การเผยแพร่และการจำหน่ายเชิงพาณิชย์
ในอนาคตการนำเอาวิธีการควบคุมโรคพืชด้วยวิธีชีวภาพมาใช้จะเป็นไปอย่างกว้างขวาง เนื่องจาก มีข้อดีหลายประการ ที่เหนือกว่าการใช้สารเคมี อย่างไรก็ตามความสำเร็จที่จะได้รับในอนาคตนั้น ขึ้นอยู่กับการเผยแพร่ความรู้ ที่จะต้องเร่งศึกษาค้นคว้ากันอย่างจริงจัง และมากยิ่งขึ้นในด้านต่างๆ ที่มีข้อมูลไม่เพียงพอ เพื่อให้สามารถนำมาแก้ไขปัญหาต่างๆ รวมทั้งการพัฒนา เพื่อการจำหน่ายเชิงพาณิชย์ให้มีประสิทธิภาพดียิ่งขึ้น
ปัญหาการควบคุมโรคพืชโดยนำวิธีชีวภาพไปใช้ในทางปฏิบัติ
การควบคุมโรคพืชด้วยวิธีชีวภาพในปัจจุบันมักพบปัญหาและอุปสรรคหลายประการซึ่งพอสรุปได้ดังนี้
ความน่าเชื่อถือ
เนื่องจากผลิตภัณฑ์เชื้อปฏิปักษ์ที่ใช้เป็นสิ่งมีชีวิตมีความผันแปรได้ง่าย หากไม่มีการควบคุมคุณภาพในการผลิตให้ดีแล้ว จะทำให้มีผลการควบคุมโรคแตกต่างกัน ก่อให้เกิดความไม่น่าเชื่อถือขึ้น นอกจากนี้การปฏิบัติต่างๆ ภายหลังจากใช้ผลิตภัณฑ์ไปแล้วจะต้องมีการดูแลเอาใจใส่ตามวิธีที่แนะนำไว้อย่างเคร่งครัด มิฉะนั้นจะทำให้ผลการควบคุมโรคไม่ได้ผลดีสม่ำเสมอทุกครั้งที่ใช้ เป็นเหตุให้ความน่าเชื่อถือลดลง ดังนั้นจึงควรเลือกหาหรือซื้อผลิตภัณฑ์จากผู้ผลิตที่เชื่อถือได้ หรือได้รับการรับรองจากหน่วยราชการที่เกี่ยวข้อง
ประสิทธิภาพ
การผลิตเชื้อปฏิปักษ์แต่ละชนิดจะมีการใช้เชื้อจุลินทรีย์ต่างชนิด และต่างสายพันธุ์กัน ซึ่งเชื้อเหล่านี้จะมีประสิทธิภาพในการควบคุมโรคพืชได้แตกต่างกัน หากผู้ที่ทำการคัดเลือกไม่ระมัดระวังแล้ว จะทำให้ได้เชื้อที่มีคุณภาพหรือประสิทธิภาพไม่ดี เมื่อใช้ไปแล้วอาจสูญเสียคุณสมบัติของการเป็นเชื้อปฏิปักษ์ไปได้ หรือเชื้อเสียชีวิตเร็ว ไม่ทนทานต่อสภาพแวดล้อม ทำให้เสื่อมประสิทธิภาพเร็ว มีผลทำให้ควบคุมโรคไม่ได้เหมือนเดิม ดังนั้นจึงไม่ควรนำเชื้อ ที่ผ่านการขยายพันธุ์มาแล้ว มาขยายพันธุ์ซ้ำ จะทำให้เชื้อมีความบริสุทธิ์ลดลง และมีผลทำให้ประสิทธิภาพเสื่อมลงตามไปด้วย
ขอบเขตในการควบคุมโรค
เชื้อปฏิปักษ์ที่ได้รับการคัดเลือก เมื่อนำมาใช้โดยทั่วไปมักมีคุณสมบัติในการควบคุมโรคได้เฉพาะโรค หรือเฉพาะเชื้อชนิดใดชนิดหนึ่งเท่านั้น จึงมีความพยายามคัดเลือกหาเชื้อปฏิปักษ์ ที่มีขอบเขตในการควบคุมโรคได้กว้างขวางมากขึ้น คือ สามารถใช้ควบคุมโรคได้หลายโรคหรือพืชหลายชนิด จะช่วยทำให้ข้อจำกัดในการนำไปใช้ควบคุมโรคลดน้อยลง และเพิ่มความนิยมในการนำไปใช้มากขึ้น
ราคาของผลิตภัณฑ์
ผลิตภัณฑ์ทางชีวภาพที่ผลิตขึ้นจำหน่ายในปัจจุบันมักมีราคาค่อนข้างแพง เนื่องจากมีข้อจำกัดในด้านการผลิตและอายุ การใช้งานสั้น เมื่อเปรียบเทียบกับผลิตภัณฑ์ที่เป็นสารเคมีสังเคราะห์ ดังนั้นการนำผลิตภัณฑ์มาใช้โดยตรงจะสิ้นเปลืองมาก จึงควรนำผลิตภัณฑ์มาขยายเพิ่มปริมาณจุลินทรีย์ปฏิปักษ์ ก่อนนำไปใช้ จะช่วยลดค่าใช้จ่ายในการซื้อผลิตภัณฑ์ทางชีวภาพ
การปรับปรุงกิจกรรมการควบคุมโรคด้วยวิธีชีวภาพ
เชื้อจุลินทรีย์ปฏิปักษ์สามารถนำมาเพิ่มกิจกรรมในการควบคุมโรคให้มากขึ้นได้หลายวิธี ซึ่งส่วนใหญ่เป็นการปรับปรุงปัจจัย ที่เกี่ยวข้องกับการดำรงชีวิตของเชื้อปฏิปักษ์ในธรรมชาติ โดยการศึกษาปรับปรุงเชื้อปฏิปักษ์ให้เหมาะสมในด้านต่างๆ มีดังนี้
สภาพแวดล้อม
เชื้อปฏิปักษ์ที่ดีควรจะต้องเป็นเชื้อที่สามารถเจริญเติบโตและควบคุมโรคได้ทุกสภาวะ ไม่ว่าจะมีอากาศร้อนหรือเย็น ชื้นหรือแห้งแล้ง ดินเป็นกรดหรือด่าง มีอาหารสมบูรณ์หรือขาดแคลน ดังนั้นการคัดเลือกเชื้อปฏิปักษ์จึงนิยมคัดเลือกในสภาวะที่ต้องการจะนำไปใช้ เพื่อให้เชื้อปฏิปักษ์เจริญได้ดี
เชื้อสาเหตุของโรคพืช
เชื้อสาเหตุของโรคพืชเป็นปัจจัยหนึ่งที่เกี่ยวข้องกับการควบคุมโรคด้วยวิธีชีวภาพ ซึ่งเชื้อจะมีความแตกต่างกันตรงสายพันธุ์ ดังนั้นการคัดเลือกเชื้อปฏิปักษ์ จะต้องมีการทดสอบ เพื่อให้สามารถควบคุมเชื้อโรคได้ทุกสายพันธุ์ จึงจะทำให้มีคุณภาพดียิ่งขึ้น
พืชอาศัย
พืชอาศัยของเชื้อโรคทั้งชนิดที่ปลูกและชนิดที่ไม่ได้ปลูก (วัชพืช) จะเป็นแหล่งที่อยู่อาศัยของเชื้อโรค ดังนั้นการนำเชื้อปฏิปักษ์มาใช้ จะต้องเป็นเชื้อที่สามารถเจริญอยู่ร่วมกับพืชต่างๆ ได้ดี และจะดียิ่งขึ้นถ้าหากเจริญได้ดีกว่าเชื้อโรคในพืชทุกชนิดและทุกส่วนของพืช อย่างไรก็ตาม เชื้อปฏิปักษ์บางชนิดอาจมีความสามารถเจริญได้ดีเฉพาะบนใบหรือส่วนที่อยู่เหนือดิน ในขณะที่บางชนิดชอบอยู่ในดินหรือบริเวณรากที่อยู่ใต้ดิน ดังนั้นการคัดเลือกเชื้อปฏิปักษ์จึงควรให้เหมาะสมกับสภาพที่จะนำไปใช้ เพื่อให้ความคุ้มครองป้องกันส่วนต่างๆ ของพืช จากการเข้าทำลายของเชื้อโรคพืชได้เป็นอย่างดี
เชื้อปฏิปักษ์
ความสามารถในการควบคุมเชื้อโรคของเชื้อปฏิปักษ์มักมีประสิทธิภาพไม่สูงนัก เมื่อเปรียบเทียบกับประสิทธิภาพของสารเคมี และมีความเฉพาะเจาะจงมาก เมื่อนำมาใช้ จึงค่อนข้างจะได้ผลไม่ค่อยสม่ำเสมอทุกครั้งและทุกๆ พื้นที่ที่สภาพแวดล้อมแตกต่างกัน ดังนั้น จึงมีความพยายามปรับปรุงกิจกรรมการควบคุมโรคของเชื้อปฏิปักษ์ให้มีคุณภาพสูงยิ่งขึ้น สามารถควบคุมได้ทุกพื้นที่ และควบคุมชนิดของเชื้อโรคพืชได้มากขึ้น
การผสมผสานการใช้ด้วยวิธีชีวภาพในการควบคุมโรคพืช
เป็นที่ยอมรับกันว่า การควบคุมโรคพืชหรือหลักการในการจัดการโรคพืช ด้วยวิธีชีวภาพจะได้ผลดีที่สุด เมื่อมีการใช้หลายวิธีผสมผสานกัน เป็นแบบบูรณาการ ดังตัวอย่างต่อไปนี้
การใช้ร่วมกับการปรับปรุงวิธีการเพาะปลูกต่างๆ
เช่น ปรับปรุงดิน ไถพรวน ให้น้ำ ไขน้ำท่วมแปลง ใช้แสงแดดฆ่าเชื้อ
การใช้ร่วมกับพันธุ์ต้านทาน
ซึ่งจะช่วยให้พืชได้รับความคุ้มครองมากยิ่งขึ้น
การใช้ร่วมกับสารเคมี
สารเคมีบางชนิดบางครั้งอาจมีความจำเป็นในการใช้เพื่อทำลายศัตรูของเชื้อปฏิปักษ์ที่จะใช้เป็นตัวควบคุมโรคพืช เพราะมักพบเสมอว่า ในดินที่อบฆ่าเชื้อแล้ว จะมีประสิทธิภาพ ในการควบคุมโรค มากกว่าในดิน ที่ไม่ได้ฆ่าเชื้อ หรือในทางตรงข้ามอาจจำเป็นต้องลดการใช้สารเคมีกำจัดศัตรูพืชบางชนิดลง
การใช้ร่วมกับการปรับปรุงสภาพแวดล้อม
การปรับปรุงสภาพแวดล้อมให้เหมาะสมต่อการเจริญเติบโตของเชื้อปฏิปักษ์ที่ใช้ควบคุมโรค จะให้ผลดีกว่าสภาพแวดล้อมที่ไม่ได้ปรับปรุง เช่น การนำเชื้อปฏิปักษ์ไปเก็บไว้ในที่ร่มไม่ให้ถูกแสงแดดจัด เชื้อปฏิปักษ์จะได้ไม่ตาย หรือมีการปรับปรุงสภาพความเป็นกรด-ด่าง (pH) ของดิน เพื่อให้เชื้อปฏิปักษ์อยู่ในดินได้เป็นเวลานาน
การใช้เชื้อปฏิปักษ์ร่วมกับจุลินทรีย์ชนิดอื่น
ซึ่งจะทำให้มีประสิทธิภาพในการควบคุมโรคได้หลายโรค หรือมีประสิทธิภาพสูงขึ้น