สัตวบาล ถือเป็นอาชีพผู้ผลิตแหล่งโปรตีนจากสัตว์เพื่อส่งตรงถึงมือผู้บริโภคเนื้อสัตว์อย่างปลอดภัยและได้คุณภาพ โดยหน้าที่หลัก คือ จัดการด้านการเลี้ยงสัตว์อย่างถูกวิธีและได้มาตรฐาน เพื่อผลิตเนื้อสัตว์ให้ได้ปริมาณและคุณภาพที่ตอบโจทย์อุตสาหกรรมปศุสัตว์นั่นเอง
ลักษณะการทำงาน
หน้าที่หลัก ๆ ของสัตวบาล คือการเลี้ยงสัตว์ เพื่อนำไปผลิตเป็นอาหารประเภทโปรตีนที่มีคุณภาพแก่ผู้บริโภค จึงเป็นงานที่ต้องใช้ศาสตร์และศิลป์ควบรวมกันไปด้วย โดยองค์ประกอบสำคัญของการเลี้ยงสัตว์ มีสามอย่าง คือ
-
ด้านสายพันธ์ สัตวบาลต้องเข้าใจการปรับปรุงพันธุ์ เข้าใจโครโมโซมของสัตว์ที่ทำให้เติบโตไวและแข็งแรง
-
ด้านอาหาร สัตวบาลต้องเข้าใจการให้อาหารที่เหมาะและปริมาณที่เหมาะสมเพื่อให้เติบโตได้ทันตามความต้องการของเรา เพื่อส่งออกไปยังตลาด รู้จักการผลิตอาหารสัตว์ที่ครบห้าหมู่ เพื่อให้สัตว์ได้อาหารที่ปลอดภัยและสารอาหารที่ครบถ้วน เข้าใจในเรื่องแร่ธาตุและสารอาหารที่มีผลต่อสัตว์ในแต่ละช่วงวัยเป็นอย่างดี
-
ด้านการจัดการ ต้องมีการคิดออกแบบสร้างโรงเรือน และจัดหาพื้นที่เพาะเลี้ยงที่เหมาะสมกับสัตว์แต่ละชนิด แต่ละสายพันธุ์ รวมถึงแต่ละช่วงวัย เพื่อให้สัตว์มีความสุขและเติบโตในสภาพแวดล้อมที่ดี
ขั้นตอนการทำงาน
งานของสัตวบาลสามารถทำงานได้ในหลากหลายตำแหน่งของสายงานการผลิต แต่ในกรณีนี้จะเล่าถึงขั้นตอนการทำงานของสัตวบาลผู้ดูแลจัดการฟาร์ม ซึ่งอยู่เป็นกลางน้ำของกระบวนการผลิตทั้งหมด
- สัตวบาลเป็นผู้ที่เข้าใจสัตว์ได้ดีที่สุด จึงต้องเป็นผู้ออกแบบและควบคุมการก่อสร้างโรงเรือน เพื่อให้สัตว์มีสุขอนามัยดีที่สุด โดยเริ่มต้นจากการก่อสร้างฟาร์ม หาที่ดินี่เหมาะสมสำหรับการสร้างฟาร์ม ดูดิน ดูน้ำใต้ดิน ไฟฟ้า การก่อสร้างโรงเรือนเลี้ยงสัตว์ ต้องดูทิศทางลมในการออกแบบให้สัตว์ เช็คอากาศจัดการเรื่องพัดลม มีระบบทำความเย็น ผนวกกับระบบ Bio Security แบ่งเป็นสามโซน คือ พื้นที่คนเลี้ยง /พื้นที่การเลี้ยง สัตว์ ซึ่งต้องสะอาดปลอดเชื้อ/ และพื้นที่ขาย
- เตรียมการเลี้ยงสัตว์ ทำความเข้าใจเรื่องแม่พันธ์ เข้าใจสุขภาพเบื้องต้นของลูกสัตว์ชนิดต่าง ๆ เตรียมอาหาร เตรียมความอบอุ่น ทำไฟกก(กรณีเลี้ยงไก่) ดูแลจัดอาหารให้เหมาะสมตามวัย ระหว่างการเลี้ยงต้องจัดการอุณหภูมิ จัดการความชื้น จัดการโรงเรือนให้ถูกต้อง
- เมื่อสัตว์โตตามเกณฑ์แล้ว ก่อนนำไปสู่โรงเชือด ต้องจัดการไม่ให้อาหารอยู่ในระบบทางเดินอาหารเลย เพื่อให้สะอาดที่สุด ต้องไม้ให้หมูเครียดก่อนโดนเชือด เพราะเนื้อออกมาจะไม่มีคุณภาพ และนำไปขายถึงมือผู้บริโภค
- หากทำหน้าที่ขายส่วนของเนื้อสัตว์ด้วยตนเอง ก็ต้องใช้ความรู้เรื่อง meat sci. ในการดูแลจัดการเนื้อสัตว์ นำเข้าห้องเย็นควบคุมคุณภาพก่อนนำออกขายสู่ตลาด
สถานที่ทำงาน
- ฟาร์มหรือไร่ของตนเอง
- ตลาดสด
ผู้ที่ต้องทำงานด้วย
- พนักงานที่ทำงานฟาร์ม แม่บ้าน คนเลี้ยง สัตวแพทย์
- พนักงานราชการที่ต้องมาตรวจจากกรมปศุสัตว์ เกษตร พานิชย์ กรมทรัพยากรน้ำ
- ประสานกับเกษตรกร ผู้ประกอบการ
ทางเลือกอาชีพอื่น ๆ
หากมีองค์ความรู้ด้านสัตวบาลสามารถทำงานในสายงานด้านปศุสัตว์ได้หลากหลายตลอดกระบวนการผลิตแหล่งโปรตีนจากสัตว์ ทั้งต้นทางการผลิตจนถึงปลายทางการขายเพื่อส่งตรงถึงผู้บริโภค ตัวอย่างทางเลือกอาชีพ เช่น
- นักวิชาการสัตวบาล ในหน่วยงานราชการ
- นักวิทยาศาสตร์ประจำห้องปฏิบัติการ
- นักพัฒนาชนบททางด้านการเกษตร
- นักสัตวบาลประจำฟาร์ม
- เจ้าหน้าที่ส่งเสริมการขาย
- ประกอบอาชีพอิสระ เช่น เจ้าของฟาร์ม/บริษัท
- ตัวแทนจำหน่ายอาหารและอุปกรณ์เลี้ยงสัตว์ เป็นต้น
ตำแหน่งและเส้นทางการเติบโตในสายอาชีพ
- งานราชการ สามารถเติบโตในเส้นทางด้านปศุสัตว์ โดยเริ่มต้นจากระดับปฏิบัติการระดับปฏิบัติการ แล้วเติบโตเป็นหัวหน้าสถานี/ปศุสตว์อำเภอ หัวหน้ากลุ่มยุทธศาสตร์และสารสนเทศการปศุสัตว์/หัวหนัาด่านกักสัตว์ แล้วจึงจะสามารถเข้ารับการคัดเลือกเพื่อเป็นปศุสัตว์ระดับจังหวัดได้
- งานเอกชน ตัวอย่างเส้นทางการเติบโตในองค์กรเอกชน ดังนี้
- สัตวบาลปฏิบัติการในฟาร์ม
- ผู้จัดการฟาร์ม
- ผู้จัดการฟาร์มระดับภาค (ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ)
- รองกรรมการผู้จัดการ
- รองกรรมการผู้จัดการบริหาร (ดูแลหลายระบบ)
- CEO
รายได้
- หากทำงานในฟาร์ม รายได้อาจไม่แน่นอน
- ทำงานกับบริษัทเอกชน ก็จะเบิกค่าใช้จ่ายเรื่องรถ ค่าโทรศัพท์ ค่าที่พัก เริ่มต้น 18,000- 20,000 อยู่ต่างจังหวัด จะเพิ่ม 3000 – 5000
การแข่งขันและความต้องการของตลาด
สัตวบาลยังคงได้เปรียบเพราะมีความรู้เฉพาะทางด้านการปศุสัตว์ได้ เพราะมีความรู้วิชาชีพเฉพาะ แล้วสามารถผันตัวไปได้หลายสายในสายการผลิต
- มีอาชีพที่รองรับแน่นอน แม้จะแข่งขันสูง แต่หากมีความมุ่งมั่นรับผิดชอบก็จะเติบโตไปได้ไกล
- ได้เรียนรู้งานอย่างไม่จบสิ้น ทั้งเรื่องการผลิต การดูแล การขาย ยิ่งหากทำงานในบริษัทใหญ่ จะได้โอกาสพัฒนาตัวเอง และสามารถมองเห็นโอกาสในการทำธุรกิจ หรือพัฒนาอาชีพในสายงานปศุสัตว์
- เป็นงานที่ต้องทำกับสิ่งมีชีวิต อาจทำให้มีเวลาทำงานไม่แน่นอน
- พื้นฐานด้านวิทยาศาสตร์และคณิตศาสตร์
- มีความจำดี
- ละเอียดรอบคอบ การใส่ใจต่อสัตว์แต่ละชนิด
- ช่างสังเกต
- ทักษะการจัดการ ทั้งการจัดการคนและเวลา
- ทักษะการสื่อสาร
- ทักษะการทำงานเป็นทีม
- ทักษะความเป็นผู้นำ ยิ่งเป็น
- ทักษะคิดวิเคราะหเชื่อมโยง วิเคราะห์ปัญหาสัตว์ อาการป่วยต่าง ๆ
การศึกษา
- ระดับมัธยมศึกษาและอาชีวศึกษา สายสามัญควรเรียนได้สายวิทย์และต้องจบการศึกษาระดับมัธยมปลาย (ม.6) หรือเทียบเท่า หรือเข้าศึกษาต่อสายวิชาชีพระดับปวช.และปวส.ได้ในวุฒิการศึกษาที่เกี่ยวข้อง อาทิ สาขาวิชาสัตวศาสตร์
- ในระดับปริญญาตรี เลือกศึกษาคณะที่ตรงสายงาน อาทิ คณะเกษตรศาสตร์ คณะเทคโนโลยีการเกษตร วิทยาศาสตร์การเกษตร เทคโนโลยีการเกษตร โดยเลือกเรียนในสาขาสัตวศาสตร์ โดยเมื่อสำเร็จการศึกษาแล้วจะได้รับวุฒิวิทยาศาสตรบัณฑิต
ตัวอย่างสถาบันการศึกษาที่เปิดสอนหลักสูตรสัตวศาสตร์
-
คณะเกษตรศาสตร์ ภาควิชาสัตวบาล มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์
-
คณะสัตวศาสตร์และเทคโนโลยีการเกษตร มหาวิทยาลัยศิลปากร
-
คณะเทคโนโลยีการเกษตร สาขาวิชาสัตวศาสตร์ สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง
-
คณะเกษตรกำแพงแสน สาขาวิชาสัตวศาสตร์ วิทยาเขตกำแพงแสน มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร
-
คณะทรัพยากรธรรมชาติ หาดใหญ่ สาขาสัตวศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์
-
คณะสัตวศาสตร์และเทคโนโลยี สาขาวิชาสัตวศาสตร์ มหาวิทยาลัยแม่โจ้
-
สาขาวิชาสัตวศาสตร์ คณะเกษตรและเทคโนโลยี มหาวิทยาลัยนครพนม
Hard Skills
- เน้นตั้งใจเรียนวิชาในสายวิทย์คณิต เน้นเคมี ชีวะ เน้นวิทยาศาสตร์
Soft Skills
- ฝึกความเป็นผู้นำ รับผิดชอบ ทุ่มเทเอาใจใส่
- รู้จักฝึกหาทางออก แก้ปัญหา
- ฝึกความคิดสร้างสรรค์ในส่วนปลายทางการขายเพื่อให้สามารถขายสินค้าออกสู่ตลาดได้
กิจกรรม
-
ติดตามโครงการ Open house ของสาขาสัตวศาสตร์ตามสถาบันต่าง ๆ
"สัตวบาลไม่ใช่งานง่าย ต้องใช้ทั้งแรงกายแรงใจ เพราะเราคือผู้ผลิตอาหารอันเป็นพื้นฐานของชีวิตของมนุษย์ มันจึงเป็นสิ่งที่เราภาคภูมืใจ ที่เราได้เป็นผู้ผลิตอาหารที่ปลอดภัยวให้กับเพื่อนมนุษย์"
นักสัตวบาลผู้ให้สัมภาษณ์
วิชาที่เรียน
- เริ่มต้นเรียนวิชาพื้นฐานอย่าง ชีววิทยาและฟิสิกส์ก่อน เพื่อให้้ข่าใจเรื่องการเคลื่อนที่ของสัตว์ แล้วเรียนรู้เรื่อง Biochemist
- Meat Sci เพื่อให้เข้าใจเรื่องหลักการจัดการเนื้อสัตว์แต่ละประเภท
- Feed analysis เป็นเรื่องอาหารสัตว์ เข้าห้องแล็บ วิเคราะห์อาหารสัตว์ทั้งแบบปกติ หรือไม่ปกติ หมูปกติกินปริมาณได้เท่านี้จริงไหม หมูที่ป่วยอยู่กินได้ไหม มีสารพิษมากเกินไปแล้วหรือเปล่า
- เรื่องโครโมโซมของสัตว์ ในการปรับปรุงพันธ์
- STATS สถิติออกแบบการทดลอง ต้องมีการออกแบบการทดลอง เพื่อให้ทันโลกตามเทรนด์ เช่น ป้องกันโรคไข้หวัดนก
- นวัตกรรมหรือเทคโนโลยีในการพัฒนาปศุสัตว์
- Anatomy ของสัตว์ ต้องวิเคราะห์โรคเบื้องต้นได้ ผ่าวิเคราะห์ซากสัตว์ได้
- แหล่งผลิตอาหารสัตว์ที่ใหญ่ที่ไหนบ้าง อย่างบราซืล
- เรียนรู้กฎหมายแรงงาน กฎหมายคุ้มครองผู้บริโภค รู้จริยธรรม กฎระเบียบในการทำงานต่าง ๆ
- เข้าใจผู้บริโภค เรียนเศรษฐศาสตร์ เรียนการบริกหาร (มีเศรษฐศาสตร์การเกษตรเกิดขึ้น) สัตวบาลต้องรู้ เพื่อใช้ทรัพยากรให้ประโยชน์สูงสุดและกดต้นทุนลงให้ได้
เคล็ดลับการเรียน
- เน้นการจัดการเวลาในการเรียนให้คุ้มค่าในทุกมิติ การเรียนทุกวิชาจำเป็นทั้งหมดในชีวิตการทำงาน รวมทั้งทักษะเมื่อครั้งทำกิจกรรมในมหาวิทยาลัย
- ความเหนื่อยไม่เคยฆ่าคน เพราะเราจะได้รับประสบการณ์อย่างอื่นกลับมา เช่น ไปช่วยการทดลองของนรุ่นพี่หรืออาจารย์ ที่เลี้ยงสัตว์ เราเองก็จะได้ประสบการณ์ด้วย
- ควรฝึกทำงานจริง พื้นที่จริง ลองประสบการณ์จริง ทั้งผ่าซากสัตว์ เรียนรู้เรื่องต่าง ๆ และจะได้ฝึกการทำงานเป็นทีม
ชีวิตนักศึกษาในรั้วมหาวิทยาลัย
หากิจกรรมการประกวดในระหว่างการเรียน จะช่วยให้เราได้พัฒนาทักษะด้านต่าง ๆ และพบกับผู้คนหลากหลาย จะช่วยให้ได้ connection มากขึ้น อาทิ ร่วมกิจกรรมเกษตรแฟร์ ของสาขาสัตวบาล ผู้ให้สัมภาษณ์เปิดร้านข้าวมันไก่ ไก่เบตง ตั้งเป็น KU เบตง ทำให้เราฝึกอาชีพได้ในตอนนั้นขายในงานเกษตรแฟร์ ได้กำไรเยอะมาก ทุกคนจึงมีประสบการณ์ทั้งผลิต เลี้ยง เชือด แปรรูป นอกจากนั้นยังได้ออกงานตามอีเว้นท์ต่าง ๆ จึงได้ connection เพิ่มขึ้น เพื่อนในรุ่นหลาย ๆ ท่าน มีหลายบริษัทมาจองตัวทำงานก่อนจบการศึกษา
ทุนการศึกษา
ทางมหาวิทยาลัย (ขึ้นอยู่กับแต่ละสถาบัน) จะมีทุนแลกเปลี่ยนให้ไปดูงานฟาร์มเกษตรกรในต่างประเทศ สามารถสมัครเพื่อขอรับทุนได้
- เกษตรกร
- นักวิทยาศาสตร์ปรับปรุงพันธ์ุ
- นักวิทยาศาสตร์การอาหาร
- ตัวแทนจำหน่ายสินค้าการเกษตร
Copyright © 2019 TruePlookpanya. All rights reserved.
สงวนลิขสิทธิ์ตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2537 ห้ามมิให้ผู้ใดคัดลอก ทำซ้ำ ดัดแปลง แก้ไข หรือเผยแพร่ส่วนหนึ่งส่วนใดของบทความนี้ก่อนได้รับอนุญาตเป็นลายลักษณ์อักษร