- ใช้ข้อมูลเป็น เข้าใจที่มาของข้อมูล รวมถึงการสร้างความสัมพันธ์เพื่อแปรผล
- คิดวิเคราะห์อย่างมีเหตุผล
- มีเครื่องมือเศรษฐมิติ (แบบจำลองคณิตศาสตร์+สถิติ+ทฤษฎีเศรษฐศาสตร์) ในการหาความสัมพันธ์ของข้อมูลและวิเคราะห์เชิงลึกเพื่อใช้ในกระบวนการตัดสินใจ
- ไม่เชื่ออะไรง่ายๆ คิดทบทวนไปมา (บางทีก็ช้าเกินไปไม่ทันกาล)
- ค้นหาข้อมูลทั้งเชิงคุณภาพและเชิงปริมาณเพื่ออธิบายสิ่งที่สังเกตเห็น
- ชอบตั้งคำถาม เพื่อให้ได้ข้อมูล (จนบ่อยครั้งดูก้าวร้าว)
- อธิบายทุกเรื่องด้วยทฤษฎีที่ตนเองเข้าใจ (แต่ไม่ค่อยมีคนอื่นเข้าใจ)
- ชอบทำงานหรือกิจกรรมเพื่อสังคม และรับผิดชอบส่วนที่ตนเองทำเพื่อไม่ให้เกิดผลกระทบกับคนอื่น
ลักษณะการทำงาน
ขั้นตอนการทำงาน
- สำหรับเศรษฐกรของภาครัฐ จะมีพันธกิจขององค์กรที่อยู่ เช่น ของกระทรวงการคลัง คือ บริหารการเงินการคลังภาครัฐ ให้ประเทศเกิดความยั่งยืน ซึ่งเป็นตัวที่ทำให้รู้ว่าเราอยู่จุดไหนในองค์กรที่มีขนาดใหญ่มากๆ ซึ่งก็คือเป้าหมายของการทำงานของเรา ดังนั้นเริ่มแรกเราต้องเข้าใจว่าเป้าหมายของเราคืออะไร และเราอยู่ตรงจุดไหน เรียนรู้ภาพรวมขององค์กรเราก่อน
- ศึกษาภาพเศรษฐกิจของประเทศ ณ ปัจจุบัน และนโยบายของภาครัฐในปัจจุบัน
- หา จัดเก็บ และรวบรวมข้อมูลที่เกี่ยวข้องในอดีต ว่าเราเคยได้รับผลกระทบหรือมีเหตุการณ์อะไรบ้างที่ส่งผลกระทบใกล้เคียงกับสถานการณ์ปัจจุบัน ศึกษาฐานข้อมูลเดิมที่มี หาข่าวสารในอดีต ศึกษาตัวเลขเศรษฐกิจในช่วงเวลานั้น ๆ แล้วมองหาปัจจัยว่าเกิดจากอะไรบ้าง ต้องหมั่นติดตามข่าวสารสถานการณ์บ้านเมือง คาดการณ์ปัจจัยที่อาจส่งผลกระทบต่อโครงการหรือสิ่งที่เราจะนำเสนอนโยบายต่อไป
- ประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องซึ่งเกี่ยวเนื่องกับเป้าหมายในการทำงาน เพื่อขอข้อมูลเพิ่มเติมให้ครบถ้วนที่สุดเท่าที่ตอนนั้นจะทำได้
- นำข้อมูลมาวิเคราะห์ผ่านเครื่องมือต่างๆ ที่เราได้เรียนมา และตามที่หน่วยนั้นๆใช้เป็นเครื่องมือหลัก ประมวลผล เพื่อหาทางเลือก ข้อเสนอของข้อมูล ผลกระทบ สิ่งที่ได้ ที่อาจเกิดขึ้น สำหรับประกอบการตัดสินใจในองค์กร
- การร่างนโยบายหรือโครงการนั้น จะเป็นไปตามลำดับขั้นการทำงาน
- จะมีส่วนของนักกฎหมายที่มาช่วยดูต่อว่ามีตรงไหนติดขัดอะไรยังไงไหม ก่อนจะนำไปเสนอหรือใช้ แต่ตัวเศรษฐกรเองก็ต้องมีความรู้ด้านกฎหมายคร่าว ๆ ด้วย ซึ่งมักจะได้จากประสบการณ์จากเนื้องานของแต่ละคนที่ทำ
สถานที่ทำงาน
ทำงานในออฟฟิศหรือสำนักงาน บางครั้งอาจมีการได้ออกไปนอกสถานที่ เพื่อร่วมประชุมหรือติดต่อราชการนอกสถานที่ในตำแหน่งที่ต้องมีการประสานงานด้วย
ผู้ที่ต้องทำงานด้วย
เศรษฐกรในหน่วยงานภาครัฐจะเน้นการทำงานในแง่ของการวิเคราะห์นโยบายภาพรวม หรือโครงการต่าง ๆ ของภาครัฐ ดังนั้นผู้ที่ต้องทำงานด้วยอาจแตกต่างจากเศรษฐกรหรือนักเศรษฐศาสตร์ในหน่วยงานเอกชนที่อาจมีเป้าหมายต่อองค์กรและวิธีการทำงานที่แตกต่างออกไป
- นักบัญชี
- นักกฎหมาย
- วิศวกร
- นักสิ่งแวดล้อม
- อาจารย์
- โปรแกรมเมอร์
ทางเลือกอาชีพ
- นักวิเคราะห์นโยบายและแผน ในหน่วยงานราชการอื่นทั่วไป และองค์กรปกครองท้องถิ่น (เทศบาล อบจ. อบต.)
- พนักงานวิเคราะห์สินเชื่อ ธนาคารพาณิชย์และบริการผู้ให้บริการด้านการเงิน
- พนักงานในบริษัทการเงิน อาทิ โบรกเกอร์ กองทุนรวม
- พนักงานในบริษัทประกันภัยและประกันชีวิต
- พนักงานในโรงงานเพื่อการวางแผนการผลิต
- พนักงานในส่วนงานการวางแผนการตลาด ของบริษัทค้าปลีก
- พนักงานในส่วนวางแผนการขนส่งและคลังสินค้า
- ที่ปรึกษาด้านการเงินในสถาบันการเงิน
- หรือสายอาชีพอื่นที่ต้องใช้การวิเคราะห์ข้อมูล
ตำแหน่งและเส้นทางการเติบโตในสายอาชีพ
- การขึ้นสู่ตำแหน่งผู้บริหารระดับสูงในองค์การ
- การเป็นผู้จัดการส่วนงานในธนาคารพาณิชย์
- การเป็นผู้บริหารในบริษัทและธุรกิจเอกชน
- การเป็นที่ปรึกษาด้านการวางแผนธุรกิจ ฯลฯ
การทำธุรกิจของนักเศรษฐศาสตร์
- นักเศรษฐศาสตร์จำนวนมากจะมีการทำธุรกิจต่อยอดจากธุรกิจในครอบครัว โดยใช้ทักษะการวิเคราะห์และการหาข้อมูล เพื่อช่วยให้ธุรกิจขยายตัวและแข่งขันได้ในยุคปัจจุบัน
- นักเศรษฐศาตร์ส่วนหนึ่งจะเริ่มธุรกิจใหม่ ด้วยตนเอง และทุนที่ตนเองมี โดยจะสร้างกระบวนการในการผลิตและการให้บริการที่เป็นมาตรฐาน
- นักเศรษฐศาสตร์จะมองหาจังหวะและโอกาสในการทำธุรกิจ ในแต่ละช่วงของการเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจ
นักเศรษฐศาสตร์ในฐานะของนักลงทุน
นักเศรษฐศาสตร์จะมีทักษะการวิเคราะห์ที่ดี จึงทำให้มองหาหนทางการลงทุน ทั้งในสินทรัพย์ทางการเงิน และการลงทุนในธุรกิจจริง โดยจะมีการวิเคราะห์ Cost-Benefit ตลอดเวลา จึงเป็นส่วนสำคัญที่นักเศรษฐศาสตร์จะมุ่งเน้นการลงทุน เพื่อสร้างฐานะและความมั่งให้กับตนเองและครอบครัว
รายได้
- เริ่มต้นทำงานที่ 15000 - 20000 บาท
- Senior 20,000 - 30,000 บาท
- ระดับสูง 40,000+ บาท
การแข่งขันและความต้องการการตลาด
เป็นสายงานมีการแข่งขันค่อนข้างสูง เพราะเป็นสาขาที่มีผู้เรียนเยอะ ซึ่งจะวัดกันที่ soft skill ของแต่ละบุคคลด้วย แต่มีความหลากหลายในทางเลือกอาชีพมากและสามารถไปได้หลายภาคทั้งรัฐ เอกชน อุตสาหกรรม ฯลฯ มีความต้องการในตลาดค่อนข้างมาก
- ทำให้เราเป็นคนมีหลักการคิด มีกระบวนการคิดที่เป็นระบบมากขึ้น สามารถวิเคราะห์ข้อมูลข่าวสารและข้อเท็จจริงต่าง ๆ ได้
- เข้าใจเรื่องเศรษฐกิจของประเทศ ปรับตัวรับมือได้ทันกับสถานการณ์ต่าง ๆ ที่เกิดขึ้น และประเมินสถานการณ์ที่อาจเกิดขึ้น วางแผนรับมือต่อไปในอนาคตเพื่อรับมือได้
- สามารถต่อยอดได้หลากหลายทุกสายอาชีพ เพราะมีทักษะการวิเคราะห์ หางานได้ง่าย
- เนื้อหาวิชาทฤษฎีที่เรียนค่อนข้างยากต่อการเข้าใจ
- ใช้คณิตศาสตร์เยอะมาก คนที่ไม่ชอบอาจไม่เหมาะจะเรียนสายนี้
- มีความละเอียดรอบคอบ
- กระตือรือร้นในการอัพเดทตามข่าวสารให้ทันสถานการณ์ปัจจุบัน สังเกตการเปลี่ยนแปลง ชอบอ่าน ชอบเสพข้อมูล
- ชอบตั้งคำถาม และคิดวิเคราะห์หาคำตอบในสิ่งที่เราอยากรู้ ใฝ่หาข้อมูลใหม่ ๆ ทั้งเชิงคุณภาพและเชิงปริมาณเพื่ออธิบายสิ่งที่สังเกตเห็น
- ทักษะการคิดวิเคราะห์ เศรษฐกรเป็นอาชีพที่ต้องคิดวิเคราะห์รายละเอียดข้อมูลอย่างละเอียด เพื่อนำมาคิดวิเคราะห์และสรุปผลลัพท์ในทางเศรษฐศาสตร์
- ทักษะการคิดเชิงวิพากษ์ นำมาใช้ประกอบการตัดสินใจจากความซับซ้อนของข้อมูลที่มีมากมาย รวมทั้งปัจจัยต่าง ๆ รอบด้านทางสังคม เช่น ความต้องการการตลาด เทรนด์ของผู้บริโภคเป็นต้น เพื่อนำมาประกอบการวิเคราะห์และนำเสนอผลลัพธ์แก่หน่วยงานที่ต้องการ
- ทักษะการสื่อสาร เป็นสิ่งจำเป็นที่ต้องใช้ในการนำเสนอหรือสื่อสารให้ผู้อื่นเข้าใจถึงรายงานการวิเคราะห์ของเรา เพราะลูกค้าหรือผู้ที้เราสื่อสารด้วยนั้นอาจมีความรู้พื้นฐานด้านเศรษฐศาสตร์แตกต่างกัน ซึ่งการสื่อสารนี้ควรทำได้ดีทั้งด้านการพูดและการเขียน
การศึกษา
- ระดับมัธยมศึกษา แม้ว่าคณะในมหาวิทยาลัยจะไม่ได้บังคับว่าต้องเรียนสายอะไร แต่การเลือกเรียนสายที่ใช้คณิตศาสตร์จะได้เปรียบกว่าเพราะเป็นศาสจร์ที่ใช้การคำนวณเยอะมา
- ระดับปริญญาตรี เลือกเรียนคณะเศรษฐศาสตร์ (วุฒิเศรษฐศาสตร์บัณฑิต ต่างประเทศอาจเป็นวิทยาศาสตร์บัณฑิต) คณะบริหารธุกิจ เป็นหลัก
- ระดับปริญญาโท จะไม่ได้บังคับว่าต้องจบคณะอะไรมา แต่เน้นการใช้คณิตศาสตร์เป็นหลัก
Hard Skills
- คณิตศาสตร์ อาจไม่ต้องถึงขั้นเก่งมาก แต่ให้พอเข้าใจในหลักการ
- โปรแกรมคอมพิวเตอร์ การใช้ MS Excel ขั้นกลางถึงสูง เพื่อทำงานให้รวดเร็วขึ้น
- การใช้ MS Excel ขั้นกลางถึงสูง เพื่อทำงานให้รวดเร็วขึ้น
- การใช้โปรแกรมสถิติ Stata และ Eview ซึ่งเป็นโปรแกรมขั้นสูงในการวิเคราะห์
- ภาษาอังกฤษ ต้องใช้ในการอ่านเอกสารวิชาการภาษาอังกฤษและข่าวเศรษฐกิจภาษาอังกฤษ เพื่อประมวลผล
Soft Skills
- ทักษะการคิดวิเคราะห์ข้อมูล
- ทักษะการสื่อสาร สำคัญ ทั้งกับการสื่อสารเพื่อรวบรวมข้อมูลให้ได้ตามต้องการ และการนำเสนอข้อมูล การเขียนและถ่ายทอดออกมาในรูปแบบภาพ infographic ซึ่งเป็นรูปแบบที่เปลี่ยนไปตามยุคปัจจุบัน
- ความกล้าที่จะถามหากมีส่วนไหนที่ติดขัดหรือไม่เข้าใจ
- มีการพัฒนาตัวเองอยู่ตลอดเวลา
วิชาที่เรียน
- เศรษฐศาสตร์มหภาค เรียนเกี่ยวกับการเงินการคลังภาครัฐ ที่เป็นภาพรวมทั้งประเทศ โดยต้องมีการดูด้านสังคมและอื่นๆ เข้ามาประกอบด้วย
- เศรษฐศาสตร์จุลภาค เรียนเกี่ยวกับเรื่องของภาคธุรกิจ อุตสาหกรรม องค์กรเอกชน ปัจจัย ค่าใช้จ่าย การวิเคราะห์จัดสรรทรัพยากรให้ได้ผลกำไรสูงสุด
- คณิตศาสตร์ การวิเคราะห์ข้อมูลทางเศรษฐศาสตร์นั้นจะเกี่ยวข้องกับการหาค่าเฉลี่ยและสถิติโดยตรง แม้ปัจจุบันจะมีเครื่องมือหรือโปรแกรมที่ใส่สูตรในการคำนวณไว้แล้ว แต่เราก็ต้องเรียนรู้พื้นฐานและหลักการการใช้โปรแกรมต่าง ๆ เพื่อให้เข้าใจในตัวเครื่องมือที่ต้องใช้
- การเงินการธนาคาร วิชาหลักอีกวิชาที่แตกย่อยจากเศรษฐศาสตร์มหภาค เกี่ยวกับสถาบันการเงินต่าง ๆ
- เศรษฐศาสตร์บริหารการเงินส่วนบุคคล เกี่ยวกับการบริหารรายได้ ค่าใช้จ่าย การเงิน แบบส่วนบุคคล วางแผนอนาคต การเกษียณต่าง ๆ
- เศรษฐศาสตร์ทรัพยากร จัดสรรทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ผลกระทบต่อประชาชน สังคม ที่มีผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมโดยตรง
- เศรษฐศาสตร์สุขภาพ วิเคราะห์จัดสรรทรัพยากรที่ใช้ในด้านการดูแลสุขภาพของประชากร อาจมีความรู้ทางการแพทย์มาเกี่ยวข้องด้วยคร่าว ๆ
เคล็ดลับการเรียน
ตั้งใจเรียนไปพร้อมกับการทำกิจกรรม ซึ่งจะช่วยในด้านการพัฒนาทักษะ soft skill และการเข้าสังคม อยู่ร่วมกับผู้อื่น ที่ได้นำไปใช้ในการทำงานจริง ๆ และทำให้เราได้เรียนรู้ตัวเองได้มากขึ้น ช่วยในการทำงานในโลกจริงได้มาก ลองเลือกกิจกรรมที่ชอบในรั้วมหาวิทยาลัยซึ่งมีเยอะมาก ซึ่งทำให้เราได้ผ่อนคลายจากการเรียนด้วย ถ้าอยากรู้ว่าเราชอบอะไรต้องลองทำ
ชีวิตในรั้วมหาวิทยาลัย
-
ปี 1 จะเรียนวิชาหลักๆ เศรษฐศาสตร์มหภาค จุลภาค คณิตศาสตร์ ภาษาอังกฤษ
-
ปี 2 จะเริ่มลงลึกวิชาเศรษฐศาสตร์มากขึ้น เริ่มมีวิชาเลือกตามความสนใจ
-
ปี 3 - ปี 4 มีการฝึกงาน ขึ้นอยู่กับแต่ละมหาวิทยาลัย รวมถึงทำโปรเจคตามความสนใจ
-
การเรียนต่อระดับปริญญาโท จะเน้นการใช้คณิตศาสตร์มาสร้างแบบจำลอง คิดวิเคราะห์หาวิธีพัฒนาแบบจำลองเดิมที่มี นำมาต่อยอดให้เข้ากับสถานการณ์ปัจจุบันและยุคสมัย
ค่าเทอมตลอดหลักสูตร
- มหาวิทยาลัยรัฐบาล ประมาณ 20,000 - 30,000 บาท ต่อปี
- มหาวิทยาลัยเอกชน ประมาณ 35,000 - 60,000 บาท ต่อปี
มหาวิทยาลัยชั้นนำระดับโลก
Copyright © 2019 TruePlookpanya. All rights reserved.
สงวนลิขสิทธิ์ตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2537 ห้ามมิให้ผู้ใดคัดลอก ทำซ้ำ ดัดแปลง แก้ไข หรือเผยแพร่ส่วนหนึ่งส่วนใดของบทความนี้ก่อนได้รับอนุญาตเป็นลายลักษณ์อักษร