อันที่จริง Teflon ไม่ได้เป็นชื่อสารเคมีที่ตั้งขึ้นมาขายตั้งแต่ต้น เทฟลอนเป็นชื่อแบรนด์หรือเครื่องหมายการค้าที่บริษัท ดูปองท์ ทำออกมาขายผู้บริโภค แต่ชื่อที่เป็นที่รู้จักในแวดวงวิทยาศาสตร์หรือสารที่แท้จริงคือ PTFE หรือ Polyetrafluoroethylene ซึ่งเป็นสารสังเคราะห์ มันถูกค้นพบโดยบังเอิญโดย Dr. Roy Plunkett ในสหรัฐเมื่อเค้าพยายามทำการทดลองเกี่ยวกับสารที่ใช้ในอุตสาหกรรมทำความเย็น จากความบังเอิญนี้เองเค้าได้พบกับสารที่มีคุณสมบัติพิเศษไม่ทำปฏิกิริยากับสารใด ๆ และยังมีแรงตึงผิวที่ต่ำมาก มากจนไม่ยึดเกาะกับสารอื่น ทำให้มันเป็นวัสดุหรือสารที่ลื่นที่สุดเท่าที่เคยค้นพบมา และเมื่อโลกอุตสาหรรมรู้จักกับคุณสมบัติของสารชนิดนี้มันก็เป็นที่ต้องการในทุกวงการทันที และมีมาเฟียชาวอิตาลีที่ได้รับฉายา The Teflon Don เพราะเขามีความสามารถในการหลบหลีกหนีการจับกุมและรอดพ้นเงื้อมมือของกฎหมายมาได้หลายปี ยิ่งทำให้เทฟลอนกลายเป็นชื่อที่สื่อถึงความลื่น
เทฟลอน ถูกค้นพบและจดทะเบียนครั้งแรกในปี 1945 และจดทะเบียนเพื่อการพาณิชย์ในปี 1946 มันถูกใช้ในหลายภาคอุตสาหกรรมไม่ว่าจะเป็น อวกาศ การสื่อสาร อิเล็กทรอนิกส์กระบวนการทางอุตสาหกรรม และสถาปัตยกรรม ด้วยคุณสมบัติของมันคือ ลื่น ไม่ทำปฏิกิริยาทางเคมีกับสารอื่น และกันน้ำ ทำให้มันสามารถนำมาใช้ได้หลากหลาย และเนื่องจากมันถูกโฆษณาเป็นครั้งแรกในชื่อของ Teflon ผู้คนทั่วไปจึงรู้จักสารตัวนี้ในชื่อเทฟลอน สินค้าที่ทำให้ผู้บริโภคส่วนใหญ่เป็นที่รู้จักคือผลิตภัณฑ์ที่ใช้ในครัวเรือนอย่างเช่นการเคลือบพื้นผิวสำหรับการทอดในกระทะ ภายในหม้อ และตะหลิว เป็นต้น แต่อันที่จริงมันยังถูกใช้เป็นส่วนประกอบในเครื่องใช้ต่าง ๆ รอบตัวเรามากมายไม่ว่าจะเป็น เสื้อกันฝน รองเท้าบูทกันน้ำ ข้อต่ออวัยวะเทียม บอร์ดอิเล็กทรอนิกส์หรือแม้แต่หลังคาของท่าอากาศยานนานาชาติที่เมืองเดนเวอร์
หลังจากนั้นสารประกอบและสารเคมีอื่น ๆ ในตระกูล PTFE ก็ถูกผลิตและสังเคราะห์ออกมามากมายให้เหมาะสมกับสภาพการใช้งานที่แตกต่างกันออกไป ไม่ว่าจะเป็น FEP, ETFE และ PFA เป็นต้น เรียกได้ว่าเทฟลอนเองก็มีประโยชน์อย่างมากต่อการเติบโตทางเศรษฐกิจและการพัฒนาของมวลมนุษย์ชาติ ถึงขนาดที่บริษัทดูปองท์ได้รางวัล National Medal of Technology ในปี 1990 จาก จอร์จ บุช ผู้ซึ่งเป็นประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกาในขณะนั้น เนื่องจากเป็นบริษัทที่เป็นผู้นำในการคิดค้นและพัฒนาทำให้มนุษย์เรามีความก้าวหน้า ยังไม่นับรางวัลอีกมากมายที่ ดร.รอย ได้รับเนื่องจากการค้นพบของเขา
แต่หากเราบอกว่า PTFE มีความสามารถในการลื่นไหล ไม่ยึดเกาะไม่ทำปฏิกิริยากับสารใด ๆ แล้วมันกลายเป็นสารเคลือบที่อยู่บนพื้นผิวอุปกรณ์หรือสินค้าต่าง ๆ ได้อย่างไร วิธีการที่มันไปเคลือบอยู่บนวัสดุต่าง ๆ นั้นเป็นความลับทางการค้าของผู้ผลิตแต่ละราย แต่มีหลักการคร่าว ๆ คือการทำให้พื้นผิวที่ต้องการให้ PTFE ไปเคลือบอยู่นั้นขรุขระ ไม่ว่าจะเป็นการขัดให้เป็นร่อง หรือพ่นทรายละเอียดให้มันไม่เรียบ หลังจากนั้นใช้สารรองพื้นชนิดพิเศษซึ่งทำหน้าที่เสมือนกาว และอีกครั้งที่สารตัวนี้ก็เป็นความลับ เมื่อทากาวลงไปบนพื้นผิวแล้ว PTFE ก็จะถูกพ่นลงไป และนำไปอบที่อุณหภูมิสูงถึง 800 องซาเซลเซียสเพื่อทำให้สารเคลือบ PTFE แข็งตัวอยู่บนพื้นผิว และเราก็จะได้ กระทะเคลือบเทฟลอน ยี่ห้อต่าง ๆ แต่หากว่ากระบวนการผลิตใช้ความร้อนสูงทำให้เทฟลอนเกาะตัวบนพื้นผิวได้
นั่นก็แปลว่าหากเราใช้กระทะไม่ระมัดระวังและทำให้มันได้รับความร้อนสูงเป็นเวลานาน มันก็จะหลุดร่อนออกมาได้เช่นกัน กระทะเปล่า ๆ ที่ได้รับความร้อนจากเตาสามารถมีอุณหภูมิเพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็วถึง 500 องศาได้ และทำให้กระทะเทฟลอนของคุณเสียคุณสมบัติของมันไป รวมถึงปล่อยสารพิษกลิ่นเหม็นออกมาด้วย นอกจากนั้นการขูดหรือการขัดกระทะด้วยอุปกรณ์ที่ผิดอาจจะทำให้ PTFE ที่เคลือบไว้ ๆ บาง ๆ ที่หน้ากะทะหลุดร่อนออกมาได้เช่นกัน แม้ว่าการใช้กระทะเทฟลอนจะปลอดภัย และสารที่หลุดออกมาคงไม่ทำอันตรายอะไรหากทานเข้าไป เพราะมันไม่ทำปฏิกิริยากับสารอื่นในร่างกาย แต่กระบวนการผลิตก็ทำให้เกิดสารเคมีอันตรายต่อสิ่งแวดล้อมและนั่นทำให้บริษัทผู้ผลิตตกเป็นจำเลยของสังคมในขณะนี้
ขอบคุณภาพปก : Pixabay