ใกล้สู่ช่วงเข้ามหาวิทยาลัยกันแล้ว สำหรับน้อง ๆ มัธยมปลายในช่วงนี้ น้อง ๆ หลายคนที่อยู่่ต่างจังหวัดหรือบ้านไกล คงกำลังคิดวางแผนว่า เมื่อเข้าไปเรียนแล้วจะพักอยู่ที่ไหนดี สำหรับการเดินทางไปเรียนได้สะดวก แน่นอนว่าการอยู่หอ มักเป็นคำตอบที่หลายคนเลือก แต่ข้อมูลก่อนตัดสินใจอยู่หอนั้นต้องสอดคล้องกับความเห็นของครอบครัวและความสมเหตุสมหลายอย่าง เราไปดูกันดีกว่าว่ามีข้อมูลอะไรที่ต้องรู้ก่อนตัดสินใจบ้าง
1. หอใน : สำหรับการเป็นเด็กหอใน คือ หอพักที่เป็นของมหาวิทยาลัย ซึ่งพักอยู่ในเขตมหาวิทยาลัย และต้องทำตามกฎของมหาลัยที่กำหนด และกิจกรรมร่วมกันไว้อย่างชัดเจน สำหรับนักศึกษาหอใน
2. หอนอก : สำหรับหอนอก คือ หอพักที่เป็นธุรกิจของเอกชน ที่เจ้าของกิจการสร้างขึ้นมาเพื่อให้คนทั่วไปพักอาศัย ซึ่งจะมีอยู่ทุกที่ให้เราเลือกอยู่ตามความสะดวกของเรา และมีกฎระเบียบทั่วไปไม่เคร่งครัด ไม่จำกัดเพศหรือประเภทผู้เช่า ใครก็สามารถเข้ามาพักได้ ไม่จำกัดแค่เฉพาะนักศึกษาของมหาวิทยาลัยเหมือนกับหอใน
หอใน
หอในมีราคาที่ค่อนข้างถูกมากเมื่อเทียบกับราคาหอนอก เพราะไม่ต้องจ่ายเงินเป็นรายเดือน แต่จ่ายรวมเป็นรายเทอม ซึ่งราคาต่อเทอมก็อยู่ประมาณ 1,500 – 4,000 บาท ซึ่งเฉลี่ยแล้วแต่ละมหาวิทยาลัยก็มากน้อยไม่ต่างกันมาก หมายความว่าค่าใช้จ่าย 1 ปี รวมแล้วก็จ่ายในราคาหลักหมื่นกว่าบาทเท่านั้น ซึ่งห้องพักก็พักได้ 2 – 4 คน ตามแต่ละมหาวิทยาลัยจะกำหนด ในห้องพักก็มีเตียงเล็กนอนได้ 1 คน ตู้เสื้อผ้าและโต๊ะทำงานขนาดเล็ก แยกเป็นส่วน ๆ ตามจำนวนคนที่กำหนดให้พักต่อหนึ่งห้อง บางที่อาจะมีห้องน้ำเดี่ยว แต่บางที่ก็ต้องใช้ห้องน้ำรวม เรียกว่าหอในนั้นตอบโจทย์คนที่มีงบน้อย ประหยัดค่าใช้จ่ายได้อย่างดีมาก ๆ
หอนอก
ราคา 1,000 – 2,000 บาท
ห้องพักราคานี้เป็นราคาที่ถูกมาก แต่ก็ไม่ได้หาง่าย ๆ ห้องมีขนาดค่อนข้างเล็กมาก ส่วนใหญ่เป็นห้องโล่ง ไม่มีเครื่องอำนวยความสะดวก และเฟอร์นิเจอร์อะไรมาให้ ไม่มีลิฟท์มีเพียงบันไดขึ้นลง คนเช่าอยู่ต้องเตรียมของเข้าไปเอง ซึ่งราคาห้องถูกก็จริง แต่ก็ต้องเสียเวลา เสียเงินเตรียมของเข้าไปสำหรับพักอาศัยอยู่ดี ส่วนมากก็ไม่ค่อยมีใครนิยมห้องพักในลักษณะนี้เท่าไหร่ เพราะยุ่งยากเรื่องการเข้าอยู่นิดหน่อย
ราคา 2,000 – 3,000 บาท
ห้องพักราคานี้มักเป็นห้องขนาดเล็ก ในห้องมีเตียงนอน ตู้เสื้อผ้า โต๊ะทำงาน (แต่โต๊ะทำงานอาจมีแค่บางที่เท่านั้นที่มีมาให้ ) ห้องน้ำก็มีขนาดเล็ก ๆ ส่วนใหญ่ราคาประมาณนี้จะเป็นห้องพัดลม ไม่มีลิฟท์ ต้องเดินขึ้นบันไดและไม่มีที่จอดรถ แต่หอราคาประมาณนี้จะเก็บค่าประกันหอไม่แพง ส่วนมากเก็บในราคาหลักพันเท่านั้น ใครงบน้อยประหยัดเงินก็สามารถเลือกเรทราคานี้ได้
ราคา 3,000 – 4,000 บาท
ห้องราคานี้มีขนาดกลาง พอดีกับการอยู่ 1 – 2 คน ในห้องมีอุปกรณ์อำนวยความสะดวกมาให้ค่อนข้างดี มีทั้งเตียงนอน ตู้เสื้อผ้า โต๊ะทำงาน มีให้เลือกทั้งแอร์และพัดลม ห้องน้ำก็มีขนาดกำลังดี ไม่เล็กไม่ใหญ่ เรียกว่าพอเหมาะกับการอยู่อาศัย หอราคานี้ไม่ใช่ทุกที่ที่จะมีลิฟท์ บางที่ก็อาจจะไม่มี ทำให้ต้องเดินขึ้นลงบันไดเหมือนหอเรทอื่นบ้าง ส่วนราคาค่าประกันหอก็อยู่ระดับกลาง ๆ หลักพันไม่เกินหนึ่งหมื่นบาท
ราคา 4,000 – 6,000 บาท
ห้องราคานี้มีขนาดใหญ่พอประมาณ สามารถพักได้ 2 - 3 คน กำลังสบาย ในห้องมีอุปกรณ์อำนวยความสะดวกมาให้ค่อนข้างครบ ทั้งเตียงนอน ตู้เสื้อผ้า โต๊ะทำงานขนาดใหญ่ ตู้เย็น ทีวี และห้องน้ำก็กว้างขวาง สะดวกสบาย และมีที่จอดรถไว้ให้เพียงพอสำหรับผู้อาศัย ส่วนราคาค่าประกันหอก็มีราคาแพงขึ้นมาหน่อยในหลักหมื่นขึ้นไป แต่ก็เสียเงินไปพร้อมกับความสะดวกสบายที่ครบในระดับที่กำลังดี ความคุ้มค่าที่ได้กับราคาก็ไม่แพงสุดโต่งเกินไป
ราคา 6,000 – 9,000 บาท
ห้องเรทนี้ถือว่าเป็นห้องที่มาพร้อมกับความสะดวกสบายครบ ห้องมีขนาดใหญ่กว้างขวาง อยู่ด้วยกันได้ 2 – 3 คนได้อย่างไม่อึดอัด มีครบทุกอย่างในห้อง ทั้งเตียงนอนขนาดใหญ่ ตู้เสื้อผ้า ห้องน้ำ โต๊ะทำงาน ที่มีขนาดใหญ่ แถมยังมีโต๊ะเครื่องแป้งหรืออาจจะมีชั้นวางของไว้ให้ ซึ่งส่วนมากห้องราคานี้มักตกแต่งเฟอร์นิเจอร์พร้อมบิ้วอินมาแล้วสวยงาม ขึ้นลงได้ทั้งลิฟท์และบันได ชั้นจอดรถเตรียมพร้อมให้ครบ ราคาค่าประกันหอก็หลัก 2 หมื่นขึ้นไป เรียกว่าครบทุกอย่าง ตอบโจทย์ความสบาย แต่ก็ต้องแลกมาด้วยราคาที่แพงมากกว่าเรทอื่น ซึ่งก็เหมาะกันคนที่มีงบประมาณมากหน่อย
หอนอก
มีข้อดีที่ความเป็นอิสระ เราสามารถเข้าออกได้ตลอดเวลา และบรรยากาศในห้องพักก็สวยงาม มีให้เลือกหลายรูปแบบ สามารถเลือกได้ว่าจะอยู่คนเดียวหรืออยู่กับเพื่อนก็ได้ กฎระเบียบก็มีไม่มาก ราคาห้องพักมีให้เลือกหลากหลาย แต่ข้อเสียก็คือมีราคาแพง และต้องจ่ายค่าหอพักเป็นรายเดือน ไม่รวมค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าเน็ต ฯลฯ และตอนเข้าอยู่ยังต้องจ่ายค่าประกันหออีกด้วย ราคาค่าประกันก็มีทั้งหลักพัน ถึงหลักหมื่น ตามแต่ละที่กำหนด ซึ่งต้องอยู่ให้ครบตามกำหนดในสัญญาเช่า ถ้าย้ายออกก่อนครบกำหนดก็ต้องเสียเงินประกัน บางหอก็อยู่ไกลจากมหาวิทยาลัยมากกว่าหอใน อาจต้องเสียค่าเดินทางเพิ่มขึ้น
หอใน
มีข้อดีคือราคาถูกกว่าหอนอกมาก จ่ายค่อหอพักรวมเป็นเทอม เรียกว่าคุ้มค่าสุด ๆ กับเงินที่เสียไป และอยู่ในมหาวิทยาลัย เดินทางไปเรียนสะดวก ไม่เสียเงินค่ารถ แต่มีขีดจำกัดที่กฎระเบียบค่อนข้างมาก ต้องเข้าออกเป็นเวลา ต้องทำกิจกรรมร่วมกันกับนักศึกษาในหอพักตามที่กำหนด หนึ่งห้องต้องนอนรวมกันหลายคน เช่น หนึ่งห้องนอนกัน 4 คน และเราไม่สามารถเลือกรูมเมทได้ มหาวิทยาลัยจะจัดมาให้ และอยู่กันแยกตึกระหว่างหอชายและหอหญิง ซึ่งคนที่จะอยู่หอในก็ต้องยอมรับกฎของหอพักให้ได้
เมื่อเราตัดสินใจได้แล้ว ว่าเราจะเลือกอยู่หอแบบไหนให้เหมาะสมกับตัวเอง ก็ต้องเตรียมตัวให้พร้อมในการเข้าอยู่ ควรเตรียมเฉพาะสิ่งที่จำเป็นต้องใช้ในชีวิตประจำวันมาพอประมาณเท่านั้น เพราะยิ่งอยู่ไปจะยิ่งมีมากขึ้นเอง ไปดูกันเลยว่าเฟรชชี่หน้าใหม่ต้องเตรียมอะไรเข้าหอบ้าง
1. อย่างแรกเลยคือเสื้อผ้า
ต้องเตรียมมาให้พร้อม ทั้งชุดนักศึกษา และชุดที่เราใช้ประจำวัน คำเตือน ! อย่าขนไปมากเกินไป เพราะอยู่ ๆ ไปเราจะซื้อเสื้อผ้าไปเรื่อย ๆ และมันจะเยอะแน่นตู้ขึ้นเอง ควรเตรียมแค่พอเหมาะก็พอนะจ๊ะ
2. อุปกรณ์ของใช่ส่วนตัว
มีอะไรจำเป็นก็เตรียมมาให้หมด ไม่ว่าจะเป็นผ้าขุนหนู ผ้าปูที่นอน ผ้าห่ม หมอน ฯลฯ เรียกว่าของใช้อะไรจำเป็นก็ต้องเตรียมให้พร้อมไว้เลยนะเด็ก ๆ
3. ของกินต้องพร้อม
อุปกรณ์การกินต้องมา จาน ช้อน ถ้วย ขนมรองท้องต้องครบ และที่สำคัญมาม่าจ้า ของดีที่คู่ควรในวันที่เงินหมด มาม่าช่วยชีวิตเราได้ ห้ามขาด !
4. ยาสามัญประจำบ้าน
เรียนแล้วเหนื่อยก็อาจป่วยได้ เพราะฉะนั้นต้องเตรียมยาให้พร้อม เวลาป่วยจะได้ไม่ลำบาก ยิ่งใครมีโรคประจำตัวก็ควรเตรียมให้พร้อม
5. อุปกรณ์การเรียน
อุปกรณ์จำเป็นที่ต้องใช้เรียน ใครเรียนคณะไหนอะไรจำเป็นก็สรรหาเอาไว้ให้พร้อม ไม่ว่าจะเป็นคอมพิวเตอร์ หนังสือเรียน อุปกรณ์ที่แต่ละคณะต้องใช้ ก็ต้องเตรียมไว้ให้พร้อมนะจ๊ะ
6. ปัจจัยที่ขาดไม่ได้ เลยคือ “เงิน”
เพราะมีทุกอย่างแต่ไม่มีเงินก็ทำอะไรได้ไม่สะดวกนะจ๊ะ งานนี้ที่บ้านจัดงบให้ใช้เท่าไหร่ก็เตรียมให้พร้อมกันเลยเฟรชชี่
เมื่อเรามีทุกอย่างที่จำเป็นให้พร้อม เพียงเท่านี้ก็สามารถเข้าอยู่หอพักได้แล้ว แต่สิ่งสำคัญสำหรับการอยู่หอ คือ ต้องตกลงกับครอบครัวให้ชัดเจนว่ามีความเห็นแบบไหน และเมื่อเลือกได้แล้ว ก็ควรดูแลตัวเองให้ดี มีวินัยในการเรียนและใช้ชีวิต เพราะเราต้องออกมาอยู่ไกลบ้าน ไม่มีพ่อแม่คอยดูแลตลอดเวลา น้อง ๆ ต้องมีสติ ขยัน อดทน เลือกคบเพื่อนที่ดี ไม่พาเราไปในทางที่เสียหาย เที่ยวได้ตามสไตล์วัยรุ่น แต่ที่สำคัญอย่าทิ้งการเรียนเด็ดขาด อย่าลืมเป้าหมายแรกที่เราเข้ามาอยู่มหาวิทยาลัย และคว้าใบปริญญาให้สำเร็จให้ได้