สายมโนโกอินเตอร์! ไม่ว่าที่ไหนเมื่อไหร่ เห็นสถานการณ์อะไรอยู่ตรงหน้า ให้พยายามคิดเป็นภาษาอังกฤษ เห็นผู้คนเดินผ่านไปมาก็ลองคิดอธิบายถึงพวกเขาเป็นภาษาอังกฤษโดยใช้คำคุณศัพท์เท่าที่จะทำได้ดูสิ หรือจะครีเอทวิธีคิดแบบเฉพาะของตัวเองก็ได้ ฝึกคิดเป็นภาษาอังกฤษให้เป็นนิสัย เพราะนี่คือกุญแจสำคัญที่จะทำให้พูดภาษาอังกฤษได้คล่องขึ้น
เคล็ดลับ
-หยุด! แปลอังกฤษเป็นไทย
-ค้นหาศัพท์จากพจนานุกรมอังกฤษ-อังกฤษ
อยู่บ้านเราอย่านิ่งดูดาย เช้าสายบ่ายเย็นส่องกระจกแล้วพูดภาษาอังกฤษกับคนในนั้น การพูดภาษาอังกฤษกับตัวเองจะทำให้รู้จุดแข็งจุดอ่อนของตัวเอง และแก้ไขได้อย่างตรงจุด
เคล็ดลับ
-เลือกหนังสือเล่มโปรดมาอ่านออกเสียงดังๆ
-พูดสิ่งที่เราคิดออกมาดังๆ เป็นภาษาอังกฤษเกี่ยวหัวข้อต่างๆ เช่น กีฬา, ครอบครัว
-พูดหน้ากระจก มโนว่าคนในกระจกนั่นแหละคือคู่สนทนาของเรา
-บันทึกเสียงสิ่งที่อ่านหรือพูด แล้วฟังเพื่อหาข้อดีข้อเสียในการออกเสียงและสำเนียงของตัวเอง
การฝึกภาษาอังกฤษจะง่ายขึ้นด้วยการมีเพื่อนหรือคู่หูเป็นคู่ฝึก โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าเขาหรือเธอเป็นเจ้าของภาษา ถึงเวลาใช้โซเชียลมีเดียให้เกิดประโยชน์แล้ว มีหลายวิธีที่จะทำความรู้จักกับผู้คนทางออนไลน์ แต่ที่สำคัญต้องระวังตัวในการพูดคุยหรือทำความรู้จักกับผู้คนบนอินเทอร์เน็ตด้วยนะจ๊ะ
การอ่านหนังสือภาษาอังกฤษเป็นการเปิดหัวใจสู่โลกใหม่ และพาเราไปสู่การเรียนรู้ภาษาอังกฤษในระดับใหม่ๆ ด้วย กุญแจสู่ความสำเร็จก็คือ เลือกหนังสือที่เหมาะกับตัวเรา ถ้าไม่รู้จะเริ่มต้นจากหนังสืออะไร ให้หาจากสิ่งที่เราสนใจ
สำหรับหนังสือพิมพ์ คุ้มค่ากับการอ่านอย่างมาก เพราะไม่เพียงแค่ภาษาอังกฤษจะพัฒนาขึ้นเท่านั้น แต่ยังได้เรียนรู้เกี่ยวกับเหตุการณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้น ซึ่งเป็นประโยชน์มากในยามที่พูดคุยกับเจ้าของภาษา
การดูรายการโทรทัศน์ หรือ YouTube ภาษาอังกฤษ เป็นอีกหนึ่งวิธีที่จะช่วยเราได้ดี
เคล็ดลับ
-เลือกรายการทีวีที่ชอบ
-ฟังว่าเขาพูดว่าอะไร แล้วพูดตามทีละบรรทัด
พยายามเลียนเสียงให้เหมือนพวกเขา (จับน้ำเสียง ความเร็ว และสำเนียง) ถ้าเป็นไปได้ให้บันทึกเสียงพูดของตัวเองไปด้วย ถึงจะพูดผิดไปบ้างคำสองคำก็ไม่เป็นไร เพราะสิ่งสำคัญคือการได้พูด เมื่อฝึกฝนด้วยวิธีนี้หลายๆ ครั้ง จะสังเกตเห็นว่าการพูดภาษาอังกฤษของเราฟังเหมือนเจ้าของภาษามากขึ้น
ถ้าเบื่ออ่านหนังสือ การเรียนภาษาอังกฤษจากซีรี่ย์และภาพยนตร์นี่แหละสนุกที่สุด แต่ที่สำคัญควรเลือกดูภาพยนตร์ที่มีซับไตเติ้ลเป็นภาษาอังกฤษ ซึ่งจะช่วยให้เราได้คำศัพท์ใหม่ๆ ด้วย
การเขียนจะทำให้เราได้ใช้คำศัพท์ใหม่ๆ และเข้าใจหลักไวยากรณ์มากขึ้น พยายามเขียนทุกวันโดยใช้คำศัพท์และไวยากรณ์ใหม่ๆ ที่ได้เรียนมา แม้จะเพียงไม่กี่ประโยคก็ตาม แต่สิ่งสำคัญคือ จงเขียนภาษาอังกฤษให้ติดเป็นนิสัย
ฟังแล้วร้องคลอตามไปด้วย จะช่วยให้เราคุ้นเคยกับเสียงภาษาอังกฤษและเข้าใจจังหวะและน้ำเสียงของภาษาอังกฤษได้ดีขึ้น ยิ่งไปกว่านั้นการร้องตามจะช่วยให้จำคำศัพท์ใหม่ๆ ได้ง่ายขณะที่ร้องเพลงไปตามอารมณ์ของเรา
เป็นกฎพื้นฐานเลยว่าควรศึกษาหาความรู้เรื่องสำนวนภาษาอังกฤษเพิ่มเติม เช่น เราอาจพูดทักทายเป็นภาษาอังกฤษตามที่ได้เรียนมาว่า “How do you feel today?” แต่สำหรับเจ้าของภาษาแล้วเขาอาจพูดว่า “How’re you doing?” หรือ “What’s up?” แทนก็ได้
สำนวนภาษาอังกฤษและคำแสลงก็ใช้บ่อยเช่นกัน การเรียนรู้สำนวนภาษาอังกฤษทั่วไปในชีวิตประจำวันจะช่วยให้เราแม่นกับสถานการณ์ และการพูดภาษาอังกฤษจะฟังดูเหมือนเจ้าของภาษามากขึ้น
มีหลายวลีในชีวิตประจำวันที่เจ้าของภาษาใช้ในสถานการณ์ต่างๆ เช่น การขอบคุณ อาจพูดว่า “You’ve made my day”, “That’s so kind of you” แทนคำว่า Thank you ก็ได้ ดังนั้นควรหาความรู้เรื่องการใช้วลีและคำในภาษาอังกฤษให้มากขึ้น
เราเรียนภาษาอังกฤษด้วยเหตุผลหลายประการ บางคนเรียนเพื่อได้ทำงานในบริษัทที่ใช้การพูดภาษาอังกฤษ กรณีนี้ควรเน้นฝึกภาษาอังกฤษเพื่อการสัมภาษณ์ หรือบางคนเรียนเพื่อหาเพื่อนชาวต่างชาติ ก็ต้องฝึกภาษาอังกฤษในอีกระดับหนึ่ง เมื่อรู้วัตถุประสงค์แล้วจะพบวิธีการฝึกฝนและเตรียมตัวที่เหมาะกับความต้องการของตัวเอง