Photographer ช่างภาพ หรือที่เรียกแบบคุ้นปากว่า ตากล้อง เป็นอาชีพที่สำคัญต่องานต่าง ๆ เพราะการถ่ายภาพคือการบันทึกเหตุการณ์ ณ เวลาใดเวลาหนึ่ง เพื่อถ่ายทอดทั้งความงาม เหตุการณ์ เรื่องราว ความรู้สึก บุคคล สามารถเรียกได้ว่า ช่างภาพไม่ใช่เพียงแค่คนที่กดชัตเตอร์เท่านั้น แต่เป็นนักสร้างสรรค์ภาพ เพื่อถ่ายทอดประสบการณ์ผ่านมุมมองของช่างภาพ
ลักษณะงาน
ช่างภาพจะมีอาวุธคู่กายคือกล้องและเลนส์ และอาจจะมีอุปกรณ์เสริมอื่น ๆ เช่น แฟลช ขาตั้งกล้อง ฟิลเตอร์ รีเฟลก เพื่อเดินทางไปถ่ายภาพตามสถานที่ต่าง ๆ ที่ได้รับมอบหมาย อย่างนึงที่ช่างภาพต้องดูก่อนเริ่มงานคือลักษณะของพื้นที่ทำงาน เช่น กลางแจ้ง ในร่ม แสงสว่างเป็นแบบไหน รูปแบบงานที่จะถ่าย เพื่อปรับรูปแบบการถ่าย และแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าที่เกิดขึ้นให้เอื้อต่อการถ่ายภาพให้ได้ออกมาดีที่สุด
โดยส่วนใหญ่งานมักจะจัดขึ้นในช่วงกลางวัน แต่ก็มีงานประเภทคอนเสิร์ต ปาร์ตี้ ที่อาจจะจัดช่วงกลางคืน จากนั้นก็นำภาพที่ได้มาผ่านขั้นตอนการตกแต่งภาพ และส่งงานให้ลูกค้า
ขั้นตอนการทำงาน
- ตอบรับ นัดหมายเพื่อรับรายละเอียดว่างานถ่ายภาพงานประเภทใด รูปแบบใด สถานที่ ช่วงเวลาที่ต้องทำงาน เป้าหมายที่ต้องการจากงานนี้คืออะไร
- วางแผนงาน จัดเตรียมและตรวจสอบความพร้อมของอุปกรณ์ที่ต้องใช้งาน
- ไปถึงงานก่อนเวลา ดูหน้างานและคิดวางแผนแก้ปัญหาเฉพาะหน้าที่เกิดขึ้น เพื่อการทำงานที่ราบรื่นจนจบงาน
- นำภาพกลับมาคัดเลือก แต่ง รีทัช แก้แสง ปรับสี และอื่น ๆ เพื่อให้ได้ภาพที่สมบูรณ์
- ตรวจสอบความเรียบร้อย พร้อมส่งมอบงาน
- ติดตามผล นำคำแนะนำมาวิเคราะห์เพื่อพัฒนาตนเองต่อไป
สถานที่ทำงาน
- สถานที่จัดงานต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นงานพิธีการ งานแต่งงานในโรงแรม งานอีเว้นท์ต่าง ๆ หรือแม้แต่ในสตูดิโอ
- สถานที่ทำงานที่สะดวก ในช่วงของการแต่งภาพ ที่ช่างภาพจะต้องนำภาพที่ถ่ายมาปรับสี แสง รีทัชเพื่อให้ได้ภาพที่สมบูรณ์พร้อมส่ง เป็นขั้นตอนของการทำงานหน้าคอมพิวเตอร์ ระยะเวลาขึ้นอยู่กับปริมาณภาพ
ผู้ที่ต้องทำงานด้วย
- ผู้จัดงาน ผู้ที่จะประสานงาน กำหนดเป้าหมาย เตรียมการต่าง ๆ
- ผู้ช่วยช่างภาพ ในบางงานจำเป็นต้องมีผู้ช่วยไม่ว่าจะจัดเตรียมพื้นที่ ถืออุปกรณ์
- นางแบบหรือนายแบบ งานที่ต้องใช้คนเป็นตัวแบบ ช่างกล้องต้องสื่อสารกับผู้ว่าจ้างมาก่อนให้ดี ว่าต้องการผลลัพธ์ของงานแบบไหน เพื่อจะได้สื่อสารกับตัวแบบให้จัดสีหน้าท่าทางได้ถูกต้อง
การเริ่มต้นถ่ายภาพจะเริ่มจากถ่ายสิ่งที่ตนเองสนใจ เพราะการถ่ายแต่ละประเภท ใช้มุมมอง องค์ประกอบที่แตกต่างกัน เมื่อสะสมประสบการณ์มากพอ ก็จะตามมาซึ่งค่าตอบแทนที่มากขึ้น จะเห็นได้จากช่างภาพมืออาชีพเฉพาะทางด้านต่าง ๆ ที่มีชื่อเสียง ก็จะถนัดและได้รับความไว้วางใจในแนวทางเฉพาะคนของคนนั้น
บางคนก็เลือกที่จะศึกษาการถ่ายหลากหลายประเภทเพื่อการรับงานได้หลายรูปแบบ สะสมประสบการณ์และเงินทุนเพื่อเปิดสตูดิโอ ก็เป็นอีกทางเลือกที่น่าสนใจ ความก้าวหน้าในแง่รายได้นอกเหนือจากการรับงานที่มากขึ้น สิ่งที่เป็นที่นิยมในวงการถ่ายภาพคือการขายภาพ Stockphoto หรือการขายภาพออนไลน์ เพราะเป็นวิธีที่สามารถนำเสนอฝีมือ มุมมอง ไอเดียของแต่ละคนได้ทั่วโลก สร้างรายได้อย่างไม่จำกัด แต่ก็เป็นตลาดที่มีการแข่งขันสูงเช่นเดียวกัน
ช่างภาพบางคนมองเป้าหมายของความก้าวหน้าไปที่การได้ร่วมงานกับนิตยสาร หรือสื่อต่าง ๆ ระดับโลก การประกวดงานต่าง ๆ ซึ่งก็เป็นอีกหนทางที่เป็นแรงผลักดันในการพัฒนาตัวเองได้เป็นอย่างดี
- มีความหลากหลายในสายงาน สามารถรับงานที่มีความต่างกัน ไม่น่าเบื่อ
- ได้ทำงานพบเจอคนมากมายหลายประเภท หลายสังคม
- มีความอิสระ ยืดหยุ่นที่จะเลือกวางตารางงานให้ตรงตามที่ต้องการ
- สามารถสร้างรายได้จากการถ่ายภาพได้หลายช่องทาง
- ได้ใช้ความคิดสร้างสรรค์อย่างเต็มที่
- ได้เดินทางไปที่ต่าง ๆ เปิดมุมมองใหม่ ๆ เสมอ
- มีงานประกวดเกี่ยวกับภาพถ่ายมากมายทั้งในและต่างประเทศ
- อุปกรณ์กล้องมีราคาสูง
- มีการแข่งขันในตลาดสูง แม้แต่คนที่ไม่ได้จบด้านนี้โดยเฉพาะ แต่ชอบที่จะถ่ายภาพเป็นงานอดิเรกก็สามารถทำงานนี้ได้ดีเช่นกัน
- ช่างส่วนมากมักจะรับงานถ่ายภาพกลางวัน และแต่งภาพกลางคืน ซึ่งอาจะมีผลต่อการพักผ่อน และสุขภาพในระยะยาว
- มีความคิดสร้างสรรค์ ช่างภาพจำเป็นต้องมีความคิดสร้างสรรค์ในการถ่ายทอดมุมมองต่าง ๆ ให้น่าสนใจ เพราะในสถานที่เดียวกัน เหตุการณ์เดียวกัน สิ่งของหรือคนเดียวกัน ช่างภาพแต่ละคนก็สื่อสารออกมาไม่เหมือนกัน แล้วแต่ความคิดสร้างสรรค์เฉพาะตัวของแต่ละคน
- พร้อมเรียนรู้ รู้ในจุดเด่น จุดด้อยของตัวเอง และฝึกฝีมือตลอด แม้แต่ช่างภาพมืออาชีพที่ทำงานมาหลายสิบปี ก็ยังคงเรียนรู้พัฒนาเทคนิคการถ่ายภาพอยู่เสมอ
- มีมนุษยสัมพันธ์ที่ดี ช่างภาพนั้นทำงานกับผู้คนเสมอ และผู้คนก็พร้อมจะให้ความร่วมมืออย่างดี ถ้าได้ร่วมงานกับช่างภาพที่มีมนุษยสัมพันธ์ที่ดี
- มีวินัย อดทน ตรงต่อเวลา ช่างภาพที่รู้จักหน้าที่ควรถึงที่ทำงานก่อนเวลา ส่งงานตามเวลา
- ใส่ใจในทุกรายละเอียด ใส่ใจในทุกองค์ประกอบ เข้าใจในจุดประสงค์ของแต่ละงาน พฤติกรรมของคน ลักษณะของสถานที่ เพื่อให้ได้งานที่ดี
- มีความรับผิดชอบ ทำงานได้ตรงเป้าหมาย ตามเวลา ไม่เกี่ยงงานหนัก
- กล้าที่จะลอง เทคโนโลยีการถ่ายภาพและการแต่งภาพมีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง จำเป็นที่ต้องเติมความรู้ใหม่ ๆ เสมอเพื่อเสริมการทำงานให้ทันสมัยตลอด
- ทักษะการคิดวิเคราะห์ แก้ไขปัญหา ในการถ่ายภาพมักจะเจอสถานการณ์ต่าง ๆ ที่ควบคุมไม่ได้ ไม่ว่าจะแสงแดด ฟ้าฝน ผู้คน บรรยากาศ หรืออื่น ๆ ซึ่งช่างภาพจะใช้ประสบการณ์ในการรับมือเพื่อให้การถ่ายภาพเป็นไปอย่างราบรื่นตามเป้าหมาย
- ความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับองค์ประกอบทางศิลปะ ภาพถ่ายเปรียบได้กับภาพวาดของศิลปิน ที่ต้องมีการจัดวางที่ดี รู้หลักต่าง ๆ ในการสร้างสรรค์ผลงานให้สวยงาม
- ทักษะการประยุกต์ใช้ อุปกรณ์ต่าง ๆ ที่ช่วยเสริมในการถ่ายภาพมีมากมาย ขึ้นอยู่กับการทดลองจนเข้าใจและประยุกต์ใช้งานให้เหมาะกับแต่ละสถานการณ์
- ทักษะการใช้โปรแกรมแต่งภาพ ภาพจะสมบูรณ์ขึ้นเมื่อผ่านโปรแกรมแต่งภาพ จึงจำเป็นจะต้องใช้ให้คล่องแคล่ว เข้าใจความสามารถของโปรแกรมต่าง ๆ
- มีความเข้าใจเรื่องสภาพแวดล้อมที่มีผลต่อการถ่ายภาพ สิ่งต่าง ๆ ทั้งแสง เงา ช่วงเวลา สิ่งปลูกสร้าง และอื่น ๆ ล้วนมีผลต่อภาพที่จะออกมาทั้งสิ้น การที่มีความความเข้าใจลักษณะสภาพแวดล้อมต่างๆ จะทำให้สามารถกำหนด และรับมือกับสถานการณ์ต่าง ๆ ได้เป็นอย่างดี
เริ่มต้นจากมีความเข้าใจในความงามตามหลักองค์ประกอบศิลป์ การจัดวาง การนำเสนอในรูปแบบต่าง ๆ ขั้นตอนนี้สามารถเรียนรู้กับกล้องมือถือได้เลย เมื่อได้จับกล้องที่ขนาดใหญ่ขึ้นมาก็ศึกษาวิธีใช้งาน หลักการทั้งหมด อุปกรณ์เสริม และโปรแกรมตกแต่งภาพ ทั้งหมดจะเข้าใจได้จากการฝึกฝนหลาย ๆ ครั้งจนเกิดความชำนาญ
ควรเริ่มถ่ายจากสิ่งที่ตัวเองสนใจ ไม่ว่าจะเป็นบุคคล ธรรมชาติ ภาพกีฬา สิ่งก่อสร้าง และเรียนรู้ว่าสิ่งต่าง ๆ ต้องใช้หลักการถ่ายต่างกันอย่างไร มาถึงตรงนี้บางคนเลือกที่จะเรียนรู้อย่างหลากหลายไปเรื่อย ๆ บางคนเลือกที่จะฝึกฝนเฉพาะทางให้เชี่ยวชาญ แต่สุดท้ายแล้วช่างภาพแต่ละคนจะค้นพบลักษณะเฉพาะของตนเองที่โดดเด่นไม่เหมือนใคร
การหมั่นศึกษาผลงานจากมืออาชีพ เรียนรู้ทำความเข้าใจว่าช่างภาพคนนั้นมีมุมมองอย่างไร ใช้เทคนิคอะไร เพื่อนำมาลองใช้กับตัวเอง อีกทั้งการเข้าร่วมงานประกวดภาพถ่าย ความรู้สึกของการแข่งขันก็เป็นส่วนช่วยในการผลักดันให้เกิดการพัฒนาตนเองได้มาก สิ่งที่ช่างภาพทุกคนบอกเหมือนกันคือการหมั่นฝึกฝน ไม่หยุดพัฒนาฝีมือ ทัศนคติ สร้างผลงานอยู่เสมอ
Hard Skills
- รู้จักอุปกรณ์การถ่ายภาพต่าง ๆ เข้าใจการใช้งานที่ถูกต้อง
- ฝึกถ่ายภาพในบรรยากาศ ข้อจำกัดต่าง ๆ
- ทำเข้าใจการถ่ายภาพลักษณะต่าง ๆ เช่น ภาพบุคคล ภาพกีฬา ธรรมชาติ
- เรียนรู้การใช้โปรแกรมแต่งภาพ เข้าใจหลักการการแต่งภาพ
- เข้าใจองค์ประกอบทางศิลปะ
Soft Skills
- พัฒนามุมมอง เทคนิคการถ่ายภาพเสมอ
- สังเกต ทำความเข้าใจพฤติกรรมต่างๆ ของคน
- ฝึกการทำงานให้มีมนุษยสัมพันธ์ที่ดี เพื่อให้สามารถทำงานเป็นทีมได้ดี
กิจกรรมต่างๆ
- อ่านหนังสือด้านต่าง ๆ เพิ่มเติมความรู้ ทั้งด้านเทคนิคการถ่ายภาพ และมุมมองทางศิลปะ
- เข้าร่วมกิจกรรมเกี่ยวกับการถ่ายภาพ หรืองานประกวด
- และเปลี่ยนความรู้กับกลุ่มช่างภาพ ผลัดกันใช้งาน ทำความเข้าใจอุปกรณ์อื่น ๆ
- เข้าร่วมการอบรมจากมืออาชีพ หรือร่วมเป็นวิทยากรถ่ายทอดความรู้
- จัดทริปถ่ายภาพ และเปลี่ยนความรู้กับเพื่อนร่วมสายอาชีพ
- เดินทางท่องเที่ยวเปิดโลกเปิดมุมมองใหม่ ๆ
ความรักในอาชีพเป็นสิ่งสำคัญ สร้างแรงบันดาลใจให้ตัวเองที่จะก้าวไปข้างหน้าอยู่เสมอ ถ้าหมดไฟก็เติมไฟ อย่าปล่อยให้ตัวเองมอด
ธเนศพงศ์ อุดชาชน
Administrator Olympus Club Thailand
อาชีพช่างภาพคือการขายรสนิยมให้ออกมาเป็นภาพตามที่ลูกค้าต้องการ สิ่งที่ต้องการในตัวช่างภาพนอกจากจะตีโจทย์ให้ออกมาตรงตามความต้องการของลูกค้ากับสารที่ต้องการให้เข้าถึงกลุ่มผู้บริโภค คือทัศนะคติของช่างภาพเอง การเจรจา การต่อรอง การอ่อนน้อม การเข้าใจในความต้องการของลูกค้าด้วยเหตุและผลสำคัญที่สุด
ธนัติพงษ์ ถังไชย
Owner,Photographer Three Musketeers Production
วิชาเรียน
การเรียนจะไม่ได้เรียนเกี่ยวกับการถ่ายภาพเพียงอย่างเดียว จะต้องเรียนร่วมกับกราฟิกดีไซน์ การถ่ายทำต่าง ๆ การตัดต่อ โปรแกรมที่ใช้ทางด้านกราฟิก การออกแบบ ความรู้ทางการถ่ายภาพ ความรู้ศิลปะ การเสริมสร้างความคิดสร้างสรรค์ เพื่อให้มีทักษะและความชํานาญในการถ่ายภาพ
เคล็ดลับการเรียน
ต้องค้นหาตัวเองให้เจอ และพยายามขวนขวายหาวิธีว่าควรทำอย่างไร ถ้าไม่มีฝีมือและไม่เตรียมตัวก็ไม่สามรถแข่งกับคนอื่น ๆ ได้ เพราะงานสายนี้การเตรียมตัวเป็นสิ่งสำคัญคนพร้อมกว่าจึงมีโอกาสมากกว่า รู้จักเรียนรู้ให้เร็วจึงจะประสบความสำเร็จได้
ชีวิตในรั้วมหาวิทยาลัย
- ปี 1 เรียนวิชาศึกษาทั่วไป เช่น ภาษาไทย ภาษาอังกฤษ และวิชาที่เกี่ยวข้องกับการถ่ายภาพ เช่น พื้นฐานการถ่ายภาพ Drawing ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญ เทอมที่ 2 จะได้เรียนการปฏิบัติมากขึ้น เช่น การถ่ายภาพขาว-ดำ การล้างฟิล์ม
- ปี 2 เริ่มมีเรียนในห้องสตูดิโอ มีการถ่ายทำ จัดไฟ จัดแสง Setฉากต่าง ๆ เรียนรู้การถ่ายภาพดิจิทัล การถ่ายภาพบุคคล เป็นต้น
- ปี 3 จะเริ่มเรียนลึกกว่าปีสอง เป็นการเรียนตั้งแต่ไต่ระดับจนถึงลึกที่สุด จะได้ลงมือสร้างสรรค์เทคนิคพิเศษในศิลปะการถ่ายภาพ
- ปี 4 เตรียมตัวทำธีสิส ซึ่งอาจมีการทำสัมมนาเกี่ยวกับศิลปะการถ่ายภาพ การถ่ายภาพในงานข่าว การตลาดและการจัดการงานศิลปะภาพถ่าย ในเทอมที่ 2 มีการทำโปรเจ็กต์จบ ซึ่งได้เรียนมาทุกขั้นตอนที่จะสามารถการผลิตงานได้ในปี 1 2 3 แล้วนั่นเอง
Copyright © 2019 TruePlookpanya. All rights reserved.
สงวนลิขสิทธิ์ตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2537 ห้ามมิให้ผู้ใดคัดลอก ทำซ้ำ ดัดแปลง แก้ไข หรือเผยแพร่ส่วนหนึ่งส่วนใดของบทความนี้ก่อนได้รับอนุญาตเป็นลายลักษณ์อักษร