Home
Education
Classroom
Knowledge
Blog
TV
ธรรมะ
กิจกรรม
โครงการทรูปลูกปัญญา

ทำความรู้จัก "DELF/DALF และ TCF" การสอบวัดระดับภาษาฝรั่งเศส

Posted By lmin66079 | 04 ก.ย. 67
1,618 Views

  Favorite

การสอบวัดระดับภาษาฝรั่งเศส หรือ DELF (Diplôme d'Études en Langue Française) , DALF (Diplôme Approfondi de Langue Française) และ TCF (Test de connaissance du français) เป็นการสอบที่ได้รับการยอมรับทั่วโลกสำหรับผู้ที่ต้องการประเมินความสามารถในการใช้ภาษาฝรั่งเศส ทั้งสามแบบทดสอบนี้ออกแบบมาเพื่อวัดทักษะด้านการฟัง การพูด การอ่าน การเขียนและไวยากรณ์ ตามระดับความยากที่แตกต่างกัน การเตรียมตัวที่มีประสิทธิภาพจะช่วยให้คุณสามารถสอบผ่านและใช้งานภาษาฝรั่งเศสในชีวิตประจำวัน การศึกษา หรือการทำงานได้อย่างมั่นใจ การเลือกสอบแบบใดแบบหนึ่งขึ้นอยู่กับวัตถุประสงค์ของผู้สอบ เช่น การศึกษา การย้ายถิ่นฐาน เหตุผลส่วนตัว การขอสัญชาติ ฯลฯ

 

DELF/DALF ประกาศนียบัตรที่ใช้ได้ตลอดชีวิต

 สำหรับการสอบ DELF และ DALF ผู้สมัครสอบจะต้องเลือกระดับที่ต้องการสอบจาก 6 ระดับ ตามกรอบ CEFRL และหากสอบผ่านจะได้รับประกาศนียบัตรที่มีผลตลอดชีวิต การสอบ DELF ใช้ทดสอบทักษะภาษาฝรั่งเศสระดับ A1, A2, B1 และ B2 ในขณะที่การสอบ DALF ใช้ทดสอบทักษะภาษาฝรั่งเศสระดับสูง C1 และ C2 นอกจากนี้ ยังมีการสอบ DELF Prim ระดับ A1.1 สำหรับเด็ก เพื่อวัดทักษะภาษาฝรั่งเศสเบื้องต้น และการสอบ DELF Junior สำหรับเด็กในระดับมัธยมศึกษา ผู้ที่มีอายุตั้งแต่ 6 ถึง 99 ปี สามารถสอบ DELF ได้ทุกคน! การสอบ DELF และ DALF จะได้รับประกาศนียบัตรที่มีผลตลอดชีวิต ซึ่งใช้รับรองระดับภาษาฝรั่งเศสโดยรวมของผู้สอบ โดยประเมินจาก 4 ทักษะหลัก สำหรับภาษาต่างประเทศ ได้แก่ ทักษะการพูด ทักษะการฟัง ทักษะการอ่าน และทักษะการเขียน
 

TCF การสอบทดสอบความรู้ภาษาฝรั่งเศสในช่วงเวลาที่กำหนด

 สำหรับการทดสอบความรู้ภาษาฝรั่งเศส (TCF) ผู้สมัครสอบจะเลือกรูปแบบการสอบที่สอดคล้องกับวัตถุประสงค์ของตัวผู้สอบเอง ได้แก่ TCF แคนาดา, TCF สำหรับรัฐควิเบก, TCF สำหรับผู้ต้องการขอสัญชาติฝรั่งเศส และ TCF สำหรับบุคคลทั่วไป)

การสอบ TCF จะประเมินระดับทางภาษาของผู้สอบ ณ เวลาที่กำหนด โดยจะประเมินทักษะทางภาษาแต่ละด้านตามกรอบ CEFRL 6 ระดับ ได้แก่ A1, A2, B1, B2, C1 และ C2 ข้อสอบที่มีมาตรฐานและจัดทำขึ้นตามกระบวนการทางวิชาการอย่างแม่นยำนี้ เป็นข้อสอบแบบตัวเลือกซึ่งมีคำตอบที่ถูกต้องเพียงข้อเดียวระดับที่ได้และใบรับรอง TCF มีอายุ 2 ปี โดยจะประเมินระดับในแต่ละทักษะ ไม่ใช่ระดับโดยรวม การสอบนี้ใช้สำหรับนักเรียนและผู้ใหญ่


ประเภทของการสอบ DELF/DALF

DELF แบ่งออกเป็น 4 ระดับ ตั้งแต่ A1 ถึง B2 ซึ่งเป็นระดับพื้นฐานถึงระดับกลาง

DELF A1 (ระดับพื้นฐานที่สุด) สำหรับผู้เริ่มเรียนภาษาฝรั่งเศส วัดทักษะด้านการฟัง การพูด การอ่าน และการเขียน ความสามารถในการใช้ภาษาฝรั่งเศสเพื่อการสื่อสารพื้นฐาน เช่น การแนะนำตัวเองและถามตอบในสถานการณ์ง่าย ๆ 

DELF A2 (ระดับพื้นฐาน) สำหรับผู้ที่มีพื้นฐานภาษาฝรั่งเศสเล็กน้อย วัดทักษะด้านการฟัง การพูด การอ่าน และการเขียน ความสามารถในการใช้ภาษาฝรั่งเศสเพื่อสื่อสารในชีวิตประจำวัน เช่น การซื้อของและการถามเส้นทาง

DELF B1 (ระดับกลาง) สำหรับผู้ที่สามารถใช้ภาษาฝรั่งเศสเพื่อการสื่อสารที่มีความซับซ้อนมากขึ้น วัดทักษะด้านการฟัง การพูด การอ่าน และการเขียน ความสามารถในการจัดการสถานการณ์ในชีวิตประจำวัน ใช้ในการสนทนาและเขียนเกี่ยวกับหัวข้อที่คุ้นเคย

DELF B2 (ระดับกลางขั้นสูง) สำหรับผู้ที่ต้องการใช้ภาษาฝรั่งเศสในการศึกษาต่อในระดับมหาวิทยาลัยหรือในสายอาชีพ วัดทักษะด้านการฟัง การพูด การอ่าน และการเขียน ความสามารถในการสื่อสารในระดับที่ซับซ้อนขึ้น สามารถแสดงความคิดเห็นอย่างชัดเจนและมีโครงสร้าง

DALF เป็นระดับสูงสุด แบ่งออกเป็น 2 ระดับ ได้แก่ C1 และ C2

DALF C1 (ระดับสูง) สำหรับผู้ที่ต้องการใช้ภาษาฝรั่งเศสในการทำงานในระดับมืออาชีพหรือศึกษาต่อในระดับสูง วัดทักษะด้านการฟัง การพูด การอ่าน และการเขียน ความสามารถในการใช้ภาษาฝรั่งเศสอย่างมีประสิทธิภาพในด้านวิชาการและวิชาชีพ สามารถเข้าใจเนื้อหาที่ซับซ้อนและแสดงความคิดที่ชัดเจน

DALF C2 (ระดับสูงสุด) สำหรับผู้ที่มีความชำนาญในการใช้ภาษาฝรั่งเศสอย่างเต็มที่ เช่น นักวิชาการ ล่าม หรือผู้เชี่ยวชาญด้านภาษา วัดทักษะด้านการฟัง การพูด การอ่าน และการเขียนความสามารถในการใช้ภาษาฝรั่งเศสอย่างสมบูรณ์และเข้าใจทุกแง่มุมของภาษา รวมถึงการเขียนและพูดในระดับเชิงลึก

 

โครงสร้างข้อสอบ DELF แต่ละระดับ

DELF A1 (ระดับพื้นฐานที่สุด) เวลาสอบประมาณ 1 ชั่วโมง 20 นาที คะแนนเต็ม 100 คะแนน ต้องได้คะแนนไม่ต่ำกว่า 50 คะแนนถึงจะถือว่าสอบผ่าน 

  • การฟัง (Listening)ฟังบทสนทนาสั้น ๆ ในชีวิตประจำวัน เช่น การแนะนำตัวเอง การถามทาง

  • การพูด (Speaking)บทสนทนาแบบสั้น ๆ เช่น การแนะนำตัวเอง ถามและตอบคำถามง่าย ๆ

  • การอ่าน (Reading)อ่านและเข้าใจข้อความสั้น ๆ เช่น โปสเตอร์ ใบโฆษณา หรือป้ายประกาศ

  • การเขียน (Writing)เขียนข้อความสั้น ๆ เช่น การกรอกแบบฟอร์มหรือการเขียนการ์ดเชิญ

DELF A2 (ระดับพื้นฐาน) เวลาสอบประมาณ 1 ชั่วโมง 40 นาที คะแนนเต็ม 100 คะแนน ต้องได้คะแนนไม่ต่ำกว่า 50 คะแนนถึงจะถือว่าสอบผ่าน 

  • การฟัง (Listening) ฟังบทสนทนาในชีวิตประจำวัน เช่น การซื้อของ การจองที่พัก

  • การพูด (Speaking) สนทนาหรือแลกเปลี่ยนข้อมูลเกี่ยวกับหัวข้อที่คุ้นเคย

  • การอ่าน (Reading) อ่านข้อความและคำแนะนำง่าย ๆ ที่พบในชีวิตประจำวัน เช่น เมนู อีเมล

  • การเขียน (Writing) เขียนข้อความที่ใช้ในชีวิตประจำวัน เช่น การเขียนจดหมายหรืออีเมลสั้น ๆ

DELF B1 (ระดับกลาง) เวลาสอบประมาณ 1 ชั่วโมง 45 นาที คะแนนเต็ม 100 คะแนน ต้องได้คะแนนไม่ต่ำกว่า 50 คะแนนถึงจะถือว่าสอบผ่าน 

  • การฟัง (Listening) ฟังบทสนทนาที่ซับซ้อนขึ้นในสถานการณ์จริง เช่น ข่าวสารหรือการสัมภาษณ์

  • การพูด (Speaking) นำเสนอความคิดเห็นส่วนตัวหรืออธิบายสถานการณ์ เช่น การแสดงความคิดเห็นในที่ประชุม

  • การอ่าน (Reading) อ่านและเข้าใจบทความสั้น ๆ ที่มีความซับซ้อนขึ้น เช่น ข่าวสารจากหนังสือพิมพ์

  • การเขียน (Writing) เขียนข้อความหรือจดหมายอย่างเป็นทางการหรือกึ่งทางการเกี่ยวกับหัวข้อที่รู้จัก

DELF B2 (ระดับกลางขั้นสูง) เวลาสอบประมาณ 2 ชั่วโมง 30 นาที คะแนนเต็ม 100 คะแนน ต้องได้คะแนนไม่ต่ำกว่า 50 คะแนนถึงจะถือว่าสอบผ่าน 

  • การฟัง (Listening) ฟังบทสนทนาหรือการบรรยายที่ซับซ้อนในหัวข้อต่าง ๆ รวมถึงข่าวและสารคดี

  • การพูด (Speaking) การโต้แย้งหรืออภิปรายในหัวข้อเฉพาะ เช่น การนำเสนอบทความหรือประเด็นสังคม

  • การอ่าน (Reading) อ่านบทความหรือเนื้อหาที่มีโครงสร้างซับซ้อน เช่น บทความเชิงวิชาการ

  • การเขียน (Writing) เขียนบทความหรือเรียงความแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับหัวข้อเฉพาะ

โครงสร้างข้อสอบ DALF แต่ละระดับ

DALF C1 (ระดับสูง) เวลาสอบประมาณ 4 ชั่วโมง 30 นาที คะแนนเต็ม 100 คะแนน ต้องได้คะแนนไม่ต่ำกว่า 50 คะแนนถึงจะถือว่าสอบผ่าน 

  • การฟัง (Listening) ฟังและจับใจความจากการบรรยายหรือบทสนทนาที่ยาวและซับซ้อนในสถานการณ์หลากหลาย

  • การพูด (Speaking) นำเสนอความคิดเห็นเกี่ยวกับหัวข้อที่ซับซ้อน หรืออภิปรายโดยใช้ความรู้ที่เฉพาะเจาะจง

  • การอ่าน (Reading) อ่านและตีความบทความเชิงวิชาการหรือวรรณกรรมที่มีความซับซ้อน

  • การเขียน (Writing) เขียนบทความยาวหรือรายงานที่มีโครงสร้างและรายละเอียดเชิงลึก

DALF C2 (ระดับสูงสุด) เวลาสอบประมาณ 3 ชั่วโมง 30 นาที คะแนนเต็ม 100 คะแนน ต้องได้คะแนนไม่ต่ำกว่า 50 คะแนนถึงจะถือว่าสอบผ่าน 

  • การฟัง (Listening) ฟังและวิเคราะห์ข้อมูลจากการบรรยายหรือบทสนทนาที่ยาวและซับซ้อนมาก

  • การพูด (Speaking) การนำเสนอหรืออภิปรายในหัวข้อที่ลึกซึ้ง ใช้การพูดที่ชัดเจนและแม่นยำ

  • การอ่าน (Reading) วิเคราะห์บทความที่มีความซับซ้อนสูง เช่น บทความวิจัยหรือเนื้อหาทางวรรณกรรมที่เฉพาะเจาะจง

  • การเขียน (Writing) การเขียนเชิงวิชาการที่มีความลึกและการวิเคราะห์ที่ซับซ้อน

 

เคล็ดลับการเตรียมตัวสอบ DELF/DALF

1.เข้าใจโครงสร้างและรูปแบบของข้อสอบแต่ละระดับ เรียนรู้โครงสร้างของข้อสอบ DELF/DALF ระดับที่คุณจะสอบ เช่น จำนวนข้อสอบในแต่ละส่วน (การฟัง การพูด การอ่าน การเขียน) เพื่อให้คุ้นเคยกับรูปแบบข้อสอบและประเภทของคำถาม

2. ฝึกทำข้อสอบเก่าและข้อสอบจำลอง (Mock Tests) ใช้ข้อสอบเก่าหรือข้อสอบจำลองเพื่อทดสอบความรู้ของคุณ ทำให้คุ้นเคยกับเวลาและรูปแบบการสอบ จะช่วยลดความกดดันในวันสอบจริง

3. พัฒนาทักษะการฟัง (Listening) ฝึกฟังภาษาฝรั่งเศสจากแหล่งต่าง ๆ เช่น รายการข่าว รายการวิทยุ ภาพยนตร์ และพอดแคสต์ภาษาฝรั่งเศส โดยพยายามฟังให้เข้าใจแม้จะไม่รู้ทุกคำ ฝึกจับใจความสำคัญและคำศัพท์ที่ใช้บ่อยในชีวิตประจำวัน

4. ฝึกทักษะการพูด (Speaking) ฝึกพูดภาษาฝรั่งเศสกับเพื่อน ครู หรือใช้แอปพลิเคชันการสื่อสารกับเจ้าของภาษา ฝึกการสนทนาตามสถานการณ์ต่าง ๆ เช่น การแนะนำตัว การอธิบายสถานการณ์ หรือการแสดงความคิดเห็น

5. อ่านบทความและเนื้อหาภาษาฝรั่งเศส (Reading) อ่านบทความ ข่าวสั้น หรือวรรณกรรมที่มีความยากระดับเดียวกับที่คุณจะสอบ พยายามฝึกอ่านจับใจความและทำความเข้าใจโครงสร้างประโยคที่ซับซ้อนขึ้น

6. พัฒนาทักษะการเขียน (Writing) ฝึกเขียนบทความ จดหมาย หรือเรียงความในหัวข้อต่าง ๆ ฝึกใช้คำศัพท์และไวยากรณ์ที่เหมาะสมตามระดับการสอบ เช่น ระดับ B2 ขึ้นไปควรเน้นการเขียนโต้แย้งหรือแสดงความคิดเห็นอย่างชัดเจน

7.เรียนรู้คำศัพท์และไวยากรณ์ (Vocabulary and Grammar) ฝึกทบทวนคำศัพท์และไวยากรณ์ที่จำเป็นสำหรับแต่ละระดับ โดยเน้นคำที่ใช้บ่อยและโครงสร้างประโยคที่ซับซ้อนขึ้นในระดับสูง

8. จัดการเวลาในการสอบ (Time Management) ฝึกจัดการเวลาในการทำข้อสอบแต่ละส่วน เช่น การฟัง การอ่าน การเขียน ให้เหมาะสม หมั่นทำแบบฝึกหัดโดยตั้งเวลาจำกัด เพื่อฝึกทำข้อสอบให้ทันเวลา

9. ทำความคุ้นเคยกับคำสั่งและคำถามในข้อสอบ ศึกษาและทำความเข้าใจคำสั่งในข้อสอบ เช่น วิธีการตอบคำถามและรูปแบบการเขียนที่ข้อสอบต้องการ จะช่วยลดการทำผิดพลาดในวันสอบจริง
 

การนำผลคะแนน DELF/DALF ไปใช้

1.การศึกษาต่อในประเทศที่ใช้ภาษาฝรั่งเศส
- มหาวิทยาลัยและสถาบันการศึกษา DELF B2 เป็นระดับขั้นต่ำที่มักกำหนดสำหรับการเข้าศึกษาต่อในมหาวิทยาลัยในประเทศฝรั่งเศสและประเทศที่ใช้ภาษาฝรั่งเศส ส่วน DALF C1 หรือ C2 เหมาะสำหรับการสมัครเข้าเรียนในหลักสูตรที่มีความเข้มข้นทางวิชาการสูงขึ้น เช่น หลักสูตรระดับบัณฑิตศึกษา
- ทุนการศึกษา ผลสอบ DELF/DALF สามารถใช้ประกอบการสมัครทุนการศึกษาต่าง ๆ ที่มอบให้กับนักเรียนต่างชาติที่ต้องการศึกษาในประเทศที่พูดภาษาฝรั่งเศส

2. การสมัครงานและเพิ่มโอกาสในสายอาชีพ
- บริษัทข้ามชาติและองค์กรระหว่างประเทศ คะแนน DELF/DALF เป็นหลักฐานความสามารถทางภาษาที่ได้รับการยอมรับในบริษัทข้ามชาติ โดยเฉพาะในสายงานที่ต้องใช้ทักษะภาษาฝรั่งเศส เช่น การทูต การแปล การท่องเที่ยว และการสื่อสาร
- สายงานในประเทศที่ใช้ภาษาฝรั่งเศส การมีผลสอบ DELF/DALF ช่วยเพิ่มความน่าเชื่อถือและความสามารถในการสมัครงานในประเทศที่ใช้ภาษาฝรั่งเศสเป็นภาษาหลัก เช่น ฝรั่งเศส แคนาดา (ควิเบก) สวิตเซอร์แลนด์ เบลเยียม และลักเซมเบิร์ก

3. การขอวีซ่า การย้ายถิ่นฐาน และการขอสัญชาติ
- การขอสัญชาติฝรั่งเศส การมีคะแนน DELF B1 ขึ้นไปสามารถใช้ประกอบการขอสัญชาติฝรั่งเศส โดยแสดงถึงความสามารถในการสื่อสารในชีวิตประจำวันและการปรับตัวเข้ากับวัฒนธรรมท้องถิ่น
- การขอวีซ่าประเภทต่าง ๆ บางประเทศ เช่น แคนาดา (ควิเบก) มีการกำหนดให้ผู้ย้ายถิ่นฐานที่ต้องการตั้งรกรากในประเทศต้องมีคะแนน DELF/DALF ระดับที่กำหนดเพื่อยืนยันความสามารถทางภาษา

4. การใช้ในการพัฒนาอาชีพและเลื่อนตำแหน่ง
- การพัฒนาทักษะและการเลื่อนตำแหน่ง ในบางองค์กร การมีผลสอบ DELF/DALF ระดับสูงสามารถเป็นปัจจัยสำคัญในการพิจารณาเลื่อนตำแหน่งหรือได้รับมอบหมายงานที่ต้องใช้ทักษะภาษาฝรั่งเศส
- การทำงานในสายวิชาการหรือการสอนภาษา: การมี DALF C1 หรือ C2 เป็นประโยชน์ต่อผู้ที่ต้องการทำงานเป็นอาจารย์สอนภาษาฝรั่งเศสหรือทำงานวิจัยในสายงานที่เกี่ยวข้องกับภาษาฝรั่งเศส


ข้อได้เปรียบของ DELF/DALF
- ไม่มีวันหมดอายุ ผลสอบ DELF/DALF เป็นใบประกาศที่ไม่มีวันหมดอายุ ทำให้สามารถใช้ได้ตลอดชีวิต- เป็นที่ยอมรับในระดับสากล เป็นใบรับรองที่ได้รับการยอมรับในกว่า 174 ประเทศทั่วโลก
- สร้างความได้เปรียบในตลาดแรงงาน การมีใบรับรองนี้ช่วยเพิ่มคุณค่าในตลาดแรงงานที่มีการแข่งขันสูง


การสอบวัดระดับภาษาฝรั่งเศส DELF/DALF เป็นเครื่องมือสำคัญสำหรับผู้ที่ต้องการวัดความสามารถในการใช้ภาษาฝรั่งเศสในบริบทต่าง ๆ ตั้งแต่ระดับเริ่มต้นไปจนถึงระดับสูง การเตรียมตัวที่ดี การฝึกฝนทักษะอย่างต่อเนื่อง และการประเมินตนเองอย่างสม่ำเสมอจะช่วยให้คุณสามารถสอบผ่านและบรรลุเป้าหมายได้อย่างมั่นใจ หากคุณต้องการข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการสอบ DELF/DALF หรือเทคนิคการเตรียมตัวสอบ สามารถติดตามอ่านบทความเพิ่มเติมในเว็บไซต์ของเราเพื่อรับข้อมูลและเคล็ดลับใหม่ ๆ ที่จะทำให้การสอบภาษาฝรั่งเศสเป็นเรื่องง่ายสำหรับคุณ
 

แหล่งข้อมูล
Alliance Française Bangkok

เว็บไซต์ทรูปลูกปัญญาดอทคอมเป็นเพียงผู้ให้บริการพื้นที่เผยแพร่ความรู้เพื่อประโยชน์ของสังคม ข้อความและรูปภาพที่ปรากฏในบทความเป็นการเผยแพร่โดยผู้ใช้งาน หากพบเห็นข้อความและรูปภาพที่ไม่เหมาะสมหรือละเมิดลิขสิทธิ์ กรุณาแจ้งผู้ดูแลระบบเพื่อดำเนินการต่อไป
Tags
  • Posted By
  • lmin66079
  • 0 Followers
  • Follow