เรื่องและภาพ: อาทิตยา สุขาภิรมย์
“ทาคายามะ” จังหวัดกิฟุ เมืองขี้อายภายใต้อ้อมกอดแห่งขุนเขาและสายน้ำแห่งภูมิภาค Chubu บ้านเรือนที่ยังคงอนุรักษ์ไว้อย่างสมบูรณ์แบบ เจือกลิ่นอายวัฒนธรรมโบราณและประวัติศาสตร์ ผสมผสานกับจังหวะการใช้ชีวิตช้า ๆ ต่างจากเมืองใหญ่อย่างโตเกียว เป็นเสน่ห์ที่ทำให้เราเลือกเดินทางมาเก็บความทรงจำ ณ ที่แห่งนี้
ตลาดของคุณตาคุณยาย
แดดยามเช้าทำให้ตลาดเช้ามีสีสันมากขึ้น เช้าอันเงียบสงบค่อย ๆ เคลื่อนไหว หน้าตลาดเช้าจินยะมาเอะ (Jinyamae) เต็มไปด้วยแม่บ้านญี่ปุ่นออกมาจับจ่ายใช้สอย คุณตาคุณยายจะนำผักผลไม้และดอกไม้จากสวนหลังบ้านออกมาขายในบรรยากาศเป็นกันเอง อาหารสดใหม่มีให้ชิมไปตลอดทาง
ใกล้เคียงกันนั้นเป็น Takayama jinya อาคารสำนักงานว่าการเก่าแก่ มีลักษณะเป็นบ้านไม้ญี่ปุ่นโบราณขนานแท้ ภายในเปิดให้ชมเหมือนพิพิธภัณฑ์ทั่วไป จัดแสดงข้าวของเครื่องใช้ แบ่งเป็นห้องต่าง ๆ แม้แต่ห้องทรมานนักโทษก็มีให้ชม อากาศวันนี้อบอุ่น ความเงียบสงบภายในอาคารเก่าดึงดูดให้เราเผลอจินตนาการย้อนยุคกลับไปอยู่ท่ามกลางวิถีชีวิตโบราณ
เดินผ่านสะพานแดงนากาบาชิ (Nakabashi) ข้ามแม่น้ำมิยากาวะ แม่น้ำสายหลักที่ไหลผ่านใจกลางเมืองทาคายามะ เราก็พบกับหมู่บ้านสมัยเอโดะที่หลงเหลืออยู่ ถนนชอปปิ้งสตรีทสายสั้นนี้เต็มไปด้วยร้านอาหารและร้านขายของจุกจิกน่ารัก จนได้การขนานนามว่า “ลิตเติ้ลเกียวโต”
ชิราคาวาโกะ
บ่ายแก่ๆ เราออกเดินทางไปหมู่บ้านมรดกโลกชิราคาวาโกะ (Shirakawa-go) ซึ่งถือเป็นไฮไลท์สำคัญของทริปนี้ รถบัสใช้เวลาในการเดินทาง 50 นาที ตัดผ่านเขาลูกแล้วลูกเล่า ตลอดสองข้างทางปกคลุมไปด้วยดอกไฮเดรนเยียสีฟ้าคราม ม่วง ขาวสลับไปมา รถบัสจอดแวะที่จุดชมวิวบนเนินเขายอดฮิต เราสามารถมองเห็นหมู่บ้านชิราคาวาโกะได้ทั้งหมู่บ้าน มีแบคกราวน์เป็นป่าสนทึบ แดดสีทองยามบ่ายช่วยสาดส่องให้ชิราคาวาโกะ กลายเป็นเมืองในเทพนิยายเข้าไปทุกที
สักพักหนึ่งรถบัสก็นำทางเราก็มาถึงจุดหมาย ชิราคาวาโกะ หมู่บ้านชาวนาที่ตั้งอยู่ในหุบเขาขนานตามลำน้ำโชวกะวะ มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวคือบ้านที่ทำด้วยไม้ หลังคาตั้งชันทำมุม 60 องศา คล้ายรูปคนพนมมือ ปูด้วยหญ้าคา ต้นไผ่ และวัสดุธรรมชาติที่หาได้ในท้องถิ่นซึ่งมีความทนทาน สามารถรองรับน้ำหนักของหิมะในหน้าหนาวได้
เดิมทีผู้คนที่นี่ยึดอาชีพทำการเกษตร จึงไม่แปลกใจที่หน้าบ้านทุกหลังจะมีแปลงดอกไม้และนาผืนย่อม มีต้นข้าวเขียวขจีกำลังแตกใบอ่อนถือเป็นสัญญาณเริ่มต้นของฤดูทำนา บ้านหลายหลังปรับเปลี่ยนเป็นพิพิธภัณฑ์ ร้านขายของ และเปิดเป็นที่พักแบบ “เรียวกัง” หรือโฮมสเตย์ให้นักท่องเที่ยวได้สัมผัสชีวิตแบบดั้งเดิมกันอย่างเต็มที่ แต่ต้องจองล่วงหน้าถึง 3 เดือน
One day trip จากโตเกียวสู่ทาคายามะของฉันจบลงด้วยการแช่ออนเซ็นเท้าแบบไม่เสียเงิน พอให้คลายความเมื่อยล้าจากทริปยาวนานในวันนี้ ตบท้ายมื้อเย็นด้วยอาหารขึ้นชื่อประจำถิ่น “ข้าวหน้าเนื้อฮิดะ” หอมขึ้นจมูก เก็บความทรงจำกลับไปทั้งรสชาติ บรรยากาศโบราณ กลิ่นไอของหน้าร้อน และเสียงธารน้ำไหลในวันหยุดแสนสงบ