เฟิร์นเองก็ใช้ชีวิตคู่มาร่วม 2 ปี บอกได้คำเดียวว่า "ความรัก ไม่ใช่สาระสำคัญของเราสอง" เพราะการจะอยู่ร่วมกับอีกคนที่มีที่มาต่างกัน ล้วนต้องอาศัยส่วนผสมมากมาย ไม่ว่าจะเป็น...
- ความเข้าใจ ในความแตกต่าง
- การให้อิสระ ทั้งความคิด การกระทำ และการใช้ชีวิต
- การแบ่งปัน ทั้งสุข และทุกข์
- เปิดใจ เปิดหู และปิดปาก ในจังหวะเวลาที่เหมาะสม
และอีกหลายสิ่งที่จะทำให้ "รักของเรา ไม่เก่าเลย"
แต่สิ่งหนึ่งที่สำคัญมาก และไม่ควรมองข้ามก็คือเรื่องของ "เงิน"
ผลสำรวจของ the Forum for Family and Consumer Issues ชี้ว่า สัดส่วนผู้ที่มองว่า “ปัญหาใหญ่ที่สุดในชีวิตคู่” คือเรื่อง “ทัศนคติการเงินที่ต่างกัน” มีถึง 39% ขณะที่อีก 54% บอกว่าเป็นปัญหาที่ใหญ่เป็นอันดับสอง
นอกจากนั้นผลการศึกษาจาก Utah State University ยังตอกย้ำด้วยว่า คู่ที่เห็นต่างด้านการเงิน 1 ครั้งต่อสัปดาห์ มีโอกาส “หย่าร้าง” มากกว่าคู่ที่เห็นต่างด้านการเงิน 1 ครั้งต่อเดือน ถึง 30%
รู้แบบนี้แล้วเชื่อหรือยังว่า เรื่องเงิน = เรื่องใหญ่ ในชีวิตคู่
วันนี้เฟิร์นเลยหยิบเอาเรื่องราว “10 ความเข้าใจผิดเรื่องเงิน ที่ทำลายชีวิตแต่งงาน” จาก Yahoo Finance มาฝากกันนะคะ เผื่อว่าที่เจ้าบ่าว เจ้าสาว (หรือใครที่ใช้ชีวิตคู่อยู่แล้ว) จะได้ใช้เป็น check list ที่ควรหลีกเลี่ยง แล้วหันมาปรับทัศนคติ เพื่อเพิ่มความเข้มแข็งให้กับชีวิตครอบครัว
บางครั้งเรื่อง “เงิน” ก็อ่อนไหวเกินกว่าจะเข้าใจ แต่เดี๋ยวก่อน ! ถ้าเรามัวแต่เกรงใจ ปากหนัก ไม่ยอมเปิดอกคุยเรื่องเงินแล้วล่ะก็ อาจสร้างปัญหาใหญ่ๆ ตามมาโดยไม่รู้ตัว
วิธีการที่ง่ายที่สุดคือ ทุกคู่รักควรตั้งตัวเลขร่วมกันว่าสินค้าหรือบริการไหนที่มีวงเกินมากกว่า x,xxx บาท จะต้องมาปรึกษาหารือกัน ก่อนควักกระเป๋าจ่ายเงิน หรือไม่บางคู่ก็อาจจะใช้วิธีหาเวลามาคุยกันสม่ำเสมอ อาจจะเดือนละครั้ง ครึ่งปีครั้ง ก็ได้เช่นกัน ขึ้นอยู่กับว่าคู่ของเราเหมาะกับแบบไหน
ถ้าคิดว่าแหวนเพชรวงใหม่ รถหรู จะช่วยให้ชีวิตแต่งงานดีขึ้นล่ะก็...คิดใหม่...เพราะจากการศึกษาของ Brigham Young University พบว่า หญิง- ชาย ที่ต่างเป็นคนประเภทวัตถุนิยม จะมีชีวิตคู่ที่แย่กว่าคนที่ไม่บูชาเงินหรือสิ่งของ เพราะคนประเภทหลังนี้จะให้น้ำหนักกับ “ความสัมพันธ์” หรือ “จิตใจ” มากกว่าสิ่งของนอกกาย และทำให้มีความสุขในชีวิตคู่มากกว่าคู่รักวัตถุนิยมประมาณ 10-15%
ผลสำรวจที่ตรงกันของ University of Pennsylvania, University of Michigan และ Northwestern University ก็คือสามี- ภรรยา ที่เห็นต่างกันเรื่องการใช้จ่ายเงิน มักไม่มีความสุขในชีวิตสมรส และ Utah State University ยังชี้ให้เห็นด้วยว่าถ้าใครคนใดคนหนึ่งคิดว่า คู่รักของตนช่างใช้เงินแบบไม่ฉลาดเอาซะเลย เท่ากับเป็นการส่งสัญญาณอันตราย ถึงโอกาสในการ “หย่าร้าง” ที่มีมากถึง 45%
ไม่ว่าจะแยกกระเป๋า รวมกัน หรือแยกด้วย รวมด้วย ก็ไม่ใช่สาระสำคัญ ถ้า “วางแผนการเงินชีวิตคู่” ไว้อย่างดี เพราะหากเราหรือคนรักเป็นคนขี้สงสัย (โดยเฉพาะเรื่องเงิน) ว่าเอ...ได้เงินมาเท่าไหร่น้า? บอกเราหมดรึเปล่า? แอบไปใช้จ่ายอะไรที่ไม่จำเป็นบ้างมั้ย? การแยกกระเป๋าก็อาจจะไม่ใช่วิธีที่เหมาะกับครอบครัวของเรา ตรงกันข้าม...การรวมเงินไว้ในกระเป๋าเดียวกัน อาจเพิ่มความสบายใจ คลายข้อสงสัยได้มากกว่า
76% ของคนอเมริกันยอมรับว่า “เงิน” นี่แหละ คือต้นตอของความเครียดในชีวิตของพวกเขา และคงไม่มีความเครียดเรื่องเงินเรื่องไหน ที่น่าเป็นห่วงมากไปกว่าเรื่อง “หนี้” โดยเฉพาะบรรดาหนี้ดอกเบี้ยสูง ซึ่งถ้ามันเข้ามาบงการชีวิตรักของเราหรือคู่รักของเราแล้วล่ะก็ ย่อมทำให้สุขภาพการเงินอ่อนแอแน่นอน และความเครียดนั้นยังบั่นทอนความสัมพันธ์ในครอบครัวอีกด้วย รู้แบบนี้แล้วอย่าลืม “รีบจัดการหนี้” ซะ
ยังมีอีก 5 ความเข้าใจผิดที่คู่รักไม่ควรย่างกรายเข้าใกล้...รอติดตามกันได้ในบทความหน้านะคะ ^___*
ศิรัถยา อิศรภักดี (เฟิร์น)
นักจัดรายการ นักเขียน นักพูด
ด้านเศรษฐกิจ ธุรกิจ และการลงทุน