ทำความรู้จัก "HSK" การสอบวัดระดับภาษาจีน

การสอบวัดระดับภาษาจีน หรือ Chinese Proficiency Test (HSK) เป็นการทดสอบที่ได้รับความนิยมในกลุ่มผู้ที่ต้องการประเมินความสามารถในการใช้ภาษาจีนเพื่อการเรียนและทำงานในจีน การสอบนี้แบ่งออกเป็นหลายระดับ ตั้งแต่ระดับเริ่มต้นไปจนถึงระดับสูงสุด ซึ่งทำให้ผู้เรียนสามารถวัดทักษะด้านการฟัง การพูด การอ่าน และการเขียนได้อย่างครบถ้วน การเตรียมตัวที่ดีและการเข้าใจโครงสร้างของการสอบจะช่วยเพิ่มโอกาสในการประสบความสำเร็จได้เป็นอย่างดี

ระดับของการสอบ HSK 

มีทั้งหมด 6 ระดับ แบ่งเป็น  HSK 1 (ง่ายที่สุด) ไปจนถึง HSK 6 (ยากที่สุด)

ระดับที่ 1 : ผู้สอบเข้าใจคำศัพท์และประโยคจีนง่าย ๆ ได้ การสอบ HSK ระดับที่ 1 ไม่เป็นที่นิยมเท่าไรนัก ในกลุ่มผู้ที่เรียนภาษาจีนมาแล้ว ดังนั้นจึงค่อนข้างเป็นระดับที่สอบเพื่อวัดความรู้ตนเองเสียมากกว่า 

ระดับที่ 2 : ผู้สอบสามารถใช้ภาษาจีนสื่อสารเรื่องง่าย ๆ ในชีวิตประจำวัน โดยส่วนมากผู้ที่มีพื้นฐานภาษาจีนหรือเคยเรียนภาษาจีนมาก่อนแล้ว มักเริ่มสอบ HSK ที่ระดับที่ 2 หรือ 3 ขึ้นไป

หมายเหตุ ในระดับที่ 1 และ 2 จะมีคะแนนรวมเต็ม 200 คะแนน ผู้สอบต้องได้คะแนนรวม 120 คะแนนขึ้นไปจะถือว่าสอบผ่าน

ระดับที่ 3 : ผู้สอบสามารถใช้ภาษาจีนติดต่อสื่อสารในชีวิตประจำวัน การเรียน หรือในด้านการทำงานขั้นพื้นฐาน สามารถใช้ในการเดินทางท่องเที่ยวในประเทศจีนได้และเรียนรู้คำศัพท์มาแล้วอย่างน้อย 600 คำ 

ระดับที่ 4 : ผู้สอบสามารถในการใช้ภาษาจีนสื่อสารได้ในวงกว้าง ใช้ภาษาจีนสื่อสารกับเจ้าของภาษาได้อย่างคล่องแคล่ว สามารถสื่อสารในหัวข้อที่ซับซ้อนยิ่งขึ้นและสามารถสื่อสารกับเจ้าของภาษาได้อย่างถูกต้องเหมาะสมและเรียนรู้คำศัพท์มาแล้วอย่างน้อย 1,200 คำ

ระดับที่ 5 : ผู้สอบสามารถในการอ่านนิตยสารภาษาจีน รับชมและเข้าใจรายการโทรทัศน์ของจีน และสามารถใช้ภาษาจีนในการพูดสุนทรพจน์ได้ สามารถใช้ภาษาจีนในการอภิปราย วิจารณ์ และแสดงความคิดเห็นในหัวข้อเฉพาะทางหรือเป็นนามธรรมและเรียนรู้คำศัพท์มาแล้วอย่างน้อย 2,500 คำ

ระดับที่ 6 : ผู้สอบสามารถฟังและอ่านข่าวสารภาษาจีนได้เป็นอย่างดี รวมถึงใช้ภาษาพูด ภาษาเขียนในการแสดงความคิดเห็นได้อย่างคล่องแคล่วใกล้เคียงกับเจ้าของภาษา และเรียนรู้คำศัพท์ภาษาจีน 5,000 คำขึ้นไป 

หมายเหตุ ในระดับที่ 3-6 จะมีคะแนนรวมเต็ม 300 คะแนน ผู้สอบต้องได้คะแนนรวม 180 คะแนนขึ้นไปจะถือว่าสอบผ่าน

อายุการใช้งานผลคะแนน

สามารถใช้ผลคะแนนได้เป็นระยะเวลา 2 ปี นับจากวันที่ประกาศ

โครงสร้างข้อสอบ HSK แต่ละระดับ

HSK 1 คะแนนเต็ม 200 คะแนน ทดสอบทักษะการฟังและการอ่าน จำนวน 40 ข้อ (ฟัง 20 ข้อ, อ่าน 20 ข้อ) เวลาในการสอบ ประมาณ 40 นาที คำศัพท์ที่ใช้ ประมาณ 150 คำ เน้นคำศัพท์พื้นฐานและโครงสร้างประโยคง่าย ๆ ไม่มีการทดสอบการเขียน

HSK 2  คะแนนเต็ม 200 คะแนน ทดสอบทักษะการฟังและการอ่าน จำนวน 40 ข้อ (ฟัง 35 ข้อ, อ่าน 25 ข้อ) เวลาในการสอบ ประมาณ 45 นาที คำศัพท์ที่ใช้ประมาณ 300 คำ เพิ่มความซับซ้อนขึ้นเล็กน้อยจากระดับ 1 แต่ยังคงเป็นคำศัพท์และประโยคในชีวิตประจำวัน

HSK 3 คะแนนเต็ม 300 คะแนน ทดสอบทักษะการฟังและการอ่านและการเขียน จำนวน 80 ข้อ (ฟัง 40 ข้อ, อ่าน 30 ข้อ, เขียน 10 ข้อ) เวลาในการสอบประมาณ 80 นาที คำศัพท์ที่ใช้ประมาณ 600 คำ เริ่มทดสอบทักษะการเขียน เช่น การเรียงคำเป็นประโยคและการเติมคำในช่องว่าง

HSK 4 คะแนนเต็ม 300 คะแนน ทดสอบทักษะการฟังและการอ่านและการเขียน  จำนวน 100 ข้อ (ฟัง 45 ข้อ, อ่าน 40 ข้อ, เขียน 15 ข้อ) เวลาในการสอบประมาณ 90 นาที คำศัพท์ที่ใช้ประมาณ 1,200 คำ มีความซับซ้อนมากขึ้น โดยเฉพาะการอ่านและเขียนที่ต้องใช้การวิเคราะห์และการเรียบเรียงประโยคที่ยาวขึ้น

HSK 5  คะแนนเต็ม 300 คะแนน ทดสอบทักษะการฟังและการอ่านและการเขียน  จำนวน 100 ข้อ (ฟัง 45 ข้อ, อ่าน 45 ข้อ, เขียน 10 ข้อ) เวลาในการสอบประมาณ 110 นาที คำศัพท์ที่ใช้ประมาณ 2,500 คำ เน้นทักษะการอ่านและการเขียนบทความที่ซับซ้อน รวมถึงการเข้าใจบทความยาว ๆ

HSK 6 คะแนนเต็ม 300 คะแนน ทดสอบทักษะการฟังและการอ่านและการเขียน  จำนวน 101 ข้อ (ฟัง 50 ข้อ, อ่าน 50 ข้อ, เขียน 1 ข้อ) เวลาในการสอบประมาณ 140 นาที คำศัพท์ที่ใช้มากกว่า 5,000 คำ เน้นการใช้ภาษาจีนในระดับสูงสุด ทั้งการฟังเรื่องที่ซับซ้อน การอ่านบทความยาว ๆ และการเขียนบทความที่ต้องวิเคราะห์ข้อมูล

เคล็ดลับการเตรียมตัวสอบ HSK

1. ทำความเข้าใจโครงสร้างข้อสอบ ศึกษาโครงสร้างและรูปแบบข้อสอบในแต่ละระดับ เช่น HSK 1-2 เน้นการฟังและการอ่าน ส่วน HSK 3 ขึ้นไปจะมีการเขียนเพิ่มเข้ามา การเข้าใจรูปแบบข้อสอบจะช่วยให้เตรียมตัวได้อย่างถูกต้อง

2. เรียนรู้คำศัพท์ตามระดับ HSK แต่ละระดับจะมีรายการคำศัพท์ที่แตกต่างกัน เริ่มจากระดับ 150 คำใน HSK 1 ไปจนถึง 5000 คำใน HSK 6 แนะนำให้ศึกษาคำศัพท์ตามรายการของแต่ละระดับ เพื่อให้มั่นใจว่ารู้จักคำศัพท์ที่จำเป็นทั้งหมด

3. ฝึกทำข้อสอบเก่า การทำข้อสอบเก่าจะช่วยให้คุณคุ้นเคยกับรูปแบบคำถามและการจับเวลา ฝึกทำข้อสอบอย่างสม่ำเสมอเพื่อพัฒนาทักษะการทำข้อสอบในสถานการณ์จริง

4. ฝึกการฟังภาษาจีนให้มากที่สุด ฟังข่าว รายการทีวี เพลง หรือพอดแคสต์ภาษาจีน เพื่อพัฒนาทักษะการฟัง หมั่นฝึกจับใจความสำคัญและฝึกฟังภาษาจีนที่มีสำเนียงต่าง ๆ เพื่อความเข้าใจที่ดีขึ้น

5. ฝึกอ่านบทความและเรื่องสั้นภาษาจีน อ่านบทความ หนังสือพิมพ์ หรือเรื่องสั้นในภาษาจีนเพื่อฝึกทักษะการอ่าน ทำความเข้าใจเนื้อหาและคำศัพท์ใหม่ ๆ ที่อาจเจอในการสอบ

6. ฝึกเขียนประโยคและเรียงความสั้น ๆ โดยเฉพาะในระดับ HSK 3 ขึ้นไปที่มีส่วนการเขียน ควรฝึกเขียนประโยคและบทความสั้น ๆ เพื่อฝึกใช้คำศัพท์และไวยากรณ์ได้ถูกต้อง

7. เข้าร่วมชั้นเรียนหรือกลุ่มฝึกฝนภาษาจีน การเข้าร่วมชั้นเรียนหรือกลุ่มฝึกฝนจะช่วยให้ได้ฝึกทักษะการพูด การโต้ตอบ และการเรียนรู้แบบโต้ตอบ ช่วยให้พัฒนาภาษาจีนได้รวดเร็วขึ้น

8. ตั้งเป้าหมายในการเรียนและทบทวนอย่างสม่ำเสมอ ตั้งเป้าหมายการเรียนรู้แต่ละวัน เช่น เรียนคำศัพท์ใหม่ 10 คำ ฝึกทำข้อสอบ 1 ชุด การทบทวนเนื้อหาเป็นประจำจะช่วยให้คุณจำได้ดีขึ้น

9. ใช้แอปพลิเคชันช่วยเรียน แอปพลิเคชันเช่น HelloChinese, Pleco, HSK Online ช่วยฝึกทักษะทั้งการฟัง พูด อ่าน เขียน ทำให้การเรียนรู้สนุกและมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น
 

การนำผลคะแนน HSK ไปใช้

1. ศึกษาต่อในประเทศจีน หลายมหาวิทยาลัยในจีนใช้ผลสอบ HSK เป็นเกณฑ์ในการรับนักศึกษาต่างชาติเข้าศึกษาต่อ โดยทั่วไประดับ HSK 4 หรือสูงกว่าเป็นเกณฑ์มาตรฐานสำหรับหลักสูตรปริญญาตรี และ HSK 5-6 สำหรับหลักสูตรปริญญาโทหรือปริญญาเอก

2. สมัครทุนการศึกษาจากรัฐบาลจีน ผู้ที่ต้องการสมัครทุนการศึกษาจากรัฐบาลจีน เช่น ทุนขงจื้อ (Confucius Institute Scholarship) หรือทุน CSC (China Scholarship Council) จะต้องมีคะแนน HSK เพื่อแสดงถึงความสามารถทางภาษาจีน

3. ประกอบอาชีพ บริษัทข้ามชาติที่มีการทำธุรกิจในประเทศจีนหรือทำงานร่วมกับชาวจีนมักจะพิจารณาคะแนน HSK เป็นส่วนหนึ่งของการพิจารณารับเข้าทำงาน โดยเฉพาะในตำแหน่งที่ต้องใช้ภาษาจีน เช่น การแปล การประสานงาน หรือการตลาด

4. เพิ่มโอกาสในการเลื่อนตำแหน่งหรือย้ายไปทำงานที่ประเทศจีน คะแนน HSK ที่สูงจะช่วยเพิ่มโอกาสในการได้รับตำแหน่งงานที่ดีขึ้น หรือโอกาสในการย้ายไปทำงานที่ประเทศจีนในบริษัทที่ต้องการบุคลากรที่มีทักษะภาษาจีน

5. เพิ่มความน่าเชื่อถือในการทำงานร่วมกับคนจีน ผลสอบ HSK เป็นหลักฐานที่ช่วยยืนยันว่าคุณมีความรู้และทักษะภาษาจีนที่ได้มาตรฐาน ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญเมื่อทำงานร่วมกับทีมที่ใช้ภาษาจีนในการสื่อสาร
 

การสอบวัดระดับภาษาจีนเป็นขั้นตอนที่สำคัญสำหรับผู้ที่ต้องการวัดทักษะด้านภาษาจีน การเตรียมตัวที่ดี การเข้าใจระดับของตนเอง และการฝึกฝนที่ต่อเนื่องจะช่วยให้ผู้สอบสามารถผ่านการทดสอบและประสบความสำเร็จในการเรียนรู้ภาษาจีนได้อย่างมั่นใจ นอกจากนี้ การเลือกใช้สื่อที่เหมาะสมและการฝึกฝนทักษะอย่างสม่ำเสมอจะทำให้คุณก้าวไปสู่เป้าหมายการเรียนรู้ภาษาจีนได้อย่างมีประสิทธิภาพ

แหล่งข้อมูล

สถาบันขงจื๊อ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์

สถาบันภาษา ศิลปะและวัฒนธรรม (ILAC)