พืชเส้นใย
หมายถึง พืชที่ให้เส้นใย คำว่า "เส้นใย" หมายถึง สิ่งที่มีลักษณะเป็นเส้นยาวเรียว เส้นใยธรรมชาติซึ่งได้จากพืช จะมีส่วนประกอบทางเคมีส่วนใหญ่เป็นเซลลูโลส ซึ่งได้จากหลายส่วนของพืช
เซลลูโลส
มีส่วนประกอบทางเคมีพวกคาร์โบไฮเดรต (สารพวกเดียวกับแป้งและน้ำตาล) โมเลกุลใหญ่ ประกอบด้วยโมเลกุลของน้ำตาลเดี่ยวสูญน้ำไป ๑ โมเลกุล (C6H10O5) เชื่อมต่อกันหลาย ๆ โมเลกุลย่อยสลายตัวได้ยาก
โมเลกุลของเซลลูโลสเรียงตัวกันในผนังเซลล์ของพืช เป็นหน่วยเส้นใยขนาดเล็กมาก เกาะจับตัวกันเป็นเส้นใย ในพืชบางชนิดนั้น เส้นใยเป็นผนังเซลล์เซลล์เดียวของพืช เข่น ใยฝ้ายเป็นขนจากชั้นของเปลือกหุ้มเมล็ดชั้นนอกสุด
เมื่อพิจารณาจากส่วนของพืชที่ให้เส้นใยที่นำไปใช้ประโยชน์ ก็แบ่งได้ดังนี้
๑. ขนที่เมล็ดหรือผนังด้านในของผล เช่น ฝ้าย รัก นุ่น และงิ้ว
๒. เส้นใยในเนื้อเยื่อด้านในเปลือกของลำต้น เช่น ปอแก้ว ปอกระเจา ปอกัญชา ป่านลินิน และป่านรามี เส้นใยที่ได้จากเนื้อเยื่อส่วนเปลือกของลำต้นนั้น ส่วนใหญ่เรียกว่า "ปอ" ส่วนที่ได้จากเนื้อเยื่อของใบเรียกว่า "ป่าน" อย่างไรก็ตาม ก็ไม่ได้เรียกแยกกันอย่างชัดเจน เช่น รามี และลินิน ให้เส้นใยที่เหนียว แข็ง หรือมักใช้ทอผ้าเนื้อบาง หรือทอด้วยด้ายเส้นเล็ก หรือละเอียดก็ได้
๓. เส้นใยจากใบ ซึ่งเป็นส่วนท่อน้ำท่ออาหารของใบ เช่น ป่านศรนารายณ์ สับปะรดกล้วย มีส่วนที่ใช้ประโยชน์ได้ตั้งแต่ตัวใบ เส้นกลางใบ ก้านใบ และกาบใบ
๔. เส้นใยที่เป็นเนื้อไม้ของต้นไม้ เป็นส่วนเนื้อเยื่อของท่อน้ำท่ออาหาร ใช้ในการทำกระดาษเป็นส่วนใหญ่ เช่น ยูคาลิปตัส สนสามใบ หรือสนเกี๊ยะ ปอแก้ว ปอสา และต้นพืชล้มลุก โดยใช้กระบวนการที่เหมาะสม แยกเส้นใยจากเนื้อไม้ แล้วนำเส้นใยนี้ไปใช้ประโยชน์ทางด้านสิ่งทอได้ เช่น ผลิตเส้นใยเรยองหรือไหมเทียม (หมายรวมถึงเส้นใยที่ได้เซลลูโลสและอนุพันธ์ของเซลลูโลส) จากไม้ยูคาลิบตัส
๕. เส้นใยจากส่วนอื่น ๆ เช่น ทางหรือก้านใบประกอบของต้นปาล์ม ใช้ทำแปรงส่วน เปลือกของผล (กาบมะพร้าว) หรือแม้กระทั่งรากมะพร้าวใช้ทำเชือก เป็นต้น
เราอาจแบ่งพืชเส้นใยได้อย่างคร่าว ๆ เนื่องจากไม่สามารถแบ่งแยกได้อย่างชัดแจ้ง เพราะมีลักษณะที่คาบเกี่ยวกัน จึงอาจแบ่งตามลักษณะการนำวัตถุดิบของพืชเส้นใยไปใช้งานดังนี้
๑. ใช้ทำสิ่งทอ โดยปั่นเป็นเส้นด้าย แล้วนำไปทอเป็นผืนผ้า เช่น ฝ่าย ป่านรามี ปอกระเจา และป่านลินิน
๒. ใช้ทำเชือก เช่น ป่านศรนารายณ์ ปอแก้ว กล้วย และมะพร้าว
๓. ใช้ยัดที่นอน ผ้าห่ม หมอน เบาะ เก้าอี้นวม เครื่องครุภัณฑ์ เช่น นุ่น งิ้ว รัก ฝ่าย และมะพร้าว
๔. ใช้ทำกระดาษ ซึ่งอาจใช้วิธีการง่ายๆ หรือกรรมวิธีทางอุตสาหกรรม ใช้กับพืชหลายชนิด เพราะพืชให้เซลลูโลสที่นำไปใช้ทำกระดาษได้ เช่น พวกไม้เนื้ออ่อน สนบางชนิด ยูคาลิปตัส ฟางข้าว หญ้าขจรจบ หรือต้นพืชล้มลุกอื่น ๆ แม้กระทั่งเส้นใยที่ใช้ในสิ่งทอ เช่น เส้นใบฝ้ายสั้นๆ ที่ไม่อาจนำไปปั่นทอได้ดี
๕. ใช้ทำแปรง และสาน หรือทอเป็นผืนแบบเสื่อ เช่น มะพร้าว ป่านศรนารายณ์และกก
๖. ใช้ทำสิ่งของอื่น ๆ ได้แก่ ตะกร้าหมวก เช่น กล้วยให้กาบใบ และส่วนอื่นสำหรับประดิษฐ์สิ่งของต่างๆ ผักตบชวาใช้ผลิตเปลแขวน และภาชนะอย่างอื่น ย่านลิเภาซึ่งเป็นพวกเถาวัลย์ ใช้สานทำภาชนะได้อย่างสวยงาม กก ใช้ทอเสื่อและสิ่งประดิษฐ์อื่น ไผ่ที่เอามาจักหรือผ่าเป็นเส้น ใช้สานหรือทอ และต้นหวายซึ่งก็เป็นพืชตระกูลปาล์มที่ใช้ประโยชน์ด้านอุตสาหกรรม และหัตถกรรมได้กว้างขวางมาก
ต่อจากนี้ไปจะได้กล่าวถึงพืชเส้นใยที่เกี่ยวพันกับสังคมชาวไทย ในแง่ที่คนไทยปลูก เพื่อดำรงชีพ หรือใช้ประโยชน์ รวมทั้งพืชบางชนิดที่ได้รับความสนใจ ที่จะให้เกิดการพัฒนาต่อไป โดยจะกล่าวถึงลักษณะทั่วไป การใช้ประโยชน์ ประวัติ และการปลูกโดยสังเขป รวมทั้งข้อคิดเห็นเพื่อแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้น หรือพัฒนาให้เกิดประโยชน์ต่อสังคม อันอาจจะมีผลให้คนรุ่นหลังได้ทราบและวิเคราะห์เพื่อหาลู่ทางในการพัฒนาได้อย่างเหมาะสมต่อไป