การรู้จักนำครั่งและสีครั่งมาใช้ประโยชน์และเป็นสินค้าซื้อขายกันนั้นได้มีการค้าขายกันมาแต่สมัยโบราณแล้วแต่ยากที่จะหาหลักฐานที่แน่นอนได้แต่พอจะประมาณได้ไม่น้อยกว่า ๔,๐๐๐ ปีมาแล้ว การใช้ประโยชน์ครั่งต่าง ๆ รวมทั้งการใช้สีแดงจากครั่งสืบเนื่องกันมาเป็นเวลาช้านานหลายศตวรรษมาแล้วในสมัยแรกที่รู้จักกันนั้นนำไปใช้เพียงในงานศิลปกรรมและงานช่างฝีมือแล้วต่อมาก็ค่อย ๆ ปรับปรุงรู้จักนำครั่งมาเลี้ยงมากขึ้นแล้วก็ศึกษาค้นคว้าวิธีแยกสีจากครั่งมาใช้ในการทอผ้า การทาสี การทำพรมปูพื้น การช่างไม้ และช่างโลหะในการแยกสีจากครั่งนั้นก็ใช้วิธีเอาครั่งดิบไปแช่ไว้ในน้ำเพื่อให้สีละลายส่วนการแยกครั่งบริสุทธิ์ออกนั้นก็ทำโดยเอาครั่งใส่ถุงผ้าแล้วใช้ความร้อนอบให้ละลายคั้นเอาครั่งบริสุทธิ์ออกมาวิธีนี้ในปัจจุบันยังใช้ในการทำอุตสาหกรรมเชลแล็กประโยชน์ที่ได้จากครั่งมีดังนี้
๑.๑ ใช้เป็นยาสมุนไพรรักษาโรคโลหิตจาง
๑.๒ ใช้เป็นสีย้อมผ้าขนสัตว์ผ้าไหม หนังฟอก
๑.๓ ใช้ทำสีแต่งอาหาร เช่น ขนม ผลไม้ ไม่มีพิษภัย
๑.๔ ใช้ทำสีเครื่องสำอางเสริมสวย
๒.๑ ใช้ตบแต่งผิวหน้าวัตถุที่ทำด้วยไม้ เช่น เครื่องกลึงการช่างฝีมือเกี่ยวกับไม้เนื้อครั่งจะช่วยให้ไม้เรียบเป็นมันเงางามเนื้อครั่งที่ผสมสีใช้ทาผิวหน้าไม้ให้เป็นสีต่าง ๆ เช่น หัวไม้ที่ใช้ในการสร้างบ้านเรือน เครื่องเรือน ของเด็กเล่น เป็นต้น
๒.๒ ใช้เป็นแกนภายในเครื่องเงินเครื่องทองที่ใช้เป็นเครื่องประดับเครื่องใช้สอย เช่น ด้ามมีดใช้ครั่งเป็นแกนอยู่ข้างในแล้วหุ้มด้วยแผ่นเงินแผ่นทองใช้เป็นตัวเรือนสำหรับติด เพชร พลอย ของเครื่องประดับต่าง ๆ
๒.๓ เชลแล็กผสมกับผงทรายใช้ในการทำหินเจียระไน
๒.๔ ใช้เคลือบผิวโลหะให้มีสีตามต้องการโดยทำโลหะนั้นให้มีความร้อนแล้วเอาเชลแล็กซึ่งผสมสีแล้วทาลงไป
๒.๕ ใช้เป็นครั่งประทับตราในการห่อพัสดุเป็นครั่งหรือผนึกต่าง ๆ เป็นต้น