โดยทั่วไปพืชบกจะมีการเจริญเติบโตอยู่บนดินโดยมีส่วนรากอยู่ใต้ดินเพื่อยึดลำต้น ดูดน้ำ และธาตุอาหารจากดิน ส่วนพืชน้ำจะมีการเจริญเติบโตโดยมีส่วนลำต้นอยู่เหนือผิวน้ำและส่วนรากอยู่ใต้ผิวน้ำเพื่อดูดน้ำและธาตุอาหารเช่นกัน
การปลูกพืชโดยทั่วไปจะปลูกในดินโดยมีรากฝังอยู่ใต้ดินเพื่อดูดน้ำและธาตุอาหารรวมทั้งยึดลำต้น ส่วนลำต้น กิ่ง ก้าน และใบจะอยู่เหนือดิน ปัจจุบันมีการนำเทคโนโลยีสำหรับปลูกพืชที่เรียกว่า ไฮโดรพอนิกส์มาใช้เป็นการปลูกพืชโดยไม่ใช้ดิน คือ ปลูกโดยให้ส่วนรากแช่อยู่ในสารละลายธาตุอาหารพืช ส่วนลำต้นและส่วนอื่น ๆ อยู่เหนือระดับสารละลายธาตุอาหารโดยมีวัสดุที่เหมาะสมพยุงไว้
การปลูกพืชวิธีนี้เหมาะสำหรับบริเวณที่มีพื้นที่ดินจำกัด ที่ดินราคาแพงหรือสภาพดินไม่เหมาะสำหรับการปลูกพืช เช่น ดินเปรี้ยวจัด เค็มจัด หรือเป็นหินเป็นทราย ซึ่งต้องมีการลงทุนสร้างโรงเรือนและระบบค่อนข้างสูง แต่สามารถใช้ปุ๋ยอย่างคุ้มค่าและประหยัดไม่สูญเสียปุ๋ยจากการไหลทิ้งเหมือนการปลูกในดินและยังควบคุมสภาพแวดล้อมได้ง่ายทำให้ลดการใช้สารเคมีที่เป็นอันตราย พืชเจริญเติบโตเร็วและมีคุณค่าทางโภชนาการสูงเพราะเป็นการปลูกที่สามารถควบคุมปริมาณสารอาหารให้พอเหมาะกับพืชต่าง ๆ ได้อย่างแม่นยำ พืชที่นิยมปลูกโดยเทคนิคไฮโดรพอนิกส์นี้มักเป็นผักที่ใช้รับประทานใบและมีอายุการปลูกสั้น ได้แก่ ผักสลัดชนิดต่าง ๆ ปวยเล้ง คะน้า เป็นต้น
การปลูกพืชในดินมีปัญหาหลายประการ เช่น ดินขาดความอุดมสมบูรณ์ ขาดธาตุอาหารที่พืชต้องการทำให้พืชเจริญเติบโตไม่เต็มที่เกษตรกรจึงเพิ่มปุ๋ยอินทรีย์และปุ๋ยเคมีลงไป เมื่อมีโรคแมลง และศัตรูพืช เช่น หนู หอยเชอรี่ ฯลฯ มารบกวน เกษตรกรจะฉีดพ่นยากำจัดโรคแมลงและศัตรูพืชอื่น ๆ นอกจากจะเป็นการเพิ่มการลงทุนของเกษตรกรแล้วเมื่อเกษตรกรเก็บพืชผักมาจำหน่ายทั้ง ๆ ที่ยังมีสารพิษตกค้างอยู่ในพืชจะทำให้เป็นอันตรายแก่ผู้บริโภคด้วย
พืชผักที่วางขายในตลาดทั่วไปหรือในซูเปอร์มาร์เกตจะมีผักหลายชนิดวางเรียง ๆ กันไปพวกหนึ่ง ส่วนอีกพวกหนึ่งจะบรรจุในถุงพลาสติกโดยแยกแต่ละชนิดและเขียนว่า "ผักปลอดสารพิษ" หมายถึง พืชผักเหล่านั้นไม่มีสารพิษตกค้างเพราะเกษตรกรใช้ปุ๋ยอินทรีย์เป็นหลักและไม่ใช้ยาฆ่าแมลง ผักปลอดสารพิษนี้เกษตรกรมักจะลงทุนทำมุ้งกางครอบผักไว้เราจึงเรียกกันว่า "ผักกางมุ้ง" ผักปลอดสารพิษโดยทั่วไปมีราคาสูงกว่าผักที่ปลูกในดินและในน้ำตามแบบธรรมดา แต่ที่ยังมีคนซื้อมาบริโภคเพราะคิดว่าจะปลอดภัยมากกว่าพืชผักที่ปลูกในดินแบบธรรมดา
เมื่อประมาณ ๔๐๐ ปีมาแล้ว นักวิทยาศาสตร์หลายชาติได้ทำการทดลองปลูกพืชด้วยวิธีไฮโดรพอนิกส์ คือ ปลูกพืชโดยให้ส่วนของรากพืชแช่อยู่ในสารละลายธาตุอาหารพืช ส่วนลำต้นและส่วนอื่น ๆ จะอยู่เหนือระดับสารละลายและมีวัสดุที่เหมาะสมพยุงไว้เป็นวิธีหนึ่งที่แก้ปัญหาในด้านที่ดินเพาะปลูกด้านภูมิอากาศและภูมิประเทศและปัญหาอื่น ๆ ได้เป็นอย่างดี ในประเทศไทยเมื่อประมาณ ๔๐ ปีมาแล้ว มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ได้นำการปลูกพืชด้วยวิธีไฮโดรพอนิกส์มาใช้ทดลอง ปรากฏว่า ได้ผลเป็นที่น่าพอใจหลังจากนั้นได้มีการวิจัยจากสถาบันการศึกษาชั้นสูงและหน่วยงานอื่น ๆ อีกหลายแห่ง ปัจจุบันมีบริษัทเอกชนหลายรายที่ปลูกพืชผักด้วยวิธีไฮโดรพอนิกส์แล้วส่งออกไปจำหน่ายยังต่างประเทศและได้พัฒนาเทคนิคขึ้นมาหลายรูปแบบ