ทานตะวันเป็นพืชน้ำมันสำคัญของหลายประเทศในเขตอบอุ่น ในปี พ.ศ. ๒๕๓๐ ทั่วโลกผลิตเมล็ดทานตะวันได้ประมาณ ๑๗ ล้านตัน ประเทศที่ปลูกทานตะวันมาก ได้แก่ รัสเซีย สหรัฐอเมริกา และอาร์เจนตินา น้ำมันทานตะวันเป็นน้ำมันที่มีคุณภาพสูงโดยมีน้ำมันไม่อิ่มตัวสูงกว่าร้อยละ ๙๐ จึงนิยมนำไปแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ เพื่อบริโภคโดยเฉพาะ เช่น เนยเทียม น้ำมันสลัด และอาหารอีกหลายชนิดและขายได้ราคาสูงเป็นพิเศษ กากเมล็ดทานตะวันหลังจากสกัดน้ำมันแล้วจะมีโปรตีนร้อยละ ๓๐ - ๔๐ นำไปเป็นส่วนผสมของอาหารสัตว์ นอกจากนี้ยังนำเอาเมล็ดของทานตะวันพันธุ์ที่มีเปลือกบางมาบริโภคเป็นของขบเคี้ยวเล่น ทานตะวันมีถิ่นกำเนิดอยู่ในทางตะวันตกของสหรัฐอเมริกา ชาวอินเดียนแดงได้เก็บเมล็ดมาบริโภคเป็นเวลานานจนกระทั่งเมื่อ ๓๐๐ - ๔๐๐ ปีก่อน ได้นำทานตะวันไปปลูกเป็นไม้ดอกในยุโรปและได้แพร่ไปถึงรัสเซีย นักวิทยาศาสตร์ชาวรัสเซียได้ปรับปรุงพันธุ์ทานตะวันเพื่อใช้เมล็ดสกัดน้ำมันได้สำเร็จ เมื่อประมาณร้อยปีที่ผ่านมาทำให้การปลูกทานตะวันได้แพร่ขยายตัวออกในเขตแห้งแล้ง (มีฝนตกต่ำกว่าปีละ ๖๐๐ มิลลิเมตร) ในเขตอบอุ่นทั่วทุกทวีปรวมถึงสหรัฐอเมริกา
ทานตะวันเป็นพืชล้มลุก (อายุต่ำกว่า ๑ ปี) อยู่ในวงศ์ Compositae เช่นเดียวกับดอกบัวตอง มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Helianthus annus L. ลำต้นสูงประมาณ ๑ - ๓ เมตร ใบมีขนาดใหญ่ ปลายแหลม และขอบใบเป็นจักร ช่อดอกเป็นจานประกอบด้วยดอกขนาดเล็กจำนวนหลายร้อยดอก กลีบดอกรอบจานดอกมีสีเหลืองสวยงาม เนื่องจากดอกทานตะวันไม่ผสมเกสรในต้นเดียวกันจึงต้องอาศัยผึ้งหรือแมลงบางชนิดนำละอองเกสรจากดอกอื่นมาช่วยผสมจึงจะได้เมล็ดที่สมบูรณ์ทำให้เกิดมีอาชีพเลี้ยงผึ้งควบคู่ไปกับการปลูกทานตะวันไปด้วยในทุกท้องที่ ปัจจุบันได้มีการส่งเสริมการปลูกทานตะวันเป็นการค้าในประเทศไทยในจังหวัดทางภาคกลาง ในปลายฤดูฝนและเกษตรกรได้รับรายได้ดีเชื่อว่าพื้นที่เพาะปลูกจะขยายตัวมากขึ้นในปีต่อ ๆ ไป