เริ่มมีมาในครั้งพุทธกาล สมัยที่พระเจ้าพิมพิสารสร้างวัดเวฬุวันถวายแด่องค์สมเด็จพระสัมสัมพุทธเจ้า แต่พระองค์ยังไม่กรวดน้ำอุทิศบุญให้พระญาติของพระองค์ที่ล่วงไปแล้ว ตกเย็นมาเหล่าเปรตที่เคยเป็นพระญาติของพระองค์ในชาติก่อน ๆ ได้มาปรากฎตัวให้เห็นถึงความทุกข์ทรมาน พระเจ้าพิมพิสารจึงทูลถามพระพุทธองค์
พระพุทธองค์ตรัสว่า เปรตเหล่านั้นเป็นพระญาติของพระองค์ในชาติก่อน มาปรากฏให้เห็นเพื่อที่จะขอส่วนบุญจากพระองค์
ดังนั้น เมื่อเรานึกถึงคุณความดีของผู้ล่วงลับไปแล้ว ก็ควรทำบุญอุทิศให้ผู้ตายโดยเฉพาะพ่อแม่พี่น้องหรือญาติ ๆ ที่มีอุปการคุณแก่เรา เราควรตอบแทนบุญคุณท่านด้วยการทำบุญไปให้ เป็นหน้าที่อีกอย่างของบุตรธิดาที่ต้องทำเมื่อท่านล่วงลับไปแล้ว เพื่อแสดงความกตัญญูกตเวทิตา
นิยมมี 3 วาระ คือ
- ครบรอบ 7 วัน เรียกว่า ทำบุญสัตมวาร
- ครบรอบ 50 วัน เรียกว่า ทำบุญปัญญาสมวาร
- ครบรอบ 100 วัน เรียกว่า ทำบุญศตมวาร
ทั้งนี้ พระธรรมกิตติวงศ์ (ทองดี สุรเตโช ป.ธ.๙ ราชบัณฑิต) เจ้าอาวาสวัดราชโอสาราม ได้อธิบายความหมายของคำ ดังนี้
อ่านว่า “สัด-ตะ-มะ-วาน” ไว้ว่า วันที่ครบ 7 วันที่ 7 ใช้ว่า สัตตมวาร ก็มี
ปกติใช้เรียกกำหนดการทำบุญอุทิศให้แก่ผู้ตายเมื่อครบ 7วัน เรียกว่า ทำบุญสัตมวาร เรียกทั่วไปว่า ทำบุญ 7 วัน เช่นใช้ว่า
“กำหนดการทำบุญบำเพ็ญกุศลสัตมวาร”
“เนื่องในการทำบุญครบรอบสัตมวารของนาย...ขออาราธนาพระคุณเจ้าไปสวดพระพุทธมนต์และฉันภัตตาหารเพล...”
คำที่หมายถึงวันที่ทำบุญครบ 15 วัน อ่านว่า ปัน-นะ-ระ-สะ-มะ-วาน
ทำบุญ 50 วัน เรียกว่า ทำบุญปัญญาสมวาร อ่านว่า ปัน-ยา-สะ-มะ-วาน”
ใช้ในการนับวันเวลาของเหตุการณ์อย่างใดอย่างหนึ่งที่มาบรรจบครบ 50 วัน ปกติใช้นับวันเวลาการตายของบุคคล
“ศตมวาร” อ่าว่า “สะ-ตะ-มะ-วาน” ความหมาย คือ วันที่ครบ 100 วันที่ 100 เขียนว่า สตมวาร ก็มี
ใช้ในการนับวันเวลาของเหตุการณ์อย่างใดอย่างหนึ่งที่มาบรรจบครบ 100 วัน ปกติใช้นับวันเวลาการตายของบุคคล และมีการทำบุญอุทิศไปให้ผู้นั้นเนื่องในวันครบ 100 วัน เรียกการนี้ว่า ทำบุญศตมวาร