่บังเหียนและการใส่อานที่ถูกวิธีโดยจะต้องไม่หลวมหรือตึงจนเกินไปต่อการใส่ซึ่งจะทำให้ม้าเกิดความคล่องตัวในการเดินหรือวิ่ง