ซึ่งจากคาแรคเตอร์พิเศษของเจนเนอเรชันอัลฟ่าทั้งหมดนี้ คราวนี้เราจะมาดูถึงแนวทางในการส่งเสริมการเรียนรู้สำหรับผู้เรียนในเจนเนอเรชันนี้กัน โดยครูผู้สอนนั้นจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องพัฒนาแนวทางในการจัดการเรียนการสอนให้สอดคล้องกับการเรียนรู้ของเด็กและเยาวชนในเจนเนอเรชันนี้ ซึ่งต้องมีทั้งการส่งเสริมพัฒนาให้ดีขึ้น และรวมถึงแก้ไขและปรับพฤติกรรมที่เป็นปัญหาให้ลดน้อยลงด้วย ซึ่งสามารถดำเนินการได้ดังนี้
เนื่องจากเด็กและเยาวชนเจนเนอเรชันอัลฟ่านั้น อยู่กับตัวเองในโลกเทคโนโลยีเป็นส่วนใหญ่ ทำให้พวกเขานั้นมีปัญหาในด้านการสื่อสารและการปฏิสัมพันธ์กับบุคคลอื่น ดังนั้นครูผู้สอนจึงจำเป็นต้องส่งเสริมและจัดกิจกรรมการเรียนการสอน โดยเน้นให้ผู้เรียนได้มีการสื่อสารและปฏิสัมพันธ์ ทั้งกับครูผู้สอน และการปฏิสัมพันธ์ระหว่างกัน ซึ่งครูผู้สอนอาจเริ่มต้น จากการพูดคุยสื่อสารกับผู้เรียนถึงเรื่องน่าสนใจต่าง ๆ โดยเน้นให้ผู้เรียนถามตอบแสดงความคิดเห็น ก่อนที่จะชวนผู้เรียนทำกิจกรรมกลุ่มร่วมกัน เพื่อเน้นให้ผู้เรียนได้ปฏิสัมพันธ์กันมากขึ้น
การเติบโตท่ามกลางเทคโนโลยี ทำให้เด็กและเยาวชนในยุคเจนเนอเรชันอัลฟ่า มองและตัดสินเรื่องต่าง ๆ ด้วยตรรกกะเหตุผลเสมือนเป็นหุ่นยนต์ ซึ่งแม้ว่าจะเป็นเรื่องที่ดี แต่ในบางมุมมองเราก็จำเป็นที่ต้องมีคุณธรรมและจริยธรรมในการพิจารณาด้วย ดังนั้นครูผู้สอนควรปลูกฝังให้ผู้เรียนเข้าใจในหลักคุณธรรมและจริยธรรม โดยให้ผู้เรียน คิด วิเคราะห์ แยกแยะ จากเหตุการณ์ต่าง ๆ เพื่อให้พวกเขาซึบซับและใช้เป็นส่วนหนึ่งในการดำเนินชีวิตอย่างถูกต้องและมีวิจารณญาณ
ด้วยความที่เจนเนอเรชันอัลฟ่านั้น เติบโตมาท่ามกลางการเปลี่ยนแปลงของธรรมชาติที่แปรปรวนรุนแรง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของภัยธรรมชาติ โรคระบาด หรือปัญหาการเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศที่ส่งผลกระทบต่อมนุษย์ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นผลมาจากการรุกรานธรรมชาติของมนุษย์ ดังนั้น เพื่อให้สามารถใช้ชีวิตท่ามกลางการเปลี่ยนแปลงของธรรมชาติที่รุนแรงนี้ได้ เด็กและเยาวชนในเจนเนเรชันนี้ต้องรู้จักอนุรักษ์และปรับตัวเพื่อให้สามารถอยู่ร่วมกับธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมในปัจจุบันได้อย่างเหมาะสม ซึ่งครูผู้สอนอาจส่งเสริมให้ผู้เรียนเพาะปลูกพืช ใช้สิ่งของต่าง ๆ อย่างรู้คุณค่า ลดละเลิกการใช้ผลิตภัณฑ์ที่สร้างขยะจำนวนมากและยากต่อกำจัด จัดค่ายและเปิดโอกาสให้ผู้เรียนเป็นส่วนหนึ่งในงานอนุรักษ์ต่าง ๆ นอกจากนี้ควรพูดคุยกับผู้เรียนในประเด็นที่เกี่ยวข้องกับธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมต่าง ๆ อย่างสม่ำเสมอ
การรู้เท่าทันสื่อเป็นทักษะที่สำคัญมาก สำหรับเด็กและเยาวชนในยุคเจนเนอเรชันอัลฟ่า เพราะเนื่องจากว่า ยุคเจนเนอเรชันนี้มีความสัมพันธ์กับการใช้สื่อเทคโนโลยีค่อนข้างมาก พวกเขาจึงจำเป็นต้องมีทักษะในการรู้เท่าทันสื่อ เพื่อให้สามารถคิด วิเคราะห์ แยกแยะประโยชน์จากสื่อที่ได้รับชมและไม่ตกเป็นเหยื่อของสื่อที่หาประโยชน์ต่าง ๆ ซึ่งในการจัดกิจกรรมการเรียนรู้เพื่อให้ผู้เรียนรู้เท่าทันสื่อนั้น ครูผู้สอนสามารถใช้สื่อที่ฉายตามโทรศัพท์หรือสื่อออนไลน์ต่าง ๆ มาเป็นตัวอย่างให้เด็ก ๆ แยกแยะข้อดีข้อเสีย จุดมุ่งหมาย และเข้าใจความเป็นตัวสื่อนั้นอย่างเหมาะสมได้ ซึ่งจะช่วยให้ผู้เรียนสามารถแยกแยกแยะสื่อต่าง ๆ ได้อย่างเหมาะสมมากยิ่งขึ้น
ถ้าจะสอนเด็กและเยาวชนยุคเจนเนอเรชันอัลฟ่าให้มีการเรียนรู้ที่มีประสิทธิภาพ จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีในการส่งเสริมและพัฒนาการศึกษา เพราะในยุคสมัยของยุคเจนเนอเรชันอัลฟ่านี้ เทคโนโลยีการสื่อสารนั้นนับว่าเป็นส่วนหนึ่งของวิถีชีวิต ครูผู้สอนจึงควรเป็นแบบอย่างที่ดีในการใช้เทคโนโลยีเพื่อประโยชน์ในการเรียนการสอน เช่น เป็นสื่อการเรียนรู้ การสืบค้น และเป็นช่องทางในการติดต่อสื่อสารกับผู้เรียน เป็นต้น
แม้ว่าเด็กและเยาวชนยุคนี้จะมีความเป็นปัจเจกสูง และชอบที่จะอยู่ตามลำพัง แต่ในยุคแห่งศตวรรษที่ 21 การทำงานแบบร่วมมือนั้น กลับเป็นสิ่งที่มีความสำคัญอย่างมากต่อการแข่งขันในระดับโลก ดังนั้นครูผู้สอนจึงควรจัดกิจกรรมการเรียนการสอนโดยเน้นให้ผู้เรียนเกิดความร่วมมือกันอย่างหลากหลายและสม่ำเสมอ โดยสามารถนำเอาความรู้และความถนัดมาช่วยกันส่งเสริมการทำงานร่วมกันแบบร่วมมือได้อย่างมีประสิทธิภาพ
สำหรับเด็กและเยาวชนยุคเจนเนอเรชันอัลฟ่า ความถนัดและความสนใจนั้นเป็นสิ่งที่มีอิทธิพลอย่างมากและมีผลต่อการดำเนินชีวิตในอนาคต ดังนั้นครูผู้สอนจะต้องวางแนวทางให้พวกเขาสามารถค้นหาความถนัดและความเป็นตัวตนของตัวเองอย่างอิสระ โดยไม่เป็นการบังคับ และส่งเสริมพวกเขาตามความสนใจนั้น ๆ ซึ่งสิ่งเหล่านี้ จะนำไปสู่การสร้างอาชีพของเขาในอนาคต
เรียบเรียงโดย : นรรัชต์ ฝันเชียร