เรื่อง : วรรณวิสา สุภีโส
ถึงแม้จะเป็นเพียงแค่เด็ก ป. 4 เท่านั้น แต่ความคิดยิ่งใหญ่กว่ามาก จีนเข้ามาประกวดกิจกรรมนี้เพราะได้แรงบันดาลใจแบบไม่คาดคิด จีนเล่าว่า “ตอนรอบคัดเลือกผมไปเที่ยวอุทยานแห่งชาติปางสีดาครับ คุณลุงหัวหน้าพาผมไปดูสัตว์ป่าที่ถูกนายพรานลักลอบขโมย พวกงาช้าง หัวนกเงือก ผมรู้สึกว่าอยากจะช่วยสัตว์พวกนั้นให้กลับไปอยู่ในธรรมชาติเหมือนเดิม ผมก็เลยอยากเป็นสัตวแพทย์ครับ คุณลุงก็ให้เสื้อผมเพื่อเป็นแรงบันดาลใจต่อไปครับ”
จากหัวข้อในการแข่งขัน ฉันจะเป็น…เมื่อฉันโตขึ้น ซึ่งจีนมีแรงบันดาลใจอยากจะเป็นหมอสัตว์ป่าให้ได้นั้น ถูกนำมาเป็นพล็อตเรื่องสำหรับการประกวด โดยคุณแม่ของจีนเขียนเป็นสตอรี่ให้น้องจีนฝึกพูด เมื่อถึงเวลาขึ้นพูดบนเวทีน้องจีนบอกว่า “ตื่นเต้นมากครับ ตอนเห็นเพื่อน ๆ พูดก็ลุ้นว่าเราจะได้หรือไม่ได้ พอถึงเวลาที่ต้องขึ้นไปบนเวทีผมต้องรีบตั้งสติก่อนเลยครับ”
พอพูดจบแล้วสามนาทีที่เตรียมมา คณะกรรมการก็จะตั้งคำถามจากเรื่องที่จีนพูด อย่างจีนไปเที่ยวอุทยานปางสีดาตอนปีอะไร แล้วตอนนั้นอายุเท่าไร และชอบสัตว์อะไรที่นั่น โดยตอบเป็นภาษาจีนเช่นกัน
“คุณแม่คือคนที่เป็นแรงบันดาลใจของผม เพราะว่าคุณแม่พาผมไปอยู่ที่เมืองจีนมา 4 ปีครับ ไปอยู่ตั้งแต่สิบเดือนถึงสี่ขวบ” จีนเล่าถึงแรงบันดาลใจในการเข้าประกวดพูดภาษาจีน
แม่เล่าเสริมว่า “เพราะแม่ไปเรียนปริญญาเอกเลยพาลูกไปด้วย เขาก็เลยได้เรียนอนุบาลที่นู้นมาสองปี พอกลับมาก็จะไม่ยอมพูดภาษาจีน เพราะเห็นเพื่อน ๆ ที่อนุบาลเขาพูดภาษาไทยกัน ก็คงลังเลว่าจะพูดภาษาจีนดีหรือภาษาไทยดี แม่ก็เลยจูนเขาจนเขายอมพูดภาษาจีนกับแม่ทุกวัน กลับมาเมืองไทยก็ยังพูดภาษาจีนกันอยู่ เพราะแม่ก็ต้องเป็นช่องภาษาจีนให้เขา น้องก็เลยพูดภาษาจีนมาเก้าปีได้ค่ะ”
จีนเล่าถึงสิ่งที่ได้จากการแข่งขันครั้งนี้ว่า“ได้เพื่อนใหม่ เวลาคุยกันก็จะคุยกันเป็นภาษาจีน ฟังกันรู้เรื่องเข้าใจ พอเจอเพื่อนที่พูดแบบเดียวกับเรามาประกวดด้วยกัน ผมก็สนิทกับเพื่อนเร็ว เหมือนเราสื่อสารให้เขารู้เรื่องไวขึ้น ยิ่งทำให้เรามีประสบการณ์มากขึ้นด้วยครับ แล้วก็หลังจากการประกวดครั้งนี้ ผมก็อยากที่จะฝึกฝนไปเรื่อย ๆ ครับ”