ลักษณะการทำงาน
วิสัญญีแพทย์จะใช้ศาสตร์หลายอย่างประกอบกันในการทำหน้าที่ โดยหลัก ๆ แล้ว อย่างแรกคือต้องเข้าใจหลักการทำงานของระบบต่าง ๆ ในร่างกายมนุษย์ ส่วนไหนทำหน้าที่อะไร ถ้าเกิดความผิดปกติจะแสดงสัญญาณอะไรที่ต้องสังเกต และนำความรู้นี้ไปผนวกกับองค์ความรู้ในการใช้ยาต่าง ๆ งานส่วนมากนั้นเริ่มตั้งแต่การประเมินผล วินิจฉัย การเตรียมความพร้อมก่อนผ่าตัด การดูแลเฝ้าระวังในระหว่างผ่าตัด ไปจนถึงการติดตามผล อาการของคนไข้หลังการผ่าตัด
โดยวิสัญญีแพทย์นั้นต้องมีไหวพริบและการตัดสินใจที่รวดเร็วฉับไว ในขณะเดียวกันก็ต้องมีความละเอียดรอบคอบ ถี่ถ้วนให้มากที่สุด เพราะงานที่ทำนั้นต้องแข่งกับเวลา และเกี่ยวโยงถึงความเป็นความตายของคนไข้โดยตรง จึงเป็นอาชีพที่ค่อนข้างเครียดและมีความกดดันสูงไม่น้อยไปกว่าศัลยแพทย์เลย
- การระงับความเจ็บปวดแก่คนไข้
- การวางยาเฉพาะทางต่าง ๆ เช่น การวางยาสลบของการผ่าตัดสมอง การผ่าตัดหัวใจ
- การรักษาชีวิตของคนไข้ระหว่างการผ่าตัด
- การดูแลติดตามผลและให้คำแนะนำแก่ผู้ป่วยทั้งก่อนและหลังผ่าตัด
ขั้นตอนการทำงาน
- ทำการประเมินเคสผู้ป่วยที่จะเข้ารับการผ่าตัด เพื่อวางแผนเตรียมการทำงานได้อย่างถูกต้องและปลอดภัย โดยพิจารณาจากผลการตรวจและทำการปรึกษากับแพทย์คนอื่น
- ประเมินความพร้อมของผู้ป่วย และเลือกวิธีการที่จะใช้ในการทำวิสัญญี เช่น ใช้ยาชาเฉพาะจุด ดมยาสลบ บล็อกไขสันหลัง ประเมินเวลาที่ต้องใช้ตามประเภทของการผ่าตัด เพื่อกะปริมาณของยาที่ต้องใช้ และสอดคล้องกับสภาพร่างกายคนไข้
- อาจมีการพูดคุยทำความเข้าใจกับคนไข้ก่อนวางยา ว่าจะหลับยาว หลับสั้น หรือมีการปลุกให้ตื่นขึ้นมาระหว่างการผ่าตัดไหม เพื่อให้คนไข้รับรู้ขั้นตอนการทำงานด้วย
- จัดเตรียมอุปกรณ์ สำหรับการผ่าตัดในส่วนที่ต้องรับผิดชอบ เช่น อาจต้องใช้ จอภาพ (Monitor) พื้นฐาน ใส่ท่อสายยางต่าง ๆ ที่ต้องใช้สำหรับผู้ป่วยแต่ละกรณี ซึ่งความต้องการจะแตกต่างกันไป
- ก่อนทำการวางยาสลบเพื่อผ่าตัด จำเป็นต้องให้คนไข้งดน้ำ อาหาร ขั้นต่ำอย่างน้อย 6 ชั่วโมงให้ท้องว่าง เวลาให้ยาสลบเข้าสู่ร่างกายและผ่านกระเพาะอาหารจะได้ไม่มีอาการสำลักจากเศษอาหารที่หลงเหลืออยู่ และต้องไปเยี่ยมคนไข้ในคืนก่อนผ่าตัดเพื่อเช็คสภาพร่างกาย สภาพจิตใจ ดูว่าลืมกินยาอะไรไหม ฯลฯ
- ระหว่างการผ่าตัด วิสัญญีแพทย์ต้องคอยเฝ้าสังเกตดูสัญญาณชีพ เช่น ความดันโลหิตและเครื่องช่วยหายใจ ว่าเกิดสิ่งผิดปกติหรือไม่ และเป็นผู้ที่รับมือแก้ไขสถานการณ์ เพราะศัลยแพทย์จะใช้สมาธิกับการลงมือผ่าตัดอยู่
- หลังผ่าตัด ต้องคอยติดตามอาการของคนไข้ในช่วงพักฟื้นต่อว่ามีอาการผิดปกติหรือผลข้างเคียงจากยา จากการผ่าตัดใด ๆ หรือไม่ และให้คำแนะนำคนไข้ในการปฏิบัติตัวต่าง ๆ
สถานที่ทำงาน
- โรงพยาบาล คลินิก สถานพยาบาล สถานีอนามัย ภายในห้องผ่าตัด ห้องพักผู้ป่วย
- หน่วยงานฝ่ายการแพทย์ของกระทรวง ทบวง กรมต่าง ๆ
ผู้ที่ต้องทำงานด้วย
- ศัลยแพทย์ ทันตแพทย์ หรือแพทย์เจ้าของไข้ที่วิสัญญีแพทย์ต้องให้ยาคนไข้ ก่อนแพทย์ท่านนั้นจะทำหัตถกรรมใด ๆ
- นักเทคนิครังสี
- พยาบาล พนักงานผู้ช่วยแผนกอื่นในโรงพยาบาล ฯลฯ
- คนไข้
ตำแหน่งและเส้นทางการเติบโตในสายอาชีพ
- สายวิชาการ ผู้ช่วยศาสตราจารย์ รองศาสตราจารย์ ศาสตราจารย์
- สายรัฐบาล มีการเลื่อนขั้นตามระบบราชการ
- สายเอกชน หากมีความสามารถอาจได้เป็นหัวหน้าแผนก หรือขึ้นเป็นตำแหน่งผู้บริหาร
รายได้
วิสัญญีแพทย์เป็นแพทย์เฉพาะทาง จะมีค่าตอบแทนที่แตกต่างกันตามความสามารถเฉพาะทางของตน โดยประมาณรายได้อยู่ที่ 60,000 บาท/เดือน ขึ้นไป
หากทำงานในโรงพยาบาลเอกชน จะมีรายได้ประมาณ 150,000 - 300,000 บาท/เดือน บวกค่าทำหัตถการของวิสัญญีแพทย์ ไม่เกิน 10% ของค่ารักษา
นอกจากนั้นยังสามารถรับเคสเพื่อหารายได้เสริมตามความขยันได้อีก จึงทำให้เป็นอาชีพที่มีรายได้ค่อนข้างสูงพอสมควร
การแข่งขันและความต้องการของตลาด
ปัจจุบันสำหรับอาชีพวิสัญญีแพทย์นี้ยังไม่ถือว่าขาดแคลนมากนักในเมือง แต่ในต่างจังหวัดและโรงพยาบาลบางที่อาจยังขาดอยู่ ซึ่งเป็นเรื่องปกติของแพทย์ โรงพยาบาลรัฐฯ บางที่อาจยังเป็นวิสัญญีพยาบาลเป็นผู้ช่วยวางยาสลบไม่ใช่วิสัญญีแพทย์ แม้จะสามารถทำได้ แต่ก็จะไม่ครอบคลุมเท่าวิสัญญีแพทย์ ดังนั้นจึงยังมีความต้องการอาชีพนี้อยู่เช่นกัน
- หากไม่ได้อยู่รพ.รัฐฯ จะมีความยืดหยุ่นสูง ไม่จำเป็นต้องอยู่เวรตลอด
- เป็นสาขาที่รายได้ค่อนข้างสูง และเป็นที่ต้องการ และสามารถรับเคสงานที่อื่นเพิ่มได้
- เป็นงานที่ได้รับคุณค่าทางจิตใจจากการช่วยเหลือเยียวยาผู้อื่น
- มีความกดดันสูง ต้องทำงานในสภาวะตึงเครียด พลาดนิดเดียวอาจหมายถึงชีวิตของคนไข้ได้
- มีเวลานอนและพักผ่อนน้อยตั้งแต่สมัยเป็นนักศึกษาแพทย์
- เวลาที่ทำงานอยู่จะไม่สามารถปลีกตัวไปไหนได้เลยเพราะเกี่ยวพันถึงชีวิต
- มีความสนใจหรือความชอบในอาชีพ มีคุณธรรม จริยธรรม และจรรยาบรรณ
- เป็นคนละเอียดรอบคอบ ใส่ใจรายละเอียดจุดเล็ก ๆ มีความรับผิดชอบ
- คิดไวทำไว มีทักษะการใช้มือ ทำหัตถการคล่องแคล่ว
- รับแรงกดดันในการทำงานได้ เพราะหน้าที่ในห้องผ่าตัดนั้นหากผิดพลาดแม้นิดเดียวก็หมายถึงชีวิตของคนไข้
- ทักษะวิชาชีพของวิสัญญีแพทย์ การให้ยาระงับความรู้สึก การกู้ชีพ การดูแลผู้ป่วย กระบวนการคุณภาพและความปลอดภัย
- ทักษะการรับมือแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้า มีไหวพริบ การควบคุมสติ
- มีความละเอียดรอบคอบสูง เพราะเกี่ยวข้องกับชีวิตคนในสถานการณ์คับขัน
- ทักษะทางวิทยาศาสตร์และทักษะภาษาอังกฤษ
- ทักษะด้านการสื่อสาร จิตวิทยาในการปฏิสัมพันธ์กับผู้คน
การศึกษา
เลือกเรียนสายวิทย์-คณิต ในระดับมัธยมศึกษา และเข้าเรียนคณะแพทย์เป็นเวลา 6 ปี ตามหลักสูตรแพทยศาสตร์บัณฑิต จากนั้นสอบใบประกอบวิชาชีพเวชกรรม หากใครต้องใช้ทุน จากนี้จะเป็นช่วงที่ทำงานชดใช้ทุนก่อนประมาณ 1-3 ปี (อาจไม่ถึง 3 ปีหากได้ทุนไปเรียนเฉพาะทางก่อน) หลังจากนั้นจึงเลือกศึกษาต่อแพทย์เฉพาะทางด้านวิสัญญีแพทย์อีก 3 ปี เมื่อเรียนจบจะได้รับวุฒิบัตรแสดงความรู้ความชำนาญในการประกอบวิชาชีพเวชกรรม สาขาวิสัญญีวิทยา (ว.ว. สาขาวิสัญญีวิทยา) จากนั้นจึงทำการสอบวุฒิบัตรวิสัญญีวิทยาซึ่งอนุมัติโดยแพทย์สภาสำหรับราชวิทยาลัยวิสัญญีแพทย์แห่งประเทศไทยและหากต้องการเป็นวิสัญญีแพทย์เฉพาะทางต้องศึกษาต่ออีก 2 ปี
สถาบันที่เปิดสอน
- คณะแพทยศาสตร์ สาขาวิสัญญีวิทยา จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
- คณะแพทยศาสตร์ สาขาวิสัญญีวิทยา มหาวิทยาลัยเชียงใหม่
- คณะแพทยศาสตร์ สาขาวิสัญญีวิทยา มหาวิทยาลัยขอนแก่น
- คณะแพทยศาสตร์ ภาควิชาวิสัญญีวิทยา มหาวิทยาลัยนเรศวร
- คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดลภาควิชาวิสัญญีวิทยา
- คณะแพทยศาสตร์และบัณฑิตวิทยาลัย ภาควิชาวิสัญญี มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์
Hard Skills
-
ทักษะและความรู้ทางวิสัญญีวิทยา
-
ทักษะทางด้านภาษาอังกฤษ
- ทักษะการทำหัตถการ ฝึกฝนการใช้มือให้คล่องแคล่ว
Soft skills
- ฝึกการตัดสินใจ การแก้ปัญหาเฉพาะหน้าอย่างรวดเร็ว คิดและลงมือทำให้ไว
- เพิ่มความละเอียดรอบคอบ ฝึกการสังเกตสัญญาณผิดปกติต่าง ๆ
- ฝึกทักษะการสื่อสารให้มีประสิทธิภาพในเวลาจำกัด การให้ข้อมูลแก่ผู้ป่วยและญาติ
กิจกรรมต่าง ๆ
- ห้องสมุดที่รวบรวมหนังสือวิชาการและงานวิจัย
- แหล่งความรู้ออนไลน์ต่าง ๆ
คำบอกเล่าจากคนในสายอาชีพ
"ความภูมิใจของเราก็คือรอยยิ้มของคนไข้ บางคนผ่าตัดตื่นมา สิ่งแรกคือยิ้มเลย ขอบคุณครับผมไม่รู้สึกอะไรเลย สบายจังไม่เหมือนมาผ่าตัดเลย เพราะการผ่าตัดทุกคนกลัวเจ็บ
แต่ถ้าวิสัญญีแพทย์เก่งมากจะไม่เจ็บเลย ตื่นขึ้นมาสบายเลย รอยยิ้มและคำขอบคุณนี่แหละคือสิ่งสำคัญ"
นพ.มาร์วิน เทพโสพรรณ อาจารย์ประจำภาควิสัญญีวิทยา คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
วิชาที่เรียน
- Correlated basic medical science พื้นฐานการแพทย์ทั่วไป
- Sciences in Anesthesiology ความรู้พื้นฐานสำหรับการระงับความรู้สึก คือ สรีรวิทยา, เภสัชวิทยา, ชีวเคมี, ฟิสิกส์, เครื่องมือต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับวิสัญญีวิทยา
- Clinical Anesthesiology การให้ยาระงับความรู้สึกสำหรับผู้ป่วยที่มารับการผ่าตัด และการดูแลผู้ป่วยนอกห้องผ่าตัด
- Pain Therapy การดูแลผู้ป่วยโรคปวดเฉียบพลันและเรื้อรัง
- English for medical graduates ความรู้ภาษาอังกฤษทางการแพทย์
- Laws and Ethics in Anesthesia Basic correlated medical sciences ความรู้ด้านกฎหมายและจริยธรรมทางการแพทย์
เคล็ดลับการเรียน
การเรียนสายแพทย์นั้น ความขยันเป็นเรื่องที่สำคัญมาก ต้องมีความตั้งใจและทุ่มเทให้กับสิ่งที่เรียน ตั้งใจอ่านหนังสือ จดจำเนื้อหา เก็บเกี่ยวสิ่งที่ได้ในการฝึกปฏิบัติ การแบ่งเวลาให้เป็นก็สำคัญมาก นอกจากความเครียด ความกดดันในการเรียนแล้ว เวลาทำงานก็ต้องพบแรงกดดันและเรื่องราวหลากหลายที่ปะทะเข้ามา ก็ต้องรู้จักแยกแยะ มีความเห็นใจและเข้าใจ แต่ไม่เก็บมาจมกับตัวเอง ซึ่งเป็นสิ่งที่ทำให้คนเรียนแพทย์หลายคนเกิดความเครียดได้ง่าย
ชีวิตในรั้วมหาวิทยาลัย
- พยาบาลด้านวิสัญญีแพทย์
- ศัลยแพทย์
ขอขอบพระคุณนายแพทย์มาร์วิน เทพโสพรรณ โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ ผู้ให้สัมภาษณ์และเอื้อเฟื้อข้อมูล
Copyright © 2019 TruePlookpanya. All rights reserved.
สงวนลิขสิทธิ์ตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2537 ห้ามมิให้ผู้ใดคัดลอก ทำซ้ำ ดัดแปลง แก้ไข หรือเผยแพร่ส่วนหนึ่งส่วนใดของบทความนี้ก่อนได้รับอนุญาตเป็นลายลักษณ์อักษร