คือ สสารในรูปของแข็งที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติโดยกระบวนการอนินทรีย์อาจเป็นธาตุหรือสารประกอบก็ได้ที่มีโครงสร้างอะตอมเป็นระเบียบ มีระบบผลึกที่ตายตัว มีสมบัติทางกายภาพที่แน่นอน และมีสมบัติทางเคมีคงที่ ดังนั้นจึงมีสูตรทางเคมีที่แน่นอนหรือเปลี่ยนแปลงอยู่ในช่วงจำกัดเฉพาะ
เนื่องจากแร่เป็นสารประกอบทางเคมีดังนั้นวิธีการบอกชื่อแร่ทางเคมีหรือมีการตรวจสอบชนิดของแร่โดยการวิเคราะห์ตัวอย่างเพื่อหาองค์ประกอบทางเคมีของธาตุจึงเป็นวิธีที่สามารถทราบชื่อแร่ที่ถูกต้องได้อย่างแน่นอนที่สุดแต่วิธีการเช่นนี้ก่อให้เกิดความสิ้นเปลืองและเสียเวลามาก ดังนั้นวิธีที่ง่ายและสะดวกก็คือการตรวจสอบโดยใช้สมบัติทางกายภาพของแร่ที่แตกต่างกันไปในแต่ละชนิดเป็นตัวกำหนด ตัวอย่างเช่น สารประกอบที่เราเรียกว่า เกลือ (หรือเกลือแกงที่เรารับประทานได้) มีสูตรทางเคมีว่า NaCl และมีชื่อทางธรณีวิทยาว่า เฮไลต์ (halite) รสที่เค็มก็พอจะบอกหรือแยกความแตกต่างจากสสารอื่นได้โดยการทดลองชิม
แร่โดยทั่วไปอาจรู้ได้โดยการทดสอบจากสมบัติทั่ว ๆ ไป หรือจากสมบัติเฉพาะ แต่การทดสอบโดยการทดลองชิมอย่างเช่นเกลือนั้นอาจเป็นเรื่องที่ไม่ควรทำเพราะมีแต่เกลือเท่านั้นที่สามารถทด สอบอย่างง่ายโดยวิธีนี้ แร่อื่นโดยทั่วไปก็อาจตรวจสอบได้โดยประสาทสัมผัสชนิดอื่น ๆ เช่น ดูด้วยตา ขีดด้วยเล็บหรือโดยการใช้เครื่องมืออย่างง่าย ๆ เช่น มีด ขูดขีด หรือตัดแร่นั้น ๆ
แร่ประกอบหิน (rock - forming minerals) หมายถึง แร่ที่เป็นส่วนประกอบสำคัญของหินจนทำให้เกิดการจำแนกเป็นหินชนิดต่าง ๆ ได้ อันที่จริงแร่ที่เป็นส่วนประกอบสำคัญของหินมีมากมายซึ่งแบ่งได้เป็น ๒ กลุ่มใหญ่ ๆ คือ
(๑) กลุ่มแร่ซิลิเกต (silicate minerals) หมายถึง แร่ที่มีองค์ประกอบของธาตุซิลิกอนและออกซิเจนเป็นหลัก
(๒) กลุ่มแร่นอนซิลิเกต (non - silicate minerals) ซึ่งไม่มีองค์ประกอบของธาตุซิลิคอน
เหตุที่แบ่งออกเป็น ๒ กลุ่มใหญ่ ๆ นี้ เนื่องจากแร่จำพวกซิลิเกตจัดว่าเป็นแร่ที่พบอยู่บนเปลือกโลกมากที่สุด (ประมาณร้อยละ ๙๖ โดยน้ำหนัก) จึงอาจกล่าวได้ว่าแร่จำพวกซิลิเกตเป็นแร่ประกอบหินที่สำคัญของเปลือกโลกซึ่งแร่ประกอบหินจำพวกซิลิเกตยังแบ่งย่อยออกเป็น ๕ ชนิด ตามลักษณะโครงสร้างและการจัดตัวของออกซิเจนกับซิลิคอนเพื่อความสะดวกอาจแบ่งแร่ซิลิเกตอย่างง่าย ๆ ออกเป็น ๒ พวก พวกหนึ่งคือ ไซอะลิก ซิลิเกต (sialic silicate) (sialic มาจาก silicon + aluminium) พวกนี้มีปริมาณธาตุซิลิคอนและอะลูมิเนียมสูงถึงร้อยละ ๘๕ ในเปลือกโลก โดยมากมักมีสีขาว เช่น ควอตซ์ เฟลด์สปาร์ ไมกาขาว (white mica หรือ muscovite) อีกพวกหนึ่งคือ ไซมาลิก ซิลิเกต (simalic silicates) (simalic มาจาก silicon + magnesium) พวกนี้มีซิลิคอน แมกนีเซียม และเหล็กอยู่มาก และมักมีสีดำถึงเขียว เช่น โอลิวีน ไพรอกซีน แอมฟิโบล ไมกาดำ (black mica หรือ biotite) ส่วนกลุ่มแร่นอนซิลิเกตมักพบไม่มากนักจึงไม่อาจจัดเป็นแร่หลักของเปลือกโลกได้ โดยทั่วไปแบ่งออกได้เป็น ๖ พวกย่อย คือ
๑. ออกไซด์ (oxide) เช่น ลิโมไนต์ (limonite) แมกนีไทต์ (magnetite) อิลเมไนต์ (ilmenite) คอรันดัม (corundum) รูไทล์ (rutile) สปิเนล (spinel) แคสซิเทอไรต์ (cassiterite)
๒. ไฮดรอกไซด์ (hydroxide) เช่น ไลโมไนต์ (limonite) บรูไซต์ (brucite) ยิปไซต์ (gypsite)
๓. ซัลไฟด์ (sulfides) เช่น ไพไรต์ (pyrite) คาลโคไพไรต์ (chalcopyrite) สฟาเลอไรต์ (sphalerite) กาลีนา (galena)
๔. ซัลเฟต (sulfate) เช่น ยิปซัม (gypsum) แอนไฮไดรต์ (anhydrite)
๕. คาร์บอเนต (carbonate) เช่น แคลไซต์ (calcite) โดโลไมต์ (dolomite) ซิเดอไรต์ (siderite)
๖. ฟอสเฟตและเฮไลต์ (phosphate & Halite) เช่น อะพาไทต์ (apatite) โมนาไซต์ (monazite) ฟลูออไรต์ (fluorite) เฮไลต์ (halite)
มนุษย์ใช้ประโยชน์จากแร่มากมายตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน ประโยชน์ของแร่ธาตุที่สำคัญแสดงไว้ในตารางข้างล่างนี้