Home
Education
Classroom
Knowledge
Blog
TV
ธรรมะ
กิจกรรม
โครงการทรูปลูกปัญญา

พุทธธรรมดา 30 ทัส : 30 ปรากฏการณ์ ที่พระพุทธเจ้าทุกพระองค์ จะมีเหมือนกัน

Posted By มหัทธโน | 10 ส.ค. 65
8,317 Views

  Favorite

พุทธธรรมดา 30 ทัส ​ ​: 30​ ปรากฏ​การ​ณ์ ที่​เหมือนกันของ​พระ​พุทธ​เจ้าทุก​ ๆ พระองค์

 

1. พระพุทธเจ้าทุกพระองค์ ทรงมีสติสัมปชัญญะรู้ตัว ลงสู่พระครรภ์ของพระพุทธมารดา

 

2. เมื่ือเสด็จอยู่ในครรภ์แห่งพุทธมารดานั้น ทรงนั่งขัดสมาธิในพระครรภ์ของพระพุทธมารดา ผันพระพักตร์ออกด้านหน้าของพระพุทธมารดา

 

3. พระพุทธมารดายืนประสูติ จะไม่นั่งประสูติเหมือนสามัญสัตว์ทั้งปวง
 

4. ประสูติจากพระครรภ์พระพุทธมารดาในป่าเท่านั้น (ไม่ประสูติในเมือง หรือ ในอาคารบ้านเรือน)

 

5. เมื่อประสูติแล้ว จะวางพระบาทลงบนแผ่นทอง (ที่เทวดามารองรับ) ผันพระพักตร์ไปทางทิศเหนือ ย่างพระบาท 7 ก้าว เหลือบแลดูทั้ง 4 ทิศ แล้วเปล่งสีหนาทว่า
“เราเป็นผู้เลิศในโลก
เราเป็นผู้เจริญที่สุดในโลก
เราเป็นผู้ประเสริฐสุดในโลก
ชาตินี้เป็นชาติสุดท้าย
ความเกิดใหม่ย่อมไม่มี”

 

6.  เมื่อพระองค์ทรงวัฒนาเจริญขึ้น สมควรแก่การราชาภิเษกแล้ว พระองค์เสวยสิริราชสมบัติอยู่ตราบเท่าจนเห็นจตุนิมิตร ๔ ประการ คือ
1.) เห็นคนแก่
2.) เห็นคนป่วย
3.) เห็นคนตาย
4.) เห็นเพศบรรพชิต

เมื่อพระองค์เห็นนิมิตร 4 ประการฉะนี้แล้ว เมื่อทรงเห็นพระราชโอรสที่ประสูติจากครรภ์เมื่อใด พระองค์จึงเสด็จออกบวชเมื่อนั้น

 

7. ทรงผ้ากาสาวพัสตร์ผนวช (ไม่ใช่มีเครื่องนุ่งห่มเป็นอย่างอื่น) แล้วทรงบำเพ็ญเพียรอย่างต่ำที่สุด 7 วันจึงจะได้ตรัสรู้ (ไม่ตรัสรู้ก่อน​ 7 วันนับจากทรงผนวช)
 

8. เสวยข้าวมธุปายาส ในเช้าวันที่จะทรงบรรลุพระสัมโพธิญาณ
 

9. เมื่อได้ประทับนั่งเหนือเครื่องปูลาดที่ทำด้วยหญ้าแล้ว จึงบรรลุพระธรรม
 

10. เมื่อทรงนั่งบนบัลลังก์ภายใต้ร่มไม้พระศรีรัตนมหาโพธิ ทรงบริกรรมอานาปานสติกัมมัฏฐานเป็นเบื้องต้นในการที่จะได้ตรัสรู้ พิจารณาลมอัสสาสะปัสสาสะ

 

11. ทรงกำจัดกองกำลังของมารให้พ่ายแพ้หนี ด้วยพระสมตึงสบารมีโยธาทั้ง 30 ทัส
 

12. ทรงได้บรรลุธรรมที่ไม่มีผู้ใดสามารถมีได้ทำได้เสมอเหมือน (มีได้เฉพาะพระพุทธเจ้า) ตั้งแต่วิชชา 3 เป็นต้นไป
คือ ปุพเพนิวาสญาณ ทิพพโสตญาณ ทิพพจักขุญาณ ก่อนแล้วจึงได้สำเร็จแก่พระปรมาภิเษกสัมโพธิญาณ อันประดับด้วยคุณ มี อสาธารณญาณ เป็นต้น ณ โพธิบัลลังก์คือสถานที่ตรัสรู้นั้นเท่านั้น (คือบรรลุเบ็ดเสร็จเด็ดขาดทั้งหมด ณ ที่นั้น)

 

13. หลังจากตรัสรู้แล้วจะประทับเสวยวิมุตติสุข ณ บริเวณสถานที่ตรัสรู้ 7 แห่ง ๆ ละ 7 วัน

 

14. เมื่อตรัสรู้แล้ว ทรงดำริ จะไม่ตรัสแสดงธรรมเทศนา จนเมื่อท้าวสหบดีพรหมลงมาอาราธนา เพื่อให้ทรงแสดงธรรม
 

15. ทรงประกาศปฐมธรรมเทศนา พระธัมมจักกัปปวัตตนสูตร ณ ป่าอิสิปตนมฤคทายวัน

 

16. ในวันมาฆบูรณมี วันเพ็ญเดือน 3 ทรงแสดงโอวาทปาฏิโมกข์ ณ ที่ประชุมบริษัทมีองค์ ๔ คือ ภิกษุ ภิกษุณี อุบาสก อุบาสิกา

 

17. จะประทับอยู่ประจำ ณ ที่พระวิหารเชตวัน ถึงเวลาอรุณจะใกล้ขึ้นแล้ว พระองค์ย่อมเสด็จมาสู่พระเชตวัน เพื่อมารับอรุณในพระเชตวัน

 

18. ทรงทำยมกปาฏิหาริย์ เพื่อทรมานเดียรถีย์ ณ ต้นไม้คัณฑามพฤกษ์ ใกล้ประตูกรุงสาวัตถี

 

19. เสด็จขึ้นไปจำพรรษาในดาวดึงสเทวโลก ตรัสธรรมเทศนา พระอภิธรรม ทั้ง 7 พระคัมภีร์ เพื่อสนองพระคุณแห่งพระพุทธมารดา

 

20. เสด็จลงมาจากสวรรค์ชั้นดาวดึงส์ โดยบันไดแก้ว แล้วลงสู่ประตูเมืองสังกัสสนคร 
 

21. ทรงเข้าผลสมาบัติต่อเนื่องกัน ทุกทิวาราตรี
 

22. ทรงตรวจดูสัตว์โลกที่ที่มีวาสนาบารมีแก่กล้า เพื่อจะพึงเสด็จไปโปรดอย่างน้อยวันละ 2 ครั้ง 
 

23. เมื่อเกิดเหตุการณ์ขึ้นสมควรต่อการบัญญัติสิกขาบท จึงทรงบัญญัติสิกขาบท
 

24. เมื่อเหตุการณ์สมควรจะตรัสเทศนาพระชาติชาดก จึงตรัสชาดก
 

25. ตรัสแสดงเรื่องพุทธวงศ์ ในที่ประชุมแห่งพระประยูรญาติ
 

26. เมื่อมีภิกษุอาคันตุกะมาเข้าเฝ้า จะทรงทำปฏิสันถารต้อนรับด้วยพระองค์เอง
 

27. เมื่อพระพุทธองค์ได้รับนิมนต์ให้จำพรรษา ณ ที่ใด ก่อนจากไป ก็จะต้องบอกผู้รับนิมนต์นั้นก่อนเสมอ 

 

28. ทรงทำกิจ​ 5 (คือ หน้าที่ของพระพุทธเจ้า) 5 เวลา คือ​  บิณฑบาต, แสดงธรรม, ประทานโอวาทแก่เหล่าภิกษุ, ตอบปัญหาเทวดา, ทรงตรวจพิจารณาสัตว์ที่สามารถและที่ยังไม่สามารถบรรลุธรรมอันควรจะเสด็จไปโปรดหรือไม่ ทุกวันมิได้ขาด

 

29. เสวยรสมังสะ ในวันปรินิพพาน

 

30. ทรงเข้าสมาบัติ ยี่สิบสี่แสนโกฏิสมาบัติ แล้วจึงปรินิพพาน

 

เว็บไซต์ทรูปลูกปัญญาดอทคอมเป็นเพียงผู้ให้บริการพื้นที่เผยแพร่ความรู้เพื่อประโยชน์ของสังคม ข้อความและรูปภาพที่ปรากฏในบทความเป็นการเผยแพร่โดยผู้ใช้งาน หากพบเห็นข้อความและรูปภาพที่ไม่เหมาะสมหรือละเมิดลิขสิทธิ์ กรุณาแจ้งผู้ดูแลระบบเพื่อดำเนินการต่อไป
Tags
  • Posted By
  • มหัทธโน
  • 4 Followers
  • Follow