สาเหตุหลัก "ไข้หวัดใหญ่" เกิดจากเชื้อไวรัสอินฟลูเอนซา มีอยู่ 3 ชนิด คือ ชนิดเอ บี และซี เชื้อไวรัสชนิดเอและบี มักก่อให้เกิดโรคในคน และมีหลายสายพันธุ์ เช่น ไวรัสไข้หวัดนก ไวรัสไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ เป็นต้น
1. เชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่ที่อยู่ในเสมหะ น้ำมูก น้ำลายของผู้ป่วยสามารถแพร่ติดต่อไปยังคนอื่น ๆ โดยการไอจามรดกันหรือหายใจเอาละอองน้ำลายเข้าไป โดยเฉพาะหากอยู่ใกล้ผู้ป่วยในระยะ 1 เมตร จะมีโอกาสรับเชื้อมากขึ้น
2. ผู้ป่วยบางรายได้รับเชื้อทางอ้อมผ่านทางมือหรือสิ่งของเครื่องใช้ที่ปนเปื้อนเชื้อ เช่น แก้วน้ำ ลูกบิดประตู เป็นต้น
3. เชื้อไข้หวัดใหญ่สามารถเข้าสู้ร่างกายได้ทางจมูก ปาก หรือตา
ผู้ป่วยไข้หวัดใหญ่เริ่มแพร่เชื้อได้ตั้งแต่ 1 วันก่อนป่วยจนถึง 7 วัน หลังมีอาการ
ผู้ป่วยส่วนใหญ่มักเริ่มมีอาการป่วยใน 1-2 วันหลังได้รับเชื้อ เช่น มีไข้สูง หนาวสั่น ปวดศีรษะ ปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ ปวดกระบอกตา ตาแดง คัดจมูก น้ำมูกไหล อ่อนเพลีย ไอ เจ็บคอ อาจมีอาการเบื่ออาหาร คลื่นไส้ อาเจียนหรือท้องเสียร่วมด้วย โดยทั่วไปอาการป่วยจะดีขึ้นภายใน 3-4 วัน และหายเป็นปกติใน 1-2 สัปดาห์
ผู้ป่วยที่มีอาการเล็กน้อย เช่น มีไข้ต่ำ ๆ และยังรับประทานอาหารได้ดี อาจไปพบแพทย์หรือเภสัชกรและสามารถดูแลตนเองได้ดังนี้
รับประทานยาตามอาการ เช่น ยาลดไข้ ยาพาราเซตามอล ยาละลายเสมหะ
เช็ดตัวเพื่อลดไข้เป็นระยะด้วยน้ำที่ไม่เย็นจัด
ดื่มน้ำสะอาดและน้ำผลไม้มาก ๆ
งดดื่มน้ำเย็น
รับประทานอาหารอ่อนและอาหารที่มีประโยชน์ให้ได้มากเพียงพอ เช่น โจ๊ก ข้าวต้ม ไข่ ผัก ผลไม้
นอนผักผ่อนให้มาก ๆ ในห้องที่มีการถ่ายเทอากาศดี
เมื่อมีอาการป่วย ควรสวมหน้ากากอนามัยเวลาเพื่อป้องกันการแพร่เชื่อ
เวลาไอ หรือจาม ควรใช้กระดาษทิชชูปิดปากและจมูกแล้วทิ้งลงถังขยะที่มีฝาปิด
ล้างมือบ่อย ๆ ก่อนรับประทานอาหาร หลังไอ จาม หรือสั่งน้ำมูก
หลีกเลี่ยงการอยู่ใกล้ผู้ป่วย โดยเฉพาะผู้ที่มีอาการไอ จาม หรือมีไขตัวร้อน
หลีกเหลี่ยงการเข้าไปในสถานที่ที่มีคนมาอยู่รวมกันเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะช่วงที่มีการระบาดของไข้หวัดใหญ่
เมื่อป่วยควรหยุดงาน หยุดเรียน หยุดกิจกรรมร่วมกับผู้อื่น เพื่อให้หายป่วยเร็ว และไม่แพร่
ผู้ที่อยู่ในกลุ่มที่เสียงป่วยรุนแรง ควรฉีดวัคซีนป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่
หญิงมีครรภ์ อายุครรภ์ 7 เดือนขึ้นไป
ผู้มีโรคเรื้อรัง เช่น โรคปอด หอบหืด หัวใจ โรคไต เบาหวาน โรคเลือด มะเร็ง เอดส์ ฯลฯ
ผู้พิการทางสมอง
คนอ้วนมาก (น้ำหนัก 100 กิโลกรัมขึ้นไป)
เด็กเล็กอายุถึง 2 เดือน – 2 ปี
ผู้สูงอายุ 65 ปีขึ้นไป
วัคซีนป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่ผลิตจากเชื้อไข้หวัดใหญ่ที่ตายแล้ว นำมาฉีดเพื่อกระตุ้นให้ร่ายกายสร้างภูมิคุ้มกันการเจ็บป่วยจากเชื้อไข้หวัดใหญ่สายพันธ์ที่แพร่ติดต่อจากคนสู่คน
ภูมิคุ้มกันจะเกิดขึ้นภายใน 2 สัปดาห์ หลังจากได้รับวัคซีน และป้องกันได้นานประมาณ 1 ปี อย่างไรก็ตามแม้ว่าจะได้รับวัคซีนแล้วก็ยังอาจจะป่วยเป็นโรคนี้ได้ แต่จะมีอาการเพียงเล็กน้อย เมื่อเทียบกับผู้ที่ไม่ได้รับวัคซีน
สาเหตุ : เกิดจากที่ร่างกายได้รับความร้อนมากเกินไป เกิดการสูญเสียน้ำ ทำให้ร่างกายไม่สามารถปรับอุณหภูมิได้ทันจนทำให้เกิดความร้อนในร่างกาย สูงกว่า 50 องศา เซลเซียส
อาการสำคัญ : ไม่มีเหงื่อออก ตัวร้อนขึ้นเรื่อย ๆ รู้สึกกระหายน้ำมาก วงเวียนศีรษะ มึนงง คลื่นไส้ หายใจเร็ว อาเจียน ซึ่งต่างจากการเพลียจากแดดทั่ว ๆ ไป ที่จะพบวามีเหงื่อออกด้วย หากเกิดอาการดังกล่าวจะต้องหยุดพักทันที
1. ดื่มน้ำ 1-2 แก้ว ก่อนออกจากบ้านในวันที่มีอากาศร้อนจัด และหากต้องอยู่ท่ามกลางอากาศร้อน หรือออกกำลังกลางสภาพอากาศร้อน ควรดื่มน้ำให้ได้ชั่วโมงละ 1 ลิตร แม้จะไม่รู้สึกกระหายน้ำก็ตาม และแม้ว่าจะทำงานในที่ร่มก็ควรดื่มน้ำอย่างน้อยวันละ 6-8 แก้ว
2. สวมใส่เสื้อผ้าที่มีสีอ่อน ไม่หนา น้ำหนักเบา และสามารถระบายความร้อนได้ดี
3. ใช้ครีมกันแดดที่มีค่าเอสพีเอฟ 15 ขึ้นไป
4. หลีกเลี่ยงการอยู่กลางแดด
5. หลีกเลี่ยงเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์
6. สำหรับเด็กเล็ก คนชราและผู้ป่วยที่มีโรคประจำตัวควรต้องมีผู้ดูแลอย่างใกล้ชิด รับประทานอาหารและน้ำอย่างพอเพียงและจัดให้อยู่ในห้องที่อากาศระบายได้ดี
ขอบคุณภาพปก : Pixabay