Home
Education
Classroom
Knowledge
Blog
TV
ธรรมะ
กิจกรรม
โครงการทรูปลูกปัญญา

เมื่อนักเรียนเรียนไม่รู้เรื่อง

Posted By Plook Teacher | 01 ก.ย. 63
18,243 Views

  Favorite

ภาวะการเรียนไม่รู้เรื่องของนักเรียนนั้น เป็นเรื่องที่น่าปวดหัวอย่างมากสำหรับครูประจำชั้น และครูประจำวิชา เพราะภาวะนี้นอกจากจะส่งผลให้นักเรียนไม่สามารถเรียนรู้ในเนื้อหาวิชานั้น ๆ ได้แล้ว ยังมีผลทำให้นักเรียนมีทัศนคติที่ไม่ดีต่อการเรียนรู้ และไม่อยากเรียนรู้ในวิชานั้น ๆ อีกด้วย

 

การเรียนไม่รู้เรื่องเป็นปัญหาด้านการเรียนที่มักจะพบเจออยู่เป็นประจำในชั้นเรียน ซึ่งมีสาเหตุมากจากปัจจัยใหญ่ ๆ ได้ 2 ปัจจัย คือ ปัจจัยภายใน คือ ปัจจัยที่เกิดจากตัวนักเรียนเอง เช่น ไม่มีสมาธิ ไม่มีทักษะความรู้เดิมมาก่อน หรือ มีความบกพร่องในการเรียนรู้ และปัจจัยภายนอก ซึ่งเป็นปัจจัยที่มาจากสภาพแวดล้อมที่มีผลกับตัวนักเรียน เช่น ปัญหาครอบครัว มีเสียงรบกวนขณะเรียนหนังสือ หรือ รูปแบบการสอน เป็นต้น

สำหรับการแก้ไขปัญหาการเรียนไม่รู้เรื่องของนักเรียนนั้น 8 ข้อต่อไปนี้ คือแนวทางทั่วไปที่ครูผู้สอนสามารถดำเนินการเพื่อแก้ไขปัญหานักเรียนเรียนไม่รู้เรื่องได้

สลับที่นั่ง

การสลับที่นั่งให้นักเรียน จะช่วยให้นักเรียนมีประสิทธิภาพในการเรียนรู้ที่มากขึ้น นักเรียนบางคนที่ถูกจูงใจจากสภาพแวดล้อมได้ง่าย ก็ควรให้นั่งห่างจากหน้าต่าง และควรนั่งใกล้กับครูผู้สอน ซึ่งจะช่วยกระตุ้นให้นักเรียนมีสมาธิมากขึ้น หรือ นักเรียนที่มีปัญหาด้านสายตา การขยับให้นักเรียนมานั่งหน้าชั้นเรียน จะช่วยให้พวกเขาเรียนรู้ได้ดีขึ้น ซึ่งจะช่วยลดปัญหาการเรียนไม่รู้เรื่องลงได้

 

ลดเสียงรบกวนจากภายนอก

ถ้าสภาพแวดล้อมรอบโรงเรียนมีความอึกทึกครึกโครมเกินไป จนเป็นอุปสรรคต่อการเรียนรู้นักเรียน ก็ควรที่จะหาวิธีแก้ไขหรือลดทอนปัญหาของอุปสรรคดังกล่าว เช่น การขอความร่วมมือกับชุมชนโดยรอบ ในการงดใช้เสียงในช่วงระหว่างเรียนของนักเรียน ปรับปรุงห้องเรียนให้ลดปัญหาเสียงดังรบกวน หรือ อาจย้ายสถานที่เรียนในพื้นที่ที่เงียบมากขึ้น เป็นต้น

 

ปรับปรุงวิธีการสอน

รูปแบบวิธีการสอนของครูผู้สอนแต่ละคนนั้น อาจไม่ได้สอดคล้องการเรียนรู้ของนักเรียนได้ทุกคน นักเรียนบางคนอาจเรียนรู้ได้ดีกับวิธีการสอนแบบหนึ่ง แต่บางคนก็อาจเรียนรู้ได้ดีกับการสอนอีกรูปแบบหนึ่ง ดังนั้น ถ้ามีนักเรียนเกินกว่าครึ่งห้องไม่เข้าใจในเนื้อหาที่ครูสอน การปรับปรุงวิธีการสอนให้สอดคล้องกับการเรียนรู้ของนักเรียนส่วนใหญ่ น่าจะทำให้ปัญหาการเรียนไม่รู้เรื่องของนักเรียนลดลงได้

 

ให้เวลาสำหรับสำหรับการถามคำถาม

หลังจากจบบทเรียนในแต่ละวัน ครูผู้สอนควรเปิดโอกาสให้นักเรียนสามารถสอบถามถึงข้อสงสัยและประเด็นต่าง ๆ ที่ไม่เข้าใจ เพื่อให้นักเรียนเข้าใจในบทเรียนนั้น ๆ มากยิ่งขึ้น แต่อย่างไรก็ดี การให้นักเรียนถามนั้น ครูผู้สอนต้องเต็มใจในการที่จะตอบคำถามทุกคำถาม และต้องไม่แสดงความไม่พอใจถ้าคำถามนั้นดูไม่เข้าท่าหรือดูเหมือนผู้ถามจะไม่ได้เรียนรู้อะไรเลย เพราะอย่าลืมว่า เราเปิดโอกาสให้นักเรียนถามเพื่อให้พวกเขาเข้าใจมากขึ้น การแสดงความไม่พอใจกับคำถามของเขา จะทำให้นักเรียนไม่กล้าที่จะถาม และไม่รู้สึกอยากที่จะเรียนรู้

 

สอนซ้ำ

บางครั้งสถานการณ์ต่าง ๆ อาจบีบบังคับให้ครูผู้สอนต้องเร่งสอนเพื่อให้ทันกับระยะเวลาในการศึกษา จนส่งผลให้นักเรียนบางส่วนอาจเรียนรู้ตามไม่ทัน ซึ่งปัญหานี้ส่งผลให้นักเรียนบางส่วนเรียนไม่รู้เรื่อง ดังนั้นจึงควรหาเวลาเพิ่มเติมในช่วงพัก หรือหลังเลิกเรียนสำหรับการสอนซ้ำให้กับนักเรียนกลุ่มนี้ เพื่อให้พวกเขาสามารถเรียนรู้ได้ทันตามเนื้อหา

 

สอนเสริม

สำหรับปัญหาการเรียนไม่รู้เรื่องของนักเรียนบางคนในชั้นเรียน ครูผู้สอนอาจใช้วิธีการสอนเสริมเป็นรายบุคคลหรือรายกลุ่ม เพื่อให้นักเรียนกลุ่มที่เรียนไม่รู้เรื่อง สามารถเรียนรู้ได้เหมาะสมมากขึ้นได้ ซึ่งในการสอนเสริมนั้น ครูผู้สอนควรปรับวิธีการสอนให้สอดคล้องกับนักเรียนแต่คน ซึ่งจะช่วยให้นักเรียนกลุ่มนี้สามารถเรียนรู้ได้ดีขึ้น

 

พูดคุยให้คำปรึกษากับนักเรียน

บางครั้งปัญหาครอบครัวหรือปัญหาส่วนตัว อาจส่งผลกระทบทำให้นักเรียนไม่มีสมาธิในการเรียนรู้ ซึ่งถ้าครูผู้สอนสามารถสังเกตเห็นความผิดปกติดังกล่าว อาจเรียกนักเรียนไปพูดคุยและให้คำปรึกษาอย่างเหมาะสม ซึ่งจะทำให้นักเรียนจัดการกับสถานการณ์และผ่านพ้นปัญหาต่าง ๆ ได้ และทำให้นักเรียนกลับมาเรียนรู้ได้ดีขึ้น

 

แนะนำผู้ปกครอง

ปัญหาการเรียนไม่รู้เรื่องของนักเรียน บางครั้งอาจเป็นปัญหาที่ใหญ่เกินกว่าแค่การปรับพฤติกรรมนักเรียนเช่น ปัญหาการบกพร่องในการเรียนรู้ หรือปัญหาครอบครัว ดังนั้นการพูดคุยแนะนำผู้ปกครองในแนวทางที่เหมาะสมในการช่วยเหลือนักเรียน จะทำให้นักเรียนผ่านพ้นปัญหา และสามารถเรียนรู้ได้ตามปกติ

 

เป็นธรรมดาที่ในห้องเรียนนั้น จะมีทั้งนักเรียนที่เรียนเก่งและนักเรียนที่เรียนอ่อน แต่สิ่งนี้ก็ไม่ได้หมายความว่านักเรียนที่เรียนอ่อนนั้นเป็นคนโง่ หรือไร้ความสามารถ เพราะนักเรียนแต่ละคนนั้นต่างมีศักยภาพที่แตกต่างกัน บางคนเรียนหนังสือเก่ง แต่บางคนอาจเล่นกีฬาเก่ง หรือเล่นดนตรีเก่ง ดังนั้นการเรียนเก่งหรืออ่อนนั้น จึงไม่ใช่เรื่องที่จะใช้ตัดสินความสามารถของบุคคลได้ทั้งหมด แต่อย่างไรเสีย การเรียนนั้นยังคงเป็นสิ่งสำคัญสำหรับนักเรียนทุกคน เพราะนักเรียนจำเป็นต้องได้รับการส่งเสริมการเรียนรู้พื้นฐานให้เหมาะสมกับแต่ละช่วงวัย ดังนั้นปัญหาการเรียนไม่รู้เรื่องของนักเรียนนั้น จึงเป็นปัญหาที่ควรต้องได้รับการแก้ไข เพื่อประโยชน์ของตัวผู้เรียนทั้งในปัจจุบันและในอนาคต

 

เรียบเรียงโดย : นรรัชต์  ฝันเชียร

 

เว็บไซต์ทรูปลูกปัญญาดอทคอมเป็นเพียงผู้ให้บริการพื้นที่เผยแพร่ความรู้เพื่อประโยชน์ของสังคม ข้อความและรูปภาพที่ปรากฏในบทความเป็นการเผยแพร่โดยผู้ใช้งาน หากพบเห็นข้อความและรูปภาพที่ไม่เหมาะสมหรือละเมิดลิขสิทธิ์ กรุณาแจ้งผู้ดูแลระบบเพื่อดำเนินการต่อไป
Tags
  • Posted By
  • Plook Teacher
  • 127 Followers
  • Follow