ทุกคนต่างรู้ว่ามันมีสารเคมีที่เป็นพิษมากมายที่อยู่ในบุหรี่ การสูดควันไฟเข้าไปในร่างกายก็ไม่ได้ก่อให้เกิดผลดี อย่างไรก็ดี ในแต่ละปีก็ยังคงมีคนสูบบุหรี่เพิ่มขึ้น นักสูบหน้าใหม่เพิ่มขึ้นมากและเร็วกว่าจำนวนคนที่หยุดหรือเลิกบุหรี่ แต่อะไรจะเกิดขึ้นล่ะหากคนหนึ่งคนหยุดสูบบุหรี่ อาการทางร่างกายเปลี่ยนไปอย่างไร อาการลงแดงคืออะไร และมันมีจริงๆ หรือ ทำไมบางคนหยุดได้ง่ายดาย แต่อีกหลายคนกลับหันกลับไปสูบซ้ำอีก
แม้ว่าบุหรี่หนึ่งมวนจะมีส่วนประกอบไม่มาก คือ ใบยาสูบที่ถูกหั่นซอย อบแห้ง ไส้กรอง กระดาษมวน และสารแต่งกลิ่นและลดการระคายเคืองเพื่อให้บุหรี่สูบได้ง่ายขึ้น แต่สารเคมีที่ถูกปล่อยออกมาหลังจากการเราจุดมันนั้นมีมากกว่า 4,000 ชนิด และแม้จะมีชนิดของสารเคมีที่ก่อให้เกิดโทษเพียง 1% ของสารที่ปล่อยออกมาพร้อมกับควันบุหรี่ แต่มันก็คิดเป็นจำนวนสารเคมีกว่า 40 ชนิดที่ก่อโทษต่อร่างกาย ในรูปแบบของโรคต่างๆ ที่เกี่ยวกับทางเดินหายใจ หลอดเลือด รวมถึงมะเร็ง
จากการศึกษาพบว่า หลังจากคุณสูบบุหรี่จนหมดมวน ร่างกายของคุณจะเปลี่ยนแปลงในทันที การเต้นของหัวใจและความดันเลือดซึ่งเพิ่มขึ้นในช่วงที่คุณสูบบุหรี่อยู่ก็จะลดลงมาอยู่ในระดับปกติ หากพูดถึงแค่เรื่องการเต้นของหัวใจ การที่คุณกำลังเครียดกับปัญหาอะไรซักอย่างและพยายามคลายเครียดด้วยการสูบบุหรี่ เหตุผลทางวิทยาศาสตร์ในเรื่องนี้บอกว่าการสูบบุหรี่ไม่ได้ช่วยลดความเครียดในร่างกายและสมองของคุณแต่อย่างใด ในขณะที่คุณสูบบุหรี่สารนิโคตินที่ร่างกายคุณได้รับจะทำให้ Epinephrine (เอพิเนพริน) และ Norepinephrine (นอร์เนพิเนพริน) เพิ่มขึ้น ซึ่งสารทั้งสองตัวนี้กระตุ้นให้หัวใจเต้นเร็วขึ้น หลอดเลือดหดตัวเล็กลง ความดันเลือดก็จะสูงขึ้นตามมา มันจึงดูขัดกันอย่างมากหากคุณพยายามจะสงบสติอารมณ์จากความเครียดและปัญหาที่ถาโถม ด้วยการเพิ่มความดันเลือดและอัตราการเต้นของหัวใจ
หลังจากผ่านไปซักพักราวๆ 2 ชั่วโมง ร่างกายของคุณซึ่งเสพติดการได้รับสารนิโคติน ก็จะกระตุ้นเตือนให้เกิดความรู้สึกอยากได้รับนิโคตินอีกครั้ง และนั่นเป็นเหตุให้คนที่สูบบุหรี่จะถูกกระตุ้นให้สูบอีกครั้ง และอีกครั้ง เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ หากไม่ได้รับสารนิโคตินหรือไม่ได้สูบบุหรี่อีกครั้งคุณก็จะหงุดหงิด อ่อนเพลีย ความเครียดเพิ่มขึ้น และอาจจะทำให้นอนหลับได้ยาก อีกครั้งที่นิโคตินเป็นตัวการของอาการทั้งหมด นิโคตินกระตุ้นให้มี Dopamine (โดพามีน) ไหลเวียนในเลือด และการขาดสาร Dopamine ก็จะทำให้ร่างกายไม่ได้รับการกระตุ้น อาจจะรู้สึกหงอย ห่อเหี่ยว แต่ก็ไม่สามารถนอนหลับได้
อันที่จริงร่างกายของคุณเองก็พยายามอย่างหนักในการขับสารพิษที่สะสมหรือได้รับเข้ามาจากการสูบบุหรี่ในรูปแบบต่างๆ คุณจะไอมากขึ้นหลังจากที่หยุดสูบบุหรี่ไปซักพักเนื่องจากร่างกายต้องการขับสารพิษที่เกาะอยู่ในถุงลมต่างๆ ในปอด ซึ่งเป็นกระบวนการเดียวกันกับเวลาที่คุณสูดกลิ่นควันพิษ ควันรถ ซึ่งร่างกายจะกระตุ้นให้เกิดอาการไอ เพื่อขับเอาฝุ่นและสารพิษที่สูดดมเข้าไปออกมาให้ได้มากที่สุด การฟื้นตัวของร่างกายในรูปแบบของการลดลงของความดันเลือดจะทำให้ความเสี่ยงต่อโรคหัวใจและหลอดเลือดลดลงภายในหนึ่งวันหลังจากสูบบุหรี่มวนสุดท้ายไป หลังจากนั้นเซลล์ประสาทและเซลล์ส่วนต่างๆ ของร่างกายก็จะเริ่มฟื้นตัว และซ่อมแซม
แน่นอนว่าหากคุณเป็นผู้ที่สูบบุหรี่เป็นเวลานาน เม็ดเลือดแดงที่โดยปกติแล้วต้องขนส่งออกซิเจนไปทั่วร่างกายจะไม่สามารถทำงานได้เต็มประสิทธิภาพเนื่องจากการเผาไหม้ของบุหรี่ทำให้ร่างกายได้รับคาร์บอนมอนนอกไซด์เข้าไปในกระแสเลือดเพิ่มขึ้นด้วย เม็ดเลือดแดงของผู้ที่สูบบุหรี่เป็นเวลานานจะปรับตัวให้มีขนาดใหญ่ขึ้นและมีพื้นที่เพื่อการขนส่งออกซิเจนได้ การขยายตัวของเซลล์เม็ดเลือดแดงนี้ทำเลือดข้นขึ้นและทำให้เกิดความดันเลือดสูงในการขับดันเม็ดเลือดแดงให้เคลื่อนที่ไปยังส่วนต่างๆ การปรับเปลี่ยนของเม็ดเลือดแดงต้องใช้เวลาซักพักกว่าจะกลับคืนเป็นปกติ เช่นเดียวกันกับเซลล์รับรสบริเวณลิ้นและเซลล์ต่างๆ ในช่องปากที่ถูกทำลายโดยความร้อนจากการเผาไหม้และการเคลือบของทาร์ (Tar-น้ำมันเหนียวข้นสีน้ำตาล) ในบริเวณช่องปาก และระบบทางเดินหายใจ ซึ่งจำเป็นต้องใช้เวลาในการทำความสะอาดและกำจัดออก
แม้ว่าความเสียหายที่เกิดขึ้นจากการสูบบุหรี่บางส่วนจะเป็นความเสียหายถาวรที่ไม่อาจจะฟื้นกลับมาได้ มันก็ยังดีกว่าที่จะเพิ่มความเสี่ยงและทำร้ายตัวเองและคนรอบข้างมากขึ้นเรื่อยๆ จากการสูบบุหรี่ วิธีการลด ละ เลิกบุหรี่มีมากมายหลายรูปแบบ รวมถึงโครงการทั้งภาครัฐและเอกชน อีกทั้งโรงพยาบาลและหน่วยงานที่ไม่แสวงหาผลกำไรเองก็ต่างร่วมมือช่วยกันลดจำนวนผู้สูบบุหรี่ให้ได้ เพราะบุหรี่เป็นหนึ่งในสาเหตุการตายของคนที่สูงที่สุดซึ่งสามารถป้องกันได้ การลดจำนวนคนกว่า 3 พันล้านคนบนโลกนี้ซึ่งสูบบุหรี่อยู่ทุกวันอย่างต่อเนื่องจึงเป็นสิ่งจำเป็น