ลิเก หรือที่ชาวบ้านเรียกว่า ยี่เก เป็นละครเร่ที่เจ้าภาพจ้างไปแสดงที่วัดหรือที่บ้าน ในงานประจำปี งานบวช และงานศพ หรือปลูกโรงล้อมรั้วเก็บเงินค่าเข้าชมเอง โรงลิเกเป็นเวทียกพื้นเล็กน้อย มีตั่งหรือเตียงไม้วางตรงกลางเป็นที่นั่งแสดง ข้างหลังตั่งยกพื้นสูงขึ้นเป็นที่ตั้งวงดนตรีปี่พาทย์ข้างหลังมีฉากผ้าวาดเป็นทิวทัศน์กั้นมิให้ผู้ชมเห็นหลังโรงซึ่งเป็นที่สำหรับแต่งตัว
ลิเก แสดงทั้งกลางวันและกลางคืน เริ่มต้นด้วยโหมโรงคือ เล่นดนตรีเรียกคนมาชมลิเก ออกแขกคือ มีผู้แสดงออกมาแนะนำคณะลิเก เรื่องที่จะแสดง ขอบคุณเจ้าภาพ และผู้ชม จบออกแขกก็แสดงลิเกเป็นเรื่องอย่างละครไปจนจบเรื่องหรือหมดเวลา ตัวลิเกแบ่งออกเป็น พระเอก นางเอก ตัวโกง ตัวอิจฉา และตัวตลก ซึ่งต่างออกมาแสดงอย่างสวยงาม รวดเร็ว สนุกสนาน จัดจ้าน และตลกโปกฮา ตัวลิเกร้องรำ และเจรจา ด้วยการด้นคือ คิดขึ้นเองเดี๋ยวนั้น ไม่มีการฝึกซ้อมมาก่อน และไม่มีการบอกบท ภาษาที่ใช้เป็นภาษาไทยภาคกลาง ลิเกจึงมีแสดงในภาคกลางเป็นส่วนใหญ่
ลิเก มีลักษณะเด่นคือ เครื่องแต่งกายของพระเอกประดับเพชรจำนวนมาก มีขนนกสีขาวขนาดใหญ่ประดับศีรษะ สวมถุงน่องสีขาวและมีเพลง ซึ่งเป็นเอกลักษณ์เฉพาะของลิเกคือ เพลงราชนิเกลิง (ราด-นิ-เกลิง) ที่ใช้ร้องดำเนินเรื่องตลอดเวลา นอกจากนี้เมื่อผู้ชมพอใจการแสดงก็ลุกจากที่นั่งมาที่หน้าเวทีเพื่อมอบรางวัลเป็นธนบัตรหรือพวงมาลัยติดธนบัตรแก่ตัวลิเก ซึ่งมักเป็นพระเอกผู้ชมส่วนใหญ่เป็นผู้หญิง มักชอบดูพระเอกที่หน้าตาดีรูปร่างอ้อนแอ้นร้องเพลงได้ไพเราะด้นกลอนเก่ง รำสวย เครื่องแต่งกายงดงาม ส่วนฉากที่ชอบดูคือฉากตลก
ลิเก มาจาก จิเก คือ การสวดสรรเสริญพระเจ้าของชาวไทยมุสลิม ผสมผสานกับละครรำของไทย จนเกิดเป็นละครแบบใหม่ ในสมัยรัชกาลที่ ๕ และเป็นที่นิยมของชาวบ้านมาจนถึงปัจจุบัน
"ลิเก" เป็นละครผสมระหว่างการพูด การร้อง การรำ และการแสดงกิริยาท่าทางตามธรรมชาติ โดยมีวงปี่พาทย์บรรเลงประกอบ ทำนองเพลงหลักที่ใช้สำหรับร้องดำเนินเรื่อง เรียกว่า รานิเกลิง (รา-นิ-เกลิง) หรือ ราชนิเกลิง (ราด-นิ-เกลิง) ส่วนอื่นๆ ที่ใช้สำหรับร้องรำ และประกอบกิริยา นำมาจากเพลงของละครรำ และเพลงลูกทุ่ง ซึ่งกำลังเป็นที่นิยมในขณะนั้น ผู้แสดงรับบทชายจริงหญิงแท้ มีบทพูด และบทร้องตามท้องเรื่อง ที่โต้โผกำหนดให้ก่อนการแสดง บางครั้งมีการบรรยายเรื่อง และตัวละครจากหลังเวที เพื่อให้ผู้ชมเข้าใจง่ายขึ้น เนื้อเรื่องมักเป็นการชิงรักหักสวาท และอาฆาตล้างแค้นย้อนไปในอดีต หรือในปัจจุบัน
โครงเรื่องมักซ้ำกัน จะต่างกันที่รายละเอียด การแสดงลิเกแบ่งเป็น ๓ ส่วน คือ โหมโรงดนตรี เพื่อเรียกผู้ชม และให้ผู้แสดงเตรียมพร้อม ออกแขก เพื่อต้อนรับผู้ชม ขอบคุณเจ้าภาพ แนะนำการแสดง และผู้แสดง และละครที่ดำเนินเรื่องเป็นฉากสั้นๆ ติดต่อกันไปอย่างรวดเร็ว ลิเกมีแสดง ทั้งในเวลากลางวัน และกลางคืน ช่วงกลางวันเริ่มแสดงตั้งแต่ ๐๙.๐๐ น. เป็นต้นไป และหยุดพักเที่ยง แล้วแสดงต่อ จนถึงเวลาประมาณ ๑๖.๐๐ น. ส่วนช่วงกลางคืน เริ่มแสดงตั้งแต่ ๒๐.๐๐ น. - ๒๔.๐๐ น.
เวทีลิเก หรือโรงลิเก เป็นเวทีชั่วคราวยกพื้นมีหลังคา แบ่งพื้นที่เป็น ๓ ส่วน คือ เวทีแสดง เวทีดนตรี และหลังเวที สำหรับผู้แสดงพักผ่อน เวทีแสดงมีระบายแขวนเป็นกรอบเวที โดยมีชื่อคณะ และสถานที่ติดต่ออย่างชัดเจน การจัดพื้นที่ของเวทีลิเกในปัจจุบันมี ๒ แบบ แบบเดิมมีเวทีดนตรีอยู่ถัดเวทีแสดงไปทางขวาของผู้แสดง แบบใหม่มีเวทีดนตรีเป็นยกพื้นอยู่ด้านหลังเวทีแสดง ฉากลิเกมี ๒ แบบ คือ ฉากเดี่ยว ทำด้วยผ้าใบเขียนเป็นรูปท้องพระโรง พร้อมหลืบผ้าใบเขียนสีอีก ๑ คู่ กับผ้าระบายด้านบนเขียนชื่อคณะ และฉากชุด ทำด้วยผ้าใบเขียนสีเป็นสถานที่ต่างๆ ตามท้องเรื่อง เช่น ท้องพระโรง ห้องรับแขก ป่า ถ้ำ น้ำตก แต่ละฉากม้วนเก็บไว้เหนือเวทีแสดง อุปกรณ์ฉากเป็นตั่งหรือเตียงไม้ ขนาดพอนั่งแสดงได้ ๓ คน มีตั่งเพียงตัวเดียว ก็ใช้ได้อเนกประสงค์
เครื่องแต่งกายลิเกชายเป็นแบบคล้ายคลึงกัน ประกอบด้วยเสื้อคอกว้างแขนสั้น หรือยาวแนบตัว ปักเพชร สนับเพลา หรือกางเกงรัดขายาวครึ่งน่องเชิงปักเพชร ผ้านุ่งสำเร็จรูปปักเพชรสวมทับกางเกง ถุงน่องสีขาว เครื่องประดับทำด้วยเพชรเทียม ประกอบด้วยเกี้ยว ปิ่น สังเวียน ขนนก ต่างหู สร้อยคอ เข็มขัด กำไลมือ กำไลเท้า แหวน เครื่องแต่งกายลิเกหญิงมีหลากหลายรูปแบบ ทั้งแบบไทยประเพณี และแบบสากล ที่เป็นชุดราตรียาวปักเพชร เครื่องประดับทำด้วยเพชรเทียม มักประกอบด้วยมงกุฎ สร้อยคอ ตุ้มหู สังวาล กำไลมือ เครื่องแต่งกายลิเกมักมีสีสันสดใส ใช้แป้งฝุ่นสีขาวผัดหน้า และลำตัวให้ดูผ่อง แต่งหน้าทาปากสีฉูดฉาด เขียนคิ้วเข้ม ติดขนตาปลอมยาว
ผู้แสดงลิเกแบ่งหน้าที่ตามเพศ รูปร่าง และความชำนาญออกเป็น พระเอก พระรอง นางเอก นางรอง ตัวโกง ตัวตลก และนางอิจฉา
คณะลิเกเป็นการรวมตัวเฉพาะงาน โต้โผหรือหัวหน้าคณะจ้างผู้แสดงอิสระ ที่ต่างมีเครื่องแต่งกายของตนเอง มาร่วมกันแสดงเป็นคราว ๆ ไป ผู้ชมลิเกส่วนใหญ่ เป็นกลุ่มที่มีสถานภาพทางสังคม เศรษฐกิจ และการศึกษาน้อย และมักเป็นสตรีวัยกลางคน การให้รางวัลแก่ผู้แสดงลิเกคือ การมอบพวงมาลัยคล้องคอประดับธนบัตร สำหรับผู้ชมสตรีจำนวนหนึ่งที่มีความนิยมผู้แสดงชายบางคนเป็นพิเศษ โดยติดตามไปชมการแสดงเป็นประจำ และให้รางวัลเป็นเงินทองจำนวนมากอยู่เสมอ ผู้ชมกลุ่มนี้เรียกว่า แม่ยก คือ แม่ที่ลิเกยกย่อง