ทางด้านธุรกิจจะได้รับผลกระทบจากการใช้คอมพิวเตอร์ก่อนด้านอื่น เพราะว่าทางธุรกิจต้องมีการแข่งขันกันมาก ความคล่องตัวในการตัดสินใจ ความคล่องตัวในการลงทุน ความพยายามลดค่าใช้จ่าย สิ่งเหล่านี้ ทำให้คอมพิวเตอร์สามารถเข้ามามีอิทธิพลในวงการธุรกิจเร็วกว่าด้านอื่น แต่ในระยะแรกประสบปัญหาหลายประการ เช่น การต่อต้าน การไม่สามารถปรับระบบงานเดิมเข้ากับระบบคอมพิวเตอร์ ระบบเครื่องคอมพิวเตอร์ที่ไม่เหมาะสมกับงาน ปัญหาเหล่านี้จะสร้างผลกระทบที่สำคัญต่องานต่างๆ ในวงธุรกิจโดยย่อ ดังนี้
งานด้านธุรการและสารบรรณ ประกอบด้วยงานเขียนข้อความประมาณร้อยละ ๑๕-๒๐ งานจัดแฟ้มเอกสารร้อยละ ๑๕-๒๐ งานค้นหาเอกสารร้อยละ ๑๕-๒๐ งานพิมพ์ดีดประมาณร้อยละ ๑๕-๒๐ สิ่งเหล่านี้คอมพิวเตอร์จะสามารถเข้ามาช่วยงานได้มาก บุคคลซึ่งเคยทำงานนี้อยู่แต่เดิม จะรู้สึกไม่ยอม จะต่อต้านเครื่องมือใหม่ วิธีการใหม่ และไม่ยอมรับการเปลี่ยนแปลง การเรียนรู้ กลัวที่จะทำงานดังกล่าวไม่ได้ ยิ่งมีเครื่องมือทันสมัยเพียงไร ก็จะมีการต่อต้านมากขึ้นเพียงนั้น แม้ว่าเครื่องมือจะอำนวยความสะดวกให้มากมายเพียงใดก็ตาม
จะมีผลกระทบค่อนข้างมากในด้านการตรวจสอบบัญชี การตรวจสอบด้วยเครื่องมือคอมพิวเตอร์ จะประหยัดแรงงาน เวลา และกระดาษพิมพ์ เจ้าหน้าที่ต้องเปลี่ยนวิธีการทำงานจากการอ่านสมุดบัญชี มาเป็นการรู้จักใช้เครื่อง และชุดคำสั่งคอมพิวเตอร์ในการตรวจสอบ
งานทางด้านบัญชี ซึ่งเคยต้องลอกตัวเลขจากบัญชีประเภทหนึ่ง มากรอกลงบัญชีอีกประเภทหนึ่ง รวมทั้งงานที่จะต้องแยกประเภทบัญชี การคิดบัญชีต้นทุน การทำสรุป รายงาน งานเหล่านี้แทบว่าจะหมดไป ถ้าหน่วยงานนั้น ได้มีการวางระบบการดำเนินการการใช้คอมพิวเตอร์อย่างเหมาะสม นักบัญชีแบบเดิมจะต้องเปลี่ยนเป็นนักบัญชี ที่มีหน้าที่ควบคุมตัวเลข ควบคุมระเบียบการเบิกจ่ายเงินเป็นขั้น เป็นตอน ควบคุมการกระทบยอดบัญชี และควบคุมนโยบายด้านการเงิน เป็นต้น
การย้ายเงินเข้าบัญชีจากบริษัทหนึ่งไปเข้าบัญชีของอีกบริษัทหนึ่ง จากบัญชีธนาคารหนึ่งไปเข้าบัญชีอีกธนาคารหนึ่ง หรือบัญชีของธนาคาร ไปเข้าบัญชีของบริษัท หรือบัญชีของบริษัทไปเข้าบัญชีของธนาคาร เหล่านี้คอมพิวเตอร์จะเข้ามามีส่วนช่วยในการดำเนินการ โดยที่มนุษย์ไม่ได้เห็นตัวเงินเลย เห็นแต่ตัวเลข ผู้ที่ทำหน้าที่เหล่านี้ ซึ่งเคยจะต้องตรวจสอบลายมือ ลายเซ็น ตรวจสอบบัญชี ก็ไม่ต้องทำเอง ให้คอมพิวเตอร์ทำแทน วิธีนี้จะลดเวลาในการดำเนินงาน ลดปริมาณกระดาษที่ใช้ แต่ผู้ที่ปฏิบัติงานเดิมจะลดความสำคัญของตนเองลง
ในการคำนวณภาษี เพื่อการหักภาษีในการจ่ายเงินเดือน การหักภาษีในการซื้อหรือขายสินค้า คอมพิวเตอร์จะสามารถช่วยงานได้ทั้งหมด เจ้าหน้าที่จึงทำงานในลักษณะควบคุมระบบ ติดตามการเสียภาษี ทำรายงาน และรายการการเสียภาษีเท่านั้น
ในการผลิตสินค้า และอุปกรณ์ของวงการธุรกิจ มีการนำผลการพัฒนาด้านคอมพิวเตอร์ในรูปต่างๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งไมโครโปรเซสเซอร์ เข้ามาช่วยควบคุมอุปกรณ์ที่ทำงานในโรงงานมากขึ้นทุกที นอกจากนี้ ยังใช้ควบคุมการใช้ไฟฟ้า น้ำมัน เพื่อให้ดำเนินการได้อย่างประหยัดที่สุด เมื่อใช้คอมพิวเตอร์ช่วยงานมากขึ้น แรงงานใช้น้อยลง อาจจะมีปัญหาเกี่ยวกับแรงงานมากขึ้น ในขณะเดียวกันผลกำไรขาดทุน คุณภาพในการผลิต ความสะดวกในการควบคุม และการบริหารของวงการธุรกิจนั้นๆ ยังทำให้จำเป็นต้องใช้เครื่องทำงานอัตโนมัติอยู่
ด้านการขาย จะมีการวิเคราะห์การขาย ในรูปแบบต่างๆ กัน ทำให้รู้สภาพและสถานะของการขาย เจ้าหน้าที่ฝ่ายขายจะต้องติดตามงาน และรายงานผลมากขึ้น และในเวลาเดียวกัน ผู้จัดการฝ่ายขายสามารถใช้คอมพิวเตอร์ วิเคราะห์ประสิทธิภาพ การดำเนินงาน ของเจ้าหน้าที่ฝ่ายขายทุกคนได้ด้วย ดังนี้ จะมีผลดีต่อทางบริษัท แต่เวลาเดียวกัน ผู้ทำหน้าที่เป็นคนขายจะรู้สึกไม่สบายใจ เพราะถูกหัวหน้าคอยติดตามอยู่ตลอดเวลา ทำให้คนขายต้องหาทางปรับปรุงตัวเอง หาทางศึกษา และเปลี่ยนวิธีการของตนเองอยู่เสมอ จะต้องใช้เวลานานพอสมควร กว่าผู้ที่ทำหน้าที่ด้านขาย จะเข้าใจในปัญหาเหล่านี้
ผู้บริหารระดับผู้จัดการฝ่ายขึ้นไป จำเป็นต้องใช้วิธีการตัดสินใจ โดยพึ่งข้อมูลมากขึ้น ในระบบเดิม อาจจะพิจารณาเพียงรายงานคร่าวๆ แต่เมื่อมีคอมพิวเตอร์มาใช้รายงานจะต้องมีตัวเลขประกอบการพิจารณาในรูปแบบต่างๆ กันมากขึ้น ทั้งนี้เพื่อใช้ตอบคำถามแก่ผู้บริหารระดับสูงขึ้นไป หรือตอบคำถามแก่กรรมการบริหาร ในการทำงานตามระบบเดิม อาจจะอ้างได้ว่า ยังหาตัวเลขไม่ได้ หรือหาตัวเลขไม่ทัน แต่เมื่อนำคอมพิวเตอร์มาใช้ ข้ออ้างเหล่านั้นจะใช้ไม่ได้ การนำระบบคอมพิวเตอร์เข้ามาใช้ ทำให้การบริหารงานเปลี่ยนไปในลักษณะที่จะต้องเน้นที่ประสิทธิภาพการหารายได้ และค่าใช้จ่ายที่เสียไปมากขึ้น
ผลกระทบทางด้านธุรกิจนี้ จะทำให้เกิดความจำเป็น ธุรกิจต่างๆ ต้องวางเป้าหมาย และทุกฝ่ายจะต้องหาทางทำงานให้ได้ตามเป้าหมาย โดยมีข้อมูลเป็นตัวประกอบการพิจารณาตลอดเวลา ทุกฝ่ายต้องวางแผนมากขึ้น แท้ที่จริงแล้วในระบบเดิมที่ไม่ใช้คอมพิวเตอร์จำเป็นต้องมีการดำเนินการแบบนี้ แต่ว่า การประเมินผลทำได้ช้า หรือทำไม่ค่อยได้ด้วยวิธีการธรรมดา คนส่วนใหญ่จึงเห็นว่า ไม่จำเป็น หรือหากทำ ก็ได้ข้อมูลไม่ถูกต้อง จึงละเลยการกระทำเหล่านี้ไป แต่เมื่อมีการใช้คอมพิวเตอร์ก็ต้องเปลี่ยนวิธีการทำงาน
ส่วนที่มีผลกระทบที่สำคัญ คือ คนทำงาน หรือผู้ที่ปฏิบัติหน้าที่อยู่เดิมจะรู้สึกว่า ตนเองมีความสำคัญน้อยลง เพราะมีงานน้อยลง หรือไม่มีงานทำเลย ทำให้เกิดความกลัวที่จะถูกไล่ออกตามมา สิ่งเหล่านี้ไม่เป็นความจริงนัก ถ้าผู้บริหารเข้าใจวิธีการแล้ว จะเห็นว่า คนที่มีความเข้าใจงานเดิมเหล่านี้ จะมีประโยชน์ต่องานทางคอมพิวเตอร์อย่างยิ่ง เพราะแท้ที่จริงแล้ว ในระบบคอมพิวเตอร์ ยังต้องการผู้รู้งานเดิมช่วยงานอยู่เป็นอันมาก เช่น พนักงานพิมพ์ดีดจะสามารถช่วยในการตัดสินใจที่จะออกจดหมาย หรือตอบจดหมาย โดยใช้คอมพิวเตอร์ช่วย ไม่ต้องมีคนมาบอกให้ทำ และยังสามารถทำได้ด้วยความถูกต้อง ไม่มีข้อผิดพลาด หรือมีข้อบกพร่องเลย กลับทำให้ดูคล้ายๆ กับว่า เป็นพนักงานพิมพ์ดีดที่มีความสามารถสูง คนที่เคยทำหน้าที่ลงบัญชี โดยการเขียน ก็สามารถเปลี่ยนเป็นคนนำข้อมูลเข้าเครื่องคอมพิวเตอร์ และเวลาเดียวกันจะสามารถให้คอมพิวเตอร์ช่วยตรวจสอบว่า ควรจะมีข้อผิดพลาดประการใดได้บ้าง ซึ่งจะสามารถแก้ไขได้ทันท่วงที สิ่งเหล่านี้ ทำให้ทำงานได้ โดยไม่มีข้อผิดพลาด ใช้แรงงานน้อยลง จึงมองดูคล้ายกับว่า ตนเองเป็นนักลงบัญชีที่มีความสามารถ ดังนั้นพอจะสรุปได้ว่า การดำเนินการของงานด้านธุรกิจ จะได้รับผลกระทบ ให้คนต้องทำงานในลักษณะ ที่คอยควบคุมการดำเนิน การควบคุมการเคลื่อนที่ของข้อมูล ควบคุมการนำตัวเลขเข้าเครื่องคอมพิวเตอร์ ควบคุมการประเมินผล ควบคุมความปลอดภัยของข้อมูล และสถานที่ จะต้องใช้สมองในการคิด และตัดสินใจมากขึ้น เมื่อเจ้าหน้าที่ระดับต่างๆ กัน สามารถตัดสินใจ ในเรื่องที่แต่ละคนรับผิดชอบได้ดีขึ้น ผู้บริหารระดับสูงจำเป็นต้องกระจายอำนาจ และไม่สามารถกระทำงานได้ด้วยคนเดียวอีกต่อไป ผลกระทบที่เกิดขึ้นต่อเนื่องกันคือ จะมีอาชญากรแบบใหม่ที่จะใช้ช่องโหว่ ของการเปลี่ยนแปลงระบบเหล่านี้ ก่ออาชญากรรมที่ลึกซึ้ง ตรวจสอบจับตัวคนผิดได้ยาก จึงต้องสร้างระบบการรักษาความปลอดภัย ที่เข้มแข็งขึ้น ตามขั้นตอน ของการดำเนินการต่างๆ เป็นสาเหตุให้ต้องเพิ่มแรงงานด้านการบริการ ในลักษณะการรักษาความปลอดภัย ประเภทต่างๆ ขึ้นตามมาอีกด้วย