หากพูดถึงการทำประกันภัยแล้ว มักจะต้องประด้วยองค์ประกอบหลายส่วน จึงจะทำให้เกิดการทำประกันได้ นั่นก็คือ ต้องมีบริษัทประกันหรือผู้รับทำประกัน มีผู้เอาประกันหรือผู้ที่ต้องการทำประกัน กรมธรรม์หรือหนังสือสัญญา และอีกส่วนหนึ่งก็คือ เบี้ยประกันชีวิตหรือค่าตอบแทนแก่บริษัทประกัน
ดังนั้น เบี้ยประกันจึงเปรียบเสมือนการจ่ายค่าตอบแทน หรือเป็นสินน้ำใจ ให้กับผู้ที่ทำหน้าที่เสียสละรับความเสี่ยงแทนเรา เมื่อใดก็ตาม ที่เกิดเหตุการณ์อันไม่คาดฝันเกิดขึ้น ผู้รับประกันเหล่านี้ก็มีหน้าที่ ที่จะต้องจ่ายค่าเสียหาย ตามที่ได้ตกลงกันเอาไว้ ในสัญญาให้กับเรานั่นเอง และถ้าหากเราพูดถึงเบี้ยประกันชีวิต ในแง่ของความเป็นจริงแล้วละก็ มันก็คือ จำนวนเงินจำนวนหนึ่ง ที่ผู้เอาประกันจะต้องจ่ายให้แก่บริษัทประกันภัย ตามข้อตกลงที่ได้ทำสัญญากันเอาไว้ในกรมธรรม์
การเก็บเบี้ยประกันของบริษัทประกันนั้น จะมีการวางแผน และวิเคราะห์ผลกำไรมาแล้วเป็นอย่างดี เพื่อให้เงินทุนสามารถหมุนเวียนภายในบริษัทได้อย่างคล่องตัว บวกกับคุ้มค่ากับผลกำไรที่ได้รับ ดังนั้น ค่าเบี้ยประกันที่เรียกเก็บจากผู้เอาประกันนั้น จะเป็นการรวมเอาค่าต้นทุน บวกกับค่ากำไรที่บริษัทควรได้ เอาไว้เป็นที่เรียบร้อย