นรรัชต์ ฝันเชียร
การเยี่ยมบ้านนักเรียน คือ วิธีศึกษาและเก็บข้อมูลของครู โดยการไปเยี่ยมพบปะกับผู้ปกครองและนักเรียนที่บ้านของนักเรียนตามที่นัดแนะนำกันไว้ล่วงหน้า ซึ่งมีจุดประสงค์เพื่อ
- ให้ครูได้เห็นสภาพครอบครัวและความเป็นอยู่ที่แท้จริงของนักเรียน
- เรียนรู้เจตคติของผู้ปกครองที่มีต่อครู โรงเรียน และตัวนักเรียน
- สร้างความสัมพันธ์อันดีระหว่างครูกับผู้ปกครอง
- เปิดโอกาสให้แลกเปลี่ยนข้อมูลนักเรียนระหว่างครูกับผู้ปกครอง
ซึ่งข้อมูลที่มาจากการเยี่ยมบ้านเหล่านี้มีประโยชน์อย่างมาก เพราะสามารถใช้เป็นข้อมูลสำคัญในการวางแผนพัฒนา ส่งเสริม ป้องกันและแก้ปัญหาของนักเรียนในโรงเรียน ซึ่งทำให้การส่งเสริมการเรียนรู้ของครู รวมถึงการบริหารจัดการของโรงเรียนมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
การเยี่ยมบ้านนับเป็นกิจกรรมส่งเสริมการศึกษาที่ได้รับการสนับสนุนจากภาครัฐ โดยเป็นส่วนหนึ่งในโครงการระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียน ซึ่งมีนโยบายในเรื่องนี้มาตั้งแต่ปี 2542 และมีการกำหนดไว้เป็นหนึ่งในมาตรฐานคุณภาพการศึกษา โดยปัจจุบันมีหลายโรงเรียนที่ได้ดำเนินการในเรื่องนี้อย่างจริงจังและประสบความสำเร็จ
สำหรับหลักการเยี่ยมบ้านนักเรียนที่ดีนั้น คุณครูสามารถดำเนินการตามหลักการที่เหมาะสมได้ดังนี้
การเยี่ยมบ้านไม่ใช่การไปตรวจสอบ แต่เป็นการไปพบปะกันอย่างเป็นกัลยาณมิตร ดังนั้นเพื่อให้ทุกอย่างดำเนินไปอย่างราบรื่น คุณครูควรนัดแนะกับนักเรียนและผู้ปกครองไว้ล่วงหน้าว่าจะเข้าเยี่ยมวันไหนและเมื่อไหร่ และควรจะให้ผู้ปกครองเป็นคนจัดสรรเวลาที่เหมาะสมของตัวเอง ซึ่งจะทำให้ผู้ปกครองมีเวลาว่างและสบายใจที่จะพบ
การเตรียมหัวข้อที่จะพูดคุยไว้ล่วงหน้าและดำเนินการตามนั้น จะทำให้คุณครูไม่หลงประเด็นนอกเรื่องและได้ข้อมูลที่ครบถ้วนตามจุดประสงค์ โดยควรสอดแทรกลงไปกับการพูดคุยตามปกติ เพื่อไม่ให้ผู้ปกครองรู้สึกเหมือนโดนสอบสวน ซึ่งจะทำให้เขาเลี่ยงที่จะให้ข้อมูลตามความจริง
การศึกษาข้อมูลเบื้องต้นของนักเรียน โดยเฉพาะข้อมูลจำเพาะเกี่ยวกับครอบครัวของนักเรียน เช่น การเลี้ยงดู การนับถือศาสนา หรือทัศนคติ นับเป็นสิ่งที่คุณครูควรศึกษาเอาไว้ล่วงหน้า เพราะจะทำให้คุณครูสามารถปฏิบัติตัวหรือถามคำถามในการไปเยี่ยมบ้านได้อย่างเหมาะสม
ก่อนที่เราจะสัมภาษณ์ผู้ปกครองเพื่อเก็บข้อมูล คุณครูควรสร้างความคุ้นเคยและความอุ่นใจให้กับผู้ปกครองก่อน อาจจะชวนพูดคุยเรื่องต่าง ๆ เพื่อสร้างบรรยากาศที่เป็นกันเอง แล้วจึงค่อยสอดแทรกหัวข้อที่เราต้องทราบลงไปเป็นระยะ ซึ่งจะทำให้คุณครูได้ข้อมูลจากผู้ปกครองที่เป็นความจริงอย่างชัดเจนมากยิ่งขึ้น
การเยี่ยมบ้านนั้น ไม่จำเป็นว่า เราต้องพูดคุยกับแค่ผู้ปกครองเท่านั้น การพูดคุยร่วมกันระหว่างคุณครู ผู้ปกครอง และนักเรียนในช่วงแรก ๆ นับเป็นการสร้างความคุ้นเคยในวงสนทนาที่ดี ซึ่งจะมีผลต่อการให้ข้อมูลที่แท้จริงของผู้ปกครองและนักเรียนอีกด้วย
คุณครูหลายท่านอาจหลงลืมเลือนไปว่า การเยี่ยมบ้านนั้นมีเป้าหมายแตกต่างจากการเชิญผู้ปกครองมารับฟังปัญหาเมื่อนักเรียนทำความผิด เพราะเป้าหมายของการเยี่ยมบ้านคือเราต้องการทราบข้อมูลของนักเรียนเพิ่มเติม เพื่อหาแนวทางในการส่งเสริมและพัฒนา ซึ่งผิดกับการเชิญผู้ปกครองมาที่โรงเรียนเพื่อต้องการให้ผู้ปกครองมารับทราบปัญหา แนวการลงโทษหรือช่วยกันหาหนทางแก้ไข ดังนั้นจึงไม่ควรตำหนิติติง หรือวิพากษ์วิจารณ์นักเรียนให้ผู้ปกครองฟังขณะที่กำลังพูดคุยกันระหว่างการเยี่ยมบ้าน
การเยี่ยมบ้าน เป็นกิจกรรมที่ผู้ปกครองต้องสละเวลามาพูดคุยพบปะกับคุณครู ดังนั้นคุณครูจึงไม่ควรใช้เวลาในการเยื่ยมบ้านนักเรียนแต่ละคนนานจนเกินไป เพื่อไม่ให้ไปรบกวนเวลาส่วนตัวของผู้ปกครอง แต่ก็ไม่ควรเร็วเกินไปจนไม่ได้ข้อมูลที่ต้องการ
หลังจากที่คุณครูกลับจากเยี่ยมบ้านแล้ว สิ่งที่คุณครูต้องทำทันที คือการเขียนรายงานบันทึกการเยี่ยม ซึ่งมีแบบฟอร์มให้โหลดใช้กันอย่างมากมาย เพื่อนำมาเป็นข้อมูลสำคัญในการส่งเสริมการศึกษาของโรงเรียนและในห้องเรียน
การเยี่ยมบ้าน เป็นกิจกรรมที่มีประโยชน์อย่างมาก เพราะช่วยให้คุณครูมีความเข้าใจในตัวนักเรียนมากยิ่งขึ้น อีกทั้งยังเป็นการเรียนรู้ซึ่งกันและกัน รวมถึงสร้างความสัมพันธ์อันดีระหว่าง โรงเรียน ครู และผู้ปกครองอีกด้วย ซึ่งจะเป็นผลดีต่อการส่งเสริมและพัฒนานักเรียนต่อไปในอนาคตอย่างมาก
ดังนั้น เพื่อที่จะให้ได้ประโยชน์สูงสุด โรงเรียนจึงควรดำเนินการในเรื่องนี้อย่างต่อเนื่องเพื่อให้สามารถใช้ประโยชน์จากกิจกรรมนี้ได้อย่างเต็มที่ โดยต้องคำนึงถึงแนวทางการปฏิบัติที่จริงจังและเหมาะสม มากกว่าจะเป็นการนั่งเทียนเขียนแต่งเพียงเพื่อให้มีไว้ตามแนวทางปฏิบัติ ซึ่งแบบนั้น นอกจากจะเป็นการกระทำที่บิดเบือนข้อมูลแล้ว ยังไม่ทำให้เกิดประโยชน์อันใดต่อการศึกษาเลย