"เอ็ดมุนด์ ฮิลลารี" (Sir Edmund Percival Hillary) ชาวนิวซีแลนด์ และ "เทนซิง นอร์เกย์" (Tenzing Norgay) ลูกหาบชาวเชอร์ปา (ชนเผ่าหนึ่งของเนปาล) เป็นนักสำรวจคณะแรกที่สามารถพิชิตยอดเขา “เอเวอเรสต์” (Mount Everest) ยอดเขาที่สูงที่สุดในโลกบนเทือกเขาหิมาลัยบริเวณชายแดนระหว่างประเทศเนปาลกับธิเบตได้สำเร็จ
ทั้ง 2 เริ่มเดินทางเมื่อวันที่ 27 พฤษภาคม ปี 1953 โดยได้รับการรับเลือกจาก “จอห์น ฮันต์” (John Hunt) นายทหารชาวอังกฤษ ผู้นำคณะเดินทาง จนกระทั่งสามารถขึ้นสู่จุดสูงสุดของโลกได้ในเวลา 11.30 นาฬิกา ตามเวลาท้องถิ่น หลังเลือกใช้เส้นทางด้านทิศใต้ โดยทั้งคู่ได้ใช้เวลาอยู่บนยอดเขาแค่เพียง 15 นาทีเท่านั้น เพื่อหยุดพักถ่ายรูป โบกธง รวมทั้งฝังลูกอมและไม้กางเขนเล็ก ๆ ไว้ใต้หิมะ ก่อนจะต้องรีบไต่กลับลงมาเพราะเหลือออกซิเจนอยู่ไม่มากนัก ข่าวความสำเร็จของคณะเดินทางขจรไกลไปถึงลอนดอน สมเด็จพระราชินีนาถอลิซาเบธที่ 2 จึงทรงพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์ชั้นอัศวิน เพื่อเป็นเกียรติแก่ความพยายามและความสำเร็จในครั้งนี้
“ยอดเขาเอเวอเรสต์” มีความสูง 8,848 เมตรเหนือระดับน้ำทะเล ทั้งนี้ยอดเขาเอเวอเรสต์จะสูงขึ้นปีละประมาณ 6.7 เซนติเมตร เพราะเปลือกโลกยังคงเลื่อนมาชนกันอยู่ตลอดเวลา ในอดีตชาวตะวันตกเรียกว่า "ยอดเขาที่ 15” (Peak XV) ต่อมา แอนดรูว์ วอห์ (Andrew Scott Waugh) นักสำรวจชาวอังกฤษได้ตั้งชื่อว่า "เอเวอเรสต์” ตามชื่อสกุลของ จอร์จ อีฟเรสต์ (Sir George Everest) หัวหน้าเจ้าหน้าที่สำรวจอังกฤษประจำอินเดีย ในขณะที่ชาวธิเบตเรียกยอดเขาแห่งนี้ว่า "โชโมลุงมา” (Chomolungma) ส่วนชาวเนปาลเรียกว่า "สการ์มาทา” (Sagarmatha) แปลว่า "มารดาแห่งจักรวาล”
ชาวตะวันออกตามเทือกเขาหิมาลัยเคารพดินแดนแห่งนี้มาก เพราะเชื่อว่ายอดเขาเอเวอเรสต์เป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ที่สถิตของพระผู้เป็นเจ้า และเป็นดินแดนสำหรับการแสวงบุญ ขณะที่ชาวตะวันตกเชื่อว่าการพิชิตยอดเขาที่สูงที่สุดในโลกคือการพิสูจน์ศักยภาพของมนุษย์