Home
Education
Classroom
Knowledge
Blog
TV
ธรรมะ
กิจกรรม
โครงการทรูปลูกปัญญา

จิตอาสาพัฒนาเด็กไทย

Posted By Plook Teacher | 11 มี.ค. 62
76,535 Views

  Favorite

นรรัชต์  ฝันเชียร

             นับเป็นพระมหากรุณาธิคุณอย่างหาที่สุดมิได้ที่ สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร ได้ทรงเล็งเห็นความสำคัญของงานจิตอาสา แล้วทรงจัดตั้งโครงการจิตอาสา “ทำความดีด้วยหัวใจ” ซึ่งมีพสกนิกรเข้าร่วมกิจกรรมเป็นจำนวนมาก และได้ดำเนินงานจิตอาสาในหลายพื้นที่ทั่วประเทศ ทำให้งานจิตอาสาขยายตัวออกไปในพื้นที่น้อยใหญ่ต่าง ๆ เพื่อปลูกจิตสำนึกให้คนไทยมีหัวใจจิตอาสามากขึ้น ซึ่งแม้แต่ในคำขวัญวันเด็ก ประจำปี 2562 ที่ว่า "เด็ก เยาวชน จิตอาสา ร่วมพัฒนาชาติ" ก็ได้มีระบุคำว่า จิตอาสาเข้าไปด้วย ซึ่งนับว่าเป็นเรื่องที่ทุกภาคส่วน ใส่ใจกันมากขึ้นกว่าแต่ก่อน

 

ความหมายของจิตอาสาและจิตสาธารณะ

             จิตอาสา (Volunteer Spirit) หมายถึง จิตแห่งการให้โดยเต็มใจเพื่อผู้อื่น โดยไม่หวังสิ่งตอบแทน มีที่มาจากการรวมกันของคำสองคำ คือคำว่า “จิต” และคำว่า “อาสา”  จิต หมายถึง จิตใจหรือความรู้สึกนึกคิด ส่วน อาสา นั้น หมายถึงการทำสิ่งใดด้วยความสมัครใจโดยไม่มีผู้ใดบังคับ คำนี้ถูกสร้างขึ้นมาหลังจากเหตุการณ์ภัยพิบัติสึนามิเมื่อ ปี 2547 ปัจจุบันมีความหมายเสมือนคำว่าอาสาสมัคร และเมื่อกล่าวถึงคำว่าจิตอาสา ก็ต้องกล่าวถึงคำว่า จิตสาธารณะด้วย จิตสาธารณะ (Public Consciousness) หมายถึง คุณลักษณะทางจิตใจของบุคคลที่มีพร้อม ความปรารถนาที่จะช่วยแก้ปัญหา อุทิศตนเพื่อประโยชน์ส่วนรวม รวมถึงการรู้จักหวงแหนและรักษาสิ่งของที่เป็นส่วนรวมด้วย ซึ่งทั้ง จิตอาสา และจิตสาธารณะนี้ แทบจะมีความหมายที่เหมือนกัน ต่างกันตรงที่ จิตอาสานั้น เป็นการทำตามความมุ่งหวังของตัวเอง ในขณะที่จิตสาธารณะเป็นการกระทำที่เกิดจากสำนึกที่ดีในสังคม ยกตัวอย่างเช่น การเก็บขยะรอบโรงเรียน ในความหมายของจิตอาสา คือ มุ่งหวังให้ตัวเองทำประโยชน์ ได้รับคำชมเชย  ส่วนในความหมายของจิตสาธารณะคือทำเพื่อให้โรงเรียนสะอาดในฐานะนักเรียนในโรงเรียน เป็นต้น

 

ภาพ : shutterstock.com


 

ทำไมต้องมีจิตอาสา

             ในโลกยุคปัจจุบันนี้ มนุษย์เราเริ่มมีความเป็นปัจเจกชนมากขึ้น เริ่มใช้ชิวิตในวงที่แคบลง สนใจคำนึงถึงแต่ตัวเอง ไม่สนใจหรือใส่ใจกับสิ่งรอบข้าง ซึ่งอุปนิสัยนี้ กำลังบั่นทอนสังคมโดยทั่วไป เพราะความรู้สึกแบบต่างคนต่างอยู่ ไม่ช่วยเหลือเกื้อกูลหรือคิดถึงส่วนรวมนี้ จะส่งผลให้สังคมไม่น่าอยู่ ผู้คนขาดคุณธรรมจริยธรรม แก่งแย่งชิงดีชิงเด่น ไม่มีใครยอมใครหรือช่วยเหลือใคร สุดท้ายสังคมก็อยู่ไม่ได้ การปลูกฝังให้เด็กและเยาวชนซึบซับความเป็นจิตอาสาและมีหัวใจที่เป็นจิตสาธารณะนั้น นับเป็นการปลูกฝังคนรุ่นใหม่ ให้มีคุณลักษณะที่ดีในด้านนี้ อันจะนำมาซึ่งการสร้างสรรค์สังคมที่น่าอยู่ต่อไปในอนาคต

 

วิธีสอนเด็กให้เป็นคนมีจิตอาสา

เรื่องของจิตอาสาและจิตสาธารณะนั้น ในเรื่องของการปลูกฝังและส่งเสริม เราสามารถปลูกฝังและส่งเสริมเด็กมีใจเป็นจิตอาสาได้หลายวิธี ดังนี้

             1. บุคคลใกล้ชิดเป็นตัวอย่างที่ดี ตามทฤษฎีการเรียนรู้ทางสังคมของเบนดูร่า ได้กล่าวว่า เด็กนั้นเรียนรู้ผ่านตัวแบบที่มีอิทธิพล ซึ่งตัวแบบที่มีอิทธิพลนั้นก็คือบุคคลในครอบครัวและบุคคลใกล้ชิดนั่นเอง ไม่ว่าจะเป็นพ่อแม่ผู้ปกครองหรือคุณครู ถ้าต้องการสอนให้เด็กและเยาวชามีหัวใจจิตอาสาและจิตสาธารณะแล้ว ก็ควรที่จะปฏิบัติตนเป็นแบบอย่างที่ดี ในเรื่องของการเป็นจิตอาสาและจิตสาธารณะ เช่น ช่วยเหลือผู้อื่นเมื่อมีโอกาส ไม่สูบบุหรี่ไม่ที่ห้ามสูบ ไม่จอดรถในพื้นที่เฉพาะ และรู้จักใช้และรักษาของส่วนร่วมต่างๆ เป็นต้น

             2. ส่งเสริมให้เด็กมีหน้าที่ การส่งเสริมให้เด็กมีหน้าที่ต่างๆนั้นจะช่วยให้เขารู้สึกว่าเขาเป็นส่วนหนึ่งในสังคมนั้นๆ เช่น ให้ช่วยเหลืองานบ้านตามความเหมาะสม หรือการจั้งเวรประจำวันในการดูแลทำความสะอาดในห้องเรียน เป็นต้น สิ่งเหล่านี้จะเป็นการปลูกฝังจิตสำนึกให้เขาเป็นคนที่ชอบช่วยเหลือผู้อื่น รู้จักเสียสละ มีความรับผิดชอบต่อหน้าที่ มีใจที่เอื้อเฟื้อเผื่อแผ่คิดถึงคนอื่น ซึ่งจะเป็นการส่งเสริมให้เขาเป็นคนที่มีจิตอาสานั่นเอง

             3. สอนเด็กให้เป็นคนคิดถึงส่วนรวมและสิ่งแวดล้อม คือควรปลูกฝังให้เด็กช่วยดูแลรักษาสิ่งแวดล้อมและธรรมชาติ ฝึกให้ลูกรักษาความสะอาดของส่วนรวม เช่น รู้จักทิ้งขยะเป็นที่เป็นทาง เวลาไปที่สวนสาธารณะก็จะไม่เด็ดดอกไม้ใบไม้เล่น หรือเวลาเข้าห้องน้ำสาธารณะก็ควรรักษาความสะอาดเพื่อให้คนอื่นสามารถมาใช้ต่อได้ เป็นต้น
             4. ชวนเด็กไปบริจาคสิ่งของหรือทำกิจกรรมอาสา การพาเด็กๆไปเยี่ยมสถานสงเคราะห์หรือไปเยี่ยมบ้านคนชรานั้น เป็นการสร้างประสบการณ์ดี ให้เขาได้มีโอกาสซึมซับความเป็นจิตอาสาโดยตรงอันจะส่งผลให้เขาปฏิบัติตนด้วยจิตอาสาและจิตสาธารณะตามความเคยชิน ซึ่งเป็นเรื่องที่ดีสำหรับเขาในภายภาคหน้า

 

ภาพ : shutterstock.com

 

             จะเห็นได้ว่า จิตอาสา รวมไปถึง จิตสาธารณะนั้น ล้วนแล้วแต่เป็นคุณลักษณะที่ดีและเหมาะสมกับบุคคลในยุคสมัยนี้เป็นอย่างยิ่ง การส่งเสริมให้เด็กและเยาวชนมีจิตสำนึกและคำนึงถึงเรื่องนี้ จะช่วยให้เขาเติบโตเป็นมนุษย์ที่ดีและมีคุณภาพ อันจะนำมาซึ่งการสร้างสังคมที่ดี สงบร่มเย็น และพร้อมที่จะเผชิญสิ่งต่างๆ ไปพร้อมๆกัน ซึ่งถ้าเราทำได้สำเร็จ สังคมสงบสุขในอุดมคตินั้น ก็อาจะเป็นจริงได้ไม่ช้าก็เร็ว

 

เอกสารอ้างอิง

http://www.dpu.ac.th/sao/upload/content/files/%E0%B8%88%E0%B8%B4%E0%B8%95%E0%B8%AD%E0%B8%B2%E0%B8%AA%E0%B8%B2%20%E0%B8%AD%20%E0%B8%AD%E0%B8%98%E0%B8%B4%E0%B8%9E%E0%B8%B1%E0%B8%8A%E0%B8%A3.pdf

https://mgronline.com/qol/detail/9610000067805

https://www.matichonweekly.com/column/article_121036


 

เว็บไซต์ทรูปลูกปัญญาดอทคอมเป็นเพียงผู้ให้บริการพื้นที่เผยแพร่ความรู้เพื่อประโยชน์ของสังคม ข้อความและรูปภาพที่ปรากฏในบทความเป็นการเผยแพร่โดยผู้ใช้งาน หากพบเห็นข้อความและรูปภาพที่ไม่เหมาะสมหรือละเมิดลิขสิทธิ์ กรุณาแจ้งผู้ดูแลระบบเพื่อดำเนินการต่อไป
Tags
  • Posted By
  • Plook Teacher
  • 127 Followers
  • Follow