แบ่งได้เป็น 3 ด้าน คือ
1. วินัยด้านทักษะทางสังคมทั่วไป เช่น เก็บของเป็นที่ ตรงต่อเวลา รู้จักกาลเทศะ ปฏิบัติตามกฏระเบียบ
2. วินัยด้านการใช้ชีวิตประจำวัน เช่น กินนอนเป็นเวลา อาบน้ำแปรงฟัน การแต่งตัว และการช่วยเหลือตัวเองได้เหมาะสมตามวัย
3. วินัยด้านการควบคุมตนเอง เช่น ควบคุมอารมณ์ได้ รู้จักการรอคอย ไม่โกรธจนกรีดร้องหรือขว้างปาข้าวของจนควบคุมตนเองไม่ได้
คุณพ่อคุณแม่ส่วนใหญ่คงเคยพบเจอปัญหาการขาดวินัยทั้ง 3 ด้านของลูก โดยเฉพาะเด็กในวัย 1-3 ปี ซึ่งเป็นวัยที่เริ่มเรียนรู้กฏกติกาสังคม ซึ่งบางครั้งอาจยังไม่สามารถทำตามกฏเกณฑ์ต่าง ๆ ได้อย่างสมบรูณ์ เพราะยังไม่รู้ว่าอะไรควรทำและไม่ควรทำ จึงเป็นหน้าที่ของคุณพ่อคุณแม่ที่ต้องปลูกฝังให้ลูกมีระเบียบวินัยตั้งแต่ที่บ้าน เพื่อเป็นพื้นฐานในการเรียนรู้การเข้าสังคมนอกบ้าน เพราะหากขาดการฝึกวินัยแล้ว เมื่อโตขึ้นเขาจะไม่รู้จักการควบคุมตนเอง ส่งผลให้มีปัญหาทางด้านพฤติกรรม เช่น ไม่ชอบทำตามกติกา ทำตามใจตนเอง ซึ่งอาจเกิดปัญหาในการอยู่ร่วมกับผู้อื่นในสังคม ดังนั้นการสอนลูกให้มีระเบียบวินัยจึงเป็นทักษะที่จำเป็นต่อพัฒนาการของเด็กที่คุณพ่อคุณแม่ควรให้ความสำคัญยิ่ง
แต่ควรมีวิธีจูงใจให้ลูกทำพฤติกรรมต่าง ๆ ด้วยความเต็มใจ เช่น ชวนลูกเก็บของเล่น โดยการให้เหตุผลว่าหากไม่เก็บของเล่นอาจหายได้ การบอกเหตุผลในสิ่งที่ต้องการให้ลูกทำ จะทำให้ลูกได้รู้จักคิดและเห็นประโยชน์ในการกระทำ ซึ่งจะได้ผลดีกว่าการถูกบังคับให้ทำ
บางครั้งเด็กอาจทำอะไรผิดพลาดไปเพราะยังไม่ค่อยเข้าใจกฏระเบียบต่าง ๆ เช่น วิ่งเล่นเวลากินข้าว หรือขว้างปาอาหาร คุณพ่อคุณแม่จึงควรชี้แนะลูกด้วยการบอกถึงสิ่งที่ต้องการให้ลูกทำแทนการดุด่า เช่น แม่อยากให้ลูกนั่งกินดี ๆ หรือแม่ไม่อยากให้ลูกขว้างปาอาหาร เพื่อเป็นการแสดงให้ลูกรู้ว่าสิ่งที่เขาทำไม่ถูกต้องและควรทำสิ่งไหนถึงจะถูก
เมื่อลูกปฏิบัติตนดีเป็นเด็กมีวินัย คุณพ่อคุณแม่ควรให้รางวัล เช่น ยิ้มให้ พยักหน้า โอบกอด หอมแก้ม ชื่นชม แต่เมื่อลูกมีพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมก็แสดงออกด้วยวิธีตรงกันข้าม เช่น เพิกเฉย ไม่ให้ความสนใจ ตักเตือน ริบรางวัล งดกิจกรรมที่ชอบ โดยเลือกวิธีให้เหมาะสมในแต่ละสถานการณ์ พร้อมอธิบายเหตุผลให้ลูกเข้าใจ
การสอนลูกให้มีระเบียบวินัยนั้นคุณพ่อคุณแม่และทุกคนในครอบครัวต้องมีความหนักแน่น และปฏิบัติต่อลูกไปในทิศทางเดียวกัน เช่น เมื่อคนใดคนหนึ่งลงโทษลูก อีกคนไม่ควรใจอ่อนผ่อนปรนโทษนั้น เพราะจะทำให้เด็กเกิดความสับสนและไม่เข้าใจว่าสิ่งใดถูกหรือผิดกันแน่ ผู้ใหญ่จึงต้องมีการพูดคุย ตกลงกันให้ชัดเจนก่อนว่าควรจะสอนลูกอย่างไรกันแน่
หากอยากสอนให้ลูกมีระเบียบวินัย สิ่งแวดล้อมรอบตัวเด็กก็ต้องมีความเป็นระเบียบเรียบร้อยด้วย เพื่อให้เขาได้ซึมซับและเคยชินกับความเป็นอยู่ที่มีระเบียบ หากลูกอยู่ในสิ่งแวดล้อมที่ไม่เป็นระเบียบต่อให้คุณพ่อคุณแม่เขี่ยวเข็ญแค่ไหนลูกก็จะไม่เกิดการเรียนรู้เพราะเคยชินกับสภาพแวดล้อมที่ไม่เป็นระเบียบไปแล้ว