ประเทศไทยเป็นประเทศกสิกรรม พื้นที่ราบกว้างใหญ่ตอนกลางของประเทศ มีแม่น้ำหลายสายไหลผ่าน ทำให้เกิดดินอันอุดม เหมาะสำหรับปลูกพืชพันธุ์ ธัญญาหารนานาชนิด นอกจากนั้นสภาพอากาศอันอบอุ่น และแสงแดดจ้า ยังช่วยให้ทำการเกษตรได้ตลอดทั้งปี คนไทยร้อยละแปดสิบ จึงมีอาชีพทางการเกษตร
พืชเศรษฐกิจที่ทำรายได้มหาศาลให้แก่ประเทศ ได้แก่ ข้าว ข้าวโพด อ้อย ยางพารา มันสำปะหลัง สับปะรด และอื่นๆ อีกหลายชนิด
เพื่อให้การทำการเกษตรเป็นผลดียิ่งขึ้น ได้มีการนำวิธีการใหม่ๆ ทางวิทยาศาสตร์เข้ามาใช้ วิธีการอย่างหนึ่งนั้นก็คือ การสำรวจข้อมูลจากระยะไกล ซึ่งทำได้โดยใช้ยานอวกาศ เรียกว่า ดาวเทียม นำเครื่องบันทึกข้อมูลขึ้นไป ณ ที่สูง แล้วทำการบันทึกข้อมูลที่ต้องการส่งลงมายังพื้นดิน
ข้อมูลเพื่อการเกษตรที่ใช้ดาวเทียมสำรวจมีมากมายหลายอย่าง เป็นต้นว่า ข้อมูลเกี่ยวกับชนิดของดิน ความชื้นของดิน ระดับน้ำใต้ดิน ดินเค็ม การพังทลายของดิน รวมทั้งพันธุ์พืชที่เหมาะสม สำหรับดินในภาคต่างๆ ของประเทศ การใช้ที่ดินให้เหมาะสม และสภาพความแห้งแล้ง ข้อมูลเหล่านี้ช่วยเลือกพันธุ์พืชปลูกได้อย่างถูกต้อง ทำให้เกิดผลิตผลสูง ดินไม่เสื่อม
การสำรวจข้อมูลจากระยะทางไกล โดยใช้ดาวเทียม มีส่วนดีกว่าสำรวจแบบอื่นหลายประการ เพราะสามารถทำได้รวดเร็ว มีความผิดพลาดน้อย และราคาถูก นอกจากนั้นยังสำรวจได้ในพื้นที่กว้างใหญ่ ซึ่งมีการเพาะปลูกมาก และอาจนำมาใช้ประกอบกับการสำรวจแบบอื่น เพื่อทำแผนที่เกษตรได้อีกด้วย การสำรวจข้อมูลโดยใช้ดาวเทียม จึงเป็นการสำรวจข้อมูล ที่อาจช่วยพัฒนาการเกษตรได้เป็นอย่างดี
ปัจจุบันมีดาวเทียมมากกว่า ๒,๐๐๐ ดวง ถูกส่งเข้าสู่วงโคจร เพื่อปฏิบัติงานด้านต่างๆ ดาวเทียมเหล่านี้อาจจำแนกตามลักษณะการใช้ประโยชน์ออกเป็นสามชนิดคือ ดาวเทียมอุตุนิยมวิทยา ดาวเทียมสื่อสาร และดาวเทียมสำรวจทรัพยากร
การโคจรของดาวเทียมทั้งหมดนี้ มีแตกต่างกันเป็นสองบแบบกล่าวคือ ถ้าไม่โคจรในแนวระนาบ ก็จะต้องโคจรในแนวเหนือใต้รอบโลก
การโคจรในแนวระนาบกับเส้นศูนย์สูตร มีความสอดคล้องและเร็ว ในแนววงกลมเท่ากับความเร็วในการหมุนรอบตัวเองของโลก จึงทำให้ดาวเทียมดูเสมือนลอยนิ่งอยู่ ณ ตำแหน่งเดิมเหนือผิวโลก โดยทั่วไปโคจรในระดับสูง ๓๖,๐๐๐ กิโลเมตร ดาวเทียมที่โคจรในลักษณะเช่นนี้ ส่วนใหญ่เป็นดาวเทียมอุตุนิยมวิทยา และดาวเทียมสื่อสาร
ส่วนดาวเทียมที่โคจรอยู่เหนือ-ใต้รอบโลก จะโคจรผ่านแนวศูนย์สูตร ณ เวลาท้องถิ่นเดียวกัน โดยทั่วไปโคจรสูงจากพื้นโลกที่ระดับต่ำกว่า ๒,๐๐๐ กิโลเมตร ดาวเทียมเช่นนี้ มักเป็นดาวเทียมสำรวจทรัพยากรพิภพ
ดาวเทียมสำรวจทรัพยากรที่สำคัญ และสามารถรับสัญญาณได้ในประเทศไทยนั้น มีอยู่ด้วยกันสามดวง คือ ดาวเทียมแลนด์แซต ดาวเทียมสปอต และดาวเทียมมอส
ดาวเทียมแลนด์แซต
เป็นดาวเทียมสำรวจทรัพยากรพิภพดวงแรกของโลก สร้างขึ้นโดยองค์การบริหารการบิน และอวกาศ สหรัฐอเมริกา หรือ ที่เรียกชื่อย่อว่า องค์การนาซา (NASA) ดาวเทียมแลนด์แซตมีหลายดวง ที่ยังคงใช้อยู่ในปัจจุบัน มีแลนด์แซต ๔ และ แลนด์แซต ๕ มีระบบบันทึกภาพ และระบบสื่อสารพิเศษ สามารถส่งข้อมูลจากดาวเทียมสู่โลกในเวลาถ่ายภาพได้ทันที ดาวเทียมแลนด์แซตมีสถานีรับสัญญาณดาวเทียมทั่วโลก
ดาวเทียมสปอต
เป็นดาวเทียมของสถาบันอวกาศแห่งชาติ ฝรั่งเศส ปัจจุบันมีสปอต ๒ โคจรอยู่ในแนวเหนือ-ใต้ ดาวเทียมสปอตมีอุปกรณ์บันทึกภาพ ซึ่งสามารถถ่ายภาพได้ทั้งแนวดิ่ง และแนวเฉียง ทำให้นำมาศึกษาในลักษณะสามมิติได้อย่างดี ดาวเทียมนี้ให้ข้อมูลเกี่ยวกับพืชพันธุ์ ภาพคลุมพื้นที่กว้าง และมีรายละเอียดภาพดีกว่า ๑ กิโลเมตร
ดาวเทียมมอส
เป็นดาวเทียมสำรวจพื้นพิภพ และสมุทรศาสตร์ ขององค์การอวกาศแห่งชาติ ญี่ปุ่น ซึ่งมีชื่อย่อว่า องค์การนาสดา (NASDA) สามารถถ่ายภาพในระยะทางกว้าง ๑๐๐ กิโลเมตร ให้ข้อมูลเกี่ยวกับอุณหภูมิต่างๆ ในทะเล การปกคลุมของเมฆและไอน้ำ การสำรวจปริมาณไอน้ำและน้ำในบรรยากาศ ลมทะเล การแผ่ปกคลุมของหิมะ และน้ำแข็งในทะเล ให้ข้อมูลทางด้านสมุทรศาสตร์ และสามารถวัดตำแหน่งของเรือหรือทุ่นได้ด้วย
ภาพที่รับจากดาวเทียมสำรวจทรัพยากรเหล่านี้ มีคุณสมบัติพิเศษแตกต่างจากภาพ ที่ได้จากกล้องถ่ายภาพธรรมดาหลายประการ กล่าวคือ ให้ข้อมูลเป็นตัวเลข ซึ่งสามารถนำไปผลิตเป็นภาพขาวดำ และภาพสีผสม ตลอดจนนำมาวิเคราะห์ ด้วยเครื่องคอมพิวเตอร์ ทำให้มีความถูกต้องยิ่งขึ้น การบันทึกข้อมูลด้วยดาวเทียมนั้น สามารถทำได้เป็นบริเวณกว้างมาก ถึงสามหมื่นตารางกิโลเมตร และสามารถบันทึกภาพได้หลายช่วงคลื่น ทั้งที่สายตามนุษย์มองเห็น และมองไม่เห็น ทำให้อาจแยกวัตถุต่างๆ บนผิวโลกได้อย่างชัดเจน
นอกจากนี้การบันทึกภาพที่ส่งจากดาวเทียมยังเป็นการบันทึก ณ บริเวณเดิม ทำให้สามารถเปรียบเทียบ และติดตามการเปลี่ยนแปลงต่างๆ บนผิวโลกได้เป็นอย่างดีอีกด้วย ภาพจากดาวเทียมให้รายละเอียดหลายระดับ ทำให้สามารถศึกษาตัวเมือง เส้นทางคมนาคมระดับหมู่บ้าน ศึกษาการบุกรุกพื้นที่ป่าไม้เฉพาะจุดเล็กๆ ในแหล่งน้ำขนาดเล็ก ศึกษาสภาพการใช้ที่ดินระดับจังหวัดได้ด้วย ข้อดีอีกอย่างหนึ่ง ก็คือ เราสามารถนำภาพจากดาวเทียม มาปรับปรุงคุณภาพให้มีรายละเอียดเพิ่มขึ้นได้โดยง่าย
การสำรวจทรัพยากรโดยดาวเทียม จึงอาจนำมาใช้ประโยชน์ทั้งในเรื่องป่าไม้
การใช้ประโยชน์ที่ดิน การเกษตร และการทำแผนที่ โดยเฉพาะเรื่องป่าไม้ อาจศึกษาติดตามการเปลี่ยนแปลงพื้นที่ป่าไม้ ป่าต้นน้ำลำธาร สำรวจหาพื้นที่ป่าอุดมสมบูรณ์ และป่าเสื่อมโทรมศึกษา ไฟป่า หาพื้นที่ที่เหมาะสม สำหรับการปลูกสวนป่า เกี่ยวกับการใช้ประโยชน์ที่ดิน ก็ใช้ศึกษาว่า ที่ใดเหมาะสมสำหรับทำการเกษตร ศึกษาหาพื้นที่เหมาะสมในการปลูกข้าว ยางพารา สับปะรด ข้าวโพด และอื่นๆ