ซึ่งจริง ๆ แล้วการผายลมหรือตด เป็นอาการธรรมชาติของมนุษย์ไม่ว่าจะเด็กหรือผู้ใหญ่ เพื่อขับก๊าซภายในร่างกายออกมาข้างนอก โดยก๊าซเหล่านี้ส่วนหนึ่งมาจากการสูดอากาศเข้าไปขณะนอนหลับหรือทำกิจกรรมต่าง ๆ แต่ส่วนใหญ่มาจากการย่อยอาหารในลำไส้ของเชื้อแบคทีเรีย
ขณะที่กระเพาะอาหารย่อยอาหารที่เรากินเข้าไป อาหารบางส่วนที่ไม่ถูกย่อยจะถูกส่งมายังลำไส้ใหญ่ เพื่อเป็นอาหารของเชื้อแบคทีเรีย ซึ่งเชื้อแบคทีเรียเหล่านี้จะย่อยและหมักอาหารดังกล่าว แล้วผลิตวิตามินที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกาย เช่น วิตามินบี และวิตามินเค รวมไปถึงสารจำเป็นสำหรับพัฒานาระบบอวัยวะต่าง ๆ ผลจากการย่อยและหมักของเชื้อแบคทีเรีย ก่อให้เกิดก๊าซบางส่วนขึ้นในลำไส้ใหญ่ หากไม่ได้รับการปลดปล่อยออกจากร่างกายผ่านทางการเรอหรือการผายลม ก็อาจส่งผลให้ท้องอืดได้
สำหรับเด็กทารก ถึงแม้จะกินนมแม่หรือกินนมจากขวดนมเพียงอย่างเดียว แต่ระหว่างการดูดนมนั้นเด็กก็อาจสูดอากาศเข้าไปในท้องด้วย เมื่อก๊าซเหล่านี้รวมกับก๊าซจากลำไส้ใหญ่จนมีปริมารมากเกินไป ลูกก็จะรู้สึกแน่นท้อง ท้องอืด ร่างกายจึงจำเป็นต้องขับก๊าซเหล่านั้นออกผ่านทางการเรอและการผายลม จึงเป็นเหตุว่าทำไมเด็กจึงผายลมบ่อย
กลิ่นจากการผายลม เกิดจากอาหารที่กินเข้าไปในแต่ละวัน และประเภทของเชื้อแบคทีเรียในร่างกาย เมื่อเชื้อแบคทีเรียย่อยและหมักอาหารที่มีคาร์โบไฮเดรตและโปรตีนสูง จะก่อให้เกิดก๊าซที่มีกลิ่น ส่งผลให้การผายลมมีกลิ่นเหม็นเช่นกัน สำหรับเด็กทารกที่กินนมวัวผสม กลิ่นผายลมอาจแรงกว่าทารกที่กินเฉพาะนมแม่ เนื่องจากนมวัวมีโปรตีนสูงกว่านมแม่นั่นเอง
---------------------------------------------------------------------
สำหรับใครที่สนใจเรื่องการผายลมเพิ่มเติม สามารถเข้าไปอ่านได้ที่
https://www.trueplookpanya.com/knowledge/content/55874/-heabod-hea-scibio-sci-