เรื่องและภาพ: เชิดพิพัฒน์ วัฒนวิกกิจ
ทุกปีในช่วงออกพรรษา หนองคายถูกกล่าวถึงเพราะเป็นพื้นที่ที่เกิดตำนานบั้งไฟพญานาค ซึ่งกลายเป็นเทศกาลท่องเที่ยวใหญ่ของเมืองริมโขงแห่งนี้ จริงอยู่ที่หนองคายมีเรื่องเล่าขานว่าเป็นดินแดนพญานาค แต่หนองคายก็ยังมีอะไรที่มากกว่าตำนานเก่าแก่ ดินแดนเงียบสงบเคียงข้างสายน้ำโขงที่ยิ่งใหญ่ได้รับการโหวตจากนิตยสารอเมริกันว่าเป็นเมืองน่าอยู่ลำดับ 7 ของโลก นอกจากบรรยากาศริมโขงที่หาไม่ได้จากที่ไหน ลองใช้เวลาเที่ยวรอบเมืองหนึ่งวันแล้วคุณจะอยากกลับมาที่นี่อีกครั้ง
เที่ยวหนองคาย แล้วไม่ได้มาที่นี่ก็เหมือนกับว่ามาไม่ถึง วัดโพธิ์ชัย พระอารามหลวง เป็นวัดคู่บ้านคู่เมืองของชาวหนองคาย เป็นที่ประดิษฐาน หลวงพ่อพระใส พระพุทธรูปขัดสมาธิราบ ปางมารวิชัย หล่อด้วยทองสีสุก มีลักษณะงดงาม
ตำนานเล่าว่า พระธิดาสามองค์ของกษัตริย์ล้านช้าง กรุงเวียงจันทน์ ได้หล่อพระพุทธรูปขึ้นสามองค์ คือ พระเสริม พระสุก และพระใส ต่อมาในสมัย ร.3 ได้อัญเชิญพระพุทธรูปข้ามฝั่งมายังเมืองหนองคาย แต่เกิดพายุพัดพระสุกจมน้ำหายไป ส่วนพระเสริมและพระใสนำมาประดิษฐานที่วัดโพธิ์ชัย จนถึงสมัย ร.4 จึงอัญเชิญพระเสริมไปกรุงเทพฯ
ใครที่ชอบพุทธศิลป์ที่ละเอียดงดงาม รูปปั้นขนาดใหญ่ที่ ศาลาแก้วกู่ หรือวัดแขก ให้ความรู้สึกตื่นเต้นและน่าทึ่ง ได้ความว่าวัดถูกสร้างขึ้นราวปี พ.ศ. 2521 ตามความเชื่อว่าหลักคำสอนทุกศาสนาสามารถนำมาผสมผสานได้
รูปปั้นมีพระพุทธรูปปางต่างๆ รูปเทพฮินดู รูปปั้นทางศาสนาคริสต์ รูปปั้นรามเกียรติ์และตำนานพื้นบ้าน
หนองคายก็มีอควาเรี่ยม พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำจังหวัดหนองคาย ตั้งอยู่ใน ม.ขอนแก่น วิทยาเขตหนองคาย จัดแสดงพันธุ์ปลาน้ำจืดและปลาน้ำเค็มมากมายไม่แพ้บึงฉวากสุพรรณบุรี เสียค่าเข้าชมเพียง 20 บาท เด็กนักเรียน 10 บาท ไฮไลท์อยู่ที่อุโมงตู้ปลาน้ำจืดที่สามารถมองเห็นปลาได้ 180 องศา
ปลาอัลลิเกเตอร์ หรือปลาจระเข้ ดูหน้าตรงแบบนี้ น่ารักจริงๆ
ปิดท้ายวันที่ ตลาดท่าเสด็จ แหล่งช้อปปิ้งแหล่งพักผ่อนในบรรยากาศริมแม่น้ำโขง มองเห็นบ้านเมืองลาวฝั่งตรงข้าม และเป็นจุดชมพระอาทิตย์ขึ้นและพระอาทิตย์ตก
Tip
|