พัฒนาการทางเทคโนโลยีเจริญก้าวหน้าอย่างรวดเร็วโลกที่เราอาศัยอยู่มีอายุประมาณ ๕,๐๐๐ ล้านปี (นักวิทยาศาสตร์คำนวณ ไว้ประมาณ ๔,๖๐๐ ล้านปี) กาลเวลาผ่านไปเนิ่นนานกว่าโลกจะเย็นตัวลงจนเกิดสิ่งมีชีวิต คาดกันว่าสิ่งมีชีวิตบนโลกเกิดขึ้นในช่วงประมาณ ๕๐๐ ล้านปี พัฒนาการของสิ่งมีชีวิตทำให้มีมนุษย์เกิดขึ้นมาบนโลกเมื่อประมาณ ๕ ล้านปีที่แล้วซึ่งคงจะสื่อสารกันด้วยท่าทาง และพัฒนาต่อมาจนมีภาษาที่ใช้พูด หากดูจากหลักฐานทางประวัติศาสตร์ เช่น ที่พีระมิดของอียิปต์โบราณมนุษย์สามารถเขียนหนังสือแทนคำพูดเพื่อเล่าเรื่องราวต่าง ๆ เมื่อประมาณ ๓,๐๐๐ ถึง ๙,๐๐๐ ปีที่แล้ว การเขียนหนังสือยังต้องเขียนบนหลักศิลาหรือฝาผนังถ้ำจนเมื่อไม่กี่ร้อยปีนี้เราสามารถพิมพ์ลงบนกระดาษและเป็นหนังสืออย่างที่เห็น วิทยาการทางเทคโนโลยีโดยเฉพาะระบบสื่อสารและคอมพิวเตอร์เริ่มมีใช้กันในระยะเวลาไม่เกิน ๑๐๐ ปีที่ผ่านมา เทคโนโลยีที่เราเห็นจึงถือได้ว่าเป็นเทคโนโลยีที่เพิ่งเกิดขึ้นเมื่อเทียบกับพัฒนาการของสิ่งมีชีวิตเราสามารถใช้เครือข่วยคอมพิวเตอร์สื่อสารข้อมูลระหว่างกัน อินเทอร์เน็ตแพร่หลายเต็มที่เมื่อไม่นานมานี้จนเรียกได้ว่า ปัจจุบันเป็นยุคสื่อสารไร้พรมแดน เราเริ่มพูดกันมากในเรื่องการส่งข่าวสารแบบจินตภาพกล่าวคือ การสร้างสิ่งเสมือนจริงหรือสร้างสิ่งต่าง ๆ ให้สมจริงเหมือนการเล่นวิดีโอเกม
เราสามารถส่งข้อมูลข่าวสารถึงกันได้อย่างรวดเร็วโดยผ่านทางเครือข่ายอินเทอร์เน็ตซึ่งเชื่อมโยงระบบคอมพิวเตอร์ต่าง ๆ เข้าด้วยกันทำให้ประยุกต์ใช้งานได้มากมาย เราสามารถส่งข้อความถึงกันผ่านทางเครือข่ายนี้เสมือนการส่งจดหมายทางไปรษณีย์แต่ส่งถึงกันได้เร็วกว่ามาก เราเรียกการส่งจดหมายทางเครือข่ายคอมพิวเตอร์ว่า อิเล็กทรอนิกส์เมล เราสามารถอ่านข้อมูลข่าวสารบนเครือข่ายได้อย่างรวดเร็ว กระทำได้ทุกขณะและสามารถเรียกดูจากที่ใดก็ได้ อินเทอร์เน็ตจึงเป็นเสมือนทางด่วนของข้อมูลข่าวสารที่เชื่อมโยงกันทั่วโลก พัฒนาการทางเทคโนโลยีคอมพิวเตอร์และเครือข่ายทำให้มีของใหม่เกิดขึ้นมาแทนของเก่าที่ล้าสมัยจึงไม่น่าแปลกใจว่าทำไมผลิตภัณฑ์ทางคอมพิวเตอร์และระบบสื่อสารจึงก้าวหน้าอย่างรวดเร็ว คอมพิวเตอร์ที่ใช้อยู่เพียงไม่กี่ปีก็ตกรุ่นล้าสมัย นับจากนี้ต่อไปจะมีสิ่งแปลกใหม่ในโลกของคอมพิวเตอร์และระบบสื่อสารจนดูคล้ายกับว่าสังคมสมัยใหม่จะผูกติดกับเทคโนโลยีเหล่านี้
สังคมปัจจุบันเป็นสังคมโลกาภิวัฒน์ (Globalization) เป็นสังคมที่ไร้พรมแดน ระบบสื่อสาร และคอมพิวเตอร์ ทำให้เราติดต่อส่งข้อมูลข่าวสารถึงกันได้อย่างรวดเร็วขณะที่เรานั่งอยู่หน้าจอคอมพิวเตอร์เราสามารถมองผ่านหน้าจอคอมพิวเตอร์เพื่อติดต่อสื่อสารหรือค้นหาข้อมูลในที่ห่างไกลแม้จะอยู่ในอีกซีกโลก การเชื่อมโยงด้วยระบบสื่อสารทำให้สังคมของคนทั้งโลกเชื่อมโยงเป็นหนึ่งเดียวกันได้ เมื่อเด็กเล่นเกมความนึกคิดของเด็กจะอยู่ในเกมเสมือนว่าตัวเองอยู่ในโลก ๆ หนึ่ง เป็นโลกที่มีสิ่งแวดล้อมตามจินตนาการและตามบทบาทของเกม เราเรียกโลกใหม่นี้ว่า ไซเบอร์สเปซ (Cyberspace) ซึ่งเป็นช่องว่างที่สมมติขึ้นโดยใช้จินตนาการของเราเข้าไปโลดแล่นอยู่ได้ เราอาจจะกำลังพูดกับใครในที่ห่างไกลผ่านเครือข่ายคอมพิวเตอร์แต่มีจินตนาการความนึกคิดเสมือนว่ากำลังยืนอยู่เคียงข้างกัน เช่น ในระบบการประชุมผ่านเครือข่ายคอมพิวเตอร์ สังคมโลกาภิวัฒน์เป็นสังคมสมัยใหม่ที่ทำให้คนสามารถสร้างจินตภาพต่าง ๆ ผ่านจอสี่เหลี่ยมของคอมพิวเตอร์ เชื่อมโยงถึงกัน ดังเช่นเครือข่ายอินเทอร์เน็ตที่เชื่อมโยงคนทั้งโลก เราอาจพบปะพูดคุยกับคนที่ไม่เคยรู้จักโดยผ่านทางจอคอมพิวเตอร์ สังคมโลกาภิวัฒน์ยังทำให้เราเสมือนเดินทางไปยังประเทศต่าง ๆ เพื่อขอดูข้อมูลข่าวสารได้
อินเทอร์เน็ตเป็นเครือข่ายที่เชื่อมโยงระหว่างเครือข่ายต่าง ๆ เข้าด้วยกัน เมื่อนำเครือข่ายคอมพิวเตอร์เครือข่ายหนึ่งเชื่อมต่อเข้าสู่อินเทอร์เน็ต เครือข่ายนั้นก็จะเป็นอินเทอร์เน็ตและหากใครนำเครือข่ายอื่นมาเชื่อมต่ออีกก็จะเข้าสู่อินเทอร์เน็ตเช่นกันและเป็นการขยายเครือข่ายอินเทอร์เน็ตให้กว้างขวางออกไปสืบเนื่องจากการพัฒนาอินเทอร์เน็ตได้เริ่มขึ้นในมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีเกี่ยวกับอินเทอร์เน็ตจึงเป็นเทคโนโลยีที่เป็นกลางและเปิดกว้างด้วยเหตุนี้จึงถือว่าเป็นเทคโนโลยีเปิดที่มีผู้ผลิตขึ้นมามากมาย ระบบการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตใช้โพรโทคอลระดับสูงชื่อ TCP/IP (Transmission Control Protocol / Internet Protocol) โพรโทคอลนี้มีผู้ผลิตซอฟต์แวร์สนับสนุนและใช้ร่วมกันจึงจัดได้ว่าระบบการเชื่อมต่อของอินเทอร์เน็ตเป็นระบบที่หลากหลายผลิตภัณฑ์ใช้กัน เครือข่ายอินเทอร์เน็ตจึงเป็นเครือข่ายที่มีจุดดี คือ การพัฒนาที่ไม่ขึ้นกับผลิตภัณฑ์และยี่ห้อ ใช้ได้กับคอมพิวเตอร์ทุกแบบ เครือข่าย TCP/IP จึงมีเป้าหมายที่จะเป็นเครือข่ายได้ทุกระดับตั้งแต่ ระดับองค์กร ระดับระหว่างองค์กร จนถึงระดับประเทศและระหว่างประเทศ การที่อินเทอร์เน็ตเป็นเครือข่ายที่มีการนำอุปกรณ์มาเชื่อมต่อได้ง่าย การขยายตัวของอินเทอร์เน็ตจึงเป็นไปอย่างรวดเร็ว นอกจากนี้กลุ่มผู้ใช้อินเทอร์เน็ตโดยเฉพาะนักวิจัยในมหาวิทยาลัยต่าง ๆ ได้พัฒนาโปรแกรมและซอฟต์แวร์ประยุกต์บนอินเทอร์เน็ตกันมากจึงทำให้มีซอฟต์แวร์ที่มีคุณภาพใช้กันและซอฟต์แวร์เหล่านี้ก็ได้รับการเผยแพร่ติดตั้งไปยังเครื่องต่าง ๆ จำนวนมาก