สำนวนภาษาอังกฤษนี้จะใช้เมื่อเรารู้สึกเกลียดหรือไม่ชอบแบบสุดขีด แบบว่าทนไม่ไหวแล้วนะ!
เช่น I can’t stand the smell of durian. (ฉันเกลียดกลิ่นทุเรียนมาก)
หมายถึง การอยู่ข้าง ๆ คอยช่วยเหลือ สนับสนุน ไม่ทอดทิ้งไปไหน สามารถใช้ส่งต่อความรู้สึกดี ๆ ให้กับคนสำคัญของเราได้อย่างอบอุ่นเลย
เช่น No one stood by me when I needed support. (ไม่มีใครอยู่ข้าง ๆ ฉันเลยในตอนที่ฉันต้องการความช่วยเหลือ)
สำนวนนี้ใช้สื่อความหมายถึง การลาออกจากงาน
เช่น He’ll be standing down as president at the end of the year. (เขาจะลาออกจากการเป็นประธานาธิบดีตอนสิ้นปี)
สำหรับสำนวนนี้อาจจะเคยได้ยินกันมาบ้างแล้ว stand out มีความหมายว่า โดดเด่น เป็นที่สังเกตเห็นได้ง่าย สะดุดตา
เช่น Because of your blonde hair, you easily stands out from the other girls. (เพราะผมสีบลอนด์ของเธอ ทำให้เธอดูโดดเด่นกว่าผู้หญิงคนอื่น ๆ)
ส่วนสำนวน ‘stand someone up’ นี้ แปลเป็นไทยให้เข้าใจง่าย ๆ คือ เบี้ยวนัดหรือไม่มาตามนัด หรือที่มักพูดกันว่า เท ในสมัยนี้นั่นเอง
เช่น I am not going to talk to you again. You stood me up yesterday. (ฉันจะไม่คุยกับเธอแล้ว เธอเบี้ยวนัดฉันเมื่อวานนี้)
หมายถึง การเถียงหรือทำบางอย่างเพื่อปกป้องบางคนหรือบางสิ่ง
เช่น There’s no one to stand up for me. (ไม่มีใครคอยปกป้องฉัน)
สำนวนนี้อาจจะดูคล้ายกับสำนวนเมื่อสักครู่ ต่างกันตรงที่เปลี่ยนจากคำว่า for เป็นคำว่า to ซึ่งทำให้ความหมายเปลี่ยนไปเป็น การเถียงกับ....
เช่น She bravely stood up to her enemy. (เธอเถียงกับศัตรูของเธออย่างกล้าหาญ)
มีความหมายคล้ายกับ stand out นั่นก็คือ โดดเด่นกว่าสิ่งรอบข้าง แตกต่างจากสิ่งรอบข้าง
เช่น This bag really stands apart. It is better than the others. (กระเป๋าใบนี้โดดเด่นมาก คุณภาพดีกว่าใบอื่น ๆ)
หมายถึง รู้สึกภาคภูมิใจหรือมั่นใจในศักยภาพที่ตัวเองมี
เช่น I expect you to stand tall as you always does. (ฉันหวังว่าเธอจะมั่นใจในศักยภาพของตัวเองอย่างที่ผ่าน ๆ มา)
คือการยอมรับ อดทน ไม่ถ้อทอยต่อบางสิ่งบางอย่าง
เช่น I think the boss will stand still for your new plan. (ฉันคิดว่าเจ้านายน่าจะเห็นด้วยกับแผนใหม่ที่คุณเสนอ)