Home
Education
Classroom
Knowledge
Blog
TV
ธรรมะ
กิจกรรม
โครงการทรูปลูกปัญญา

[คลิป] รัตนสูตร บทสวด 7 ตำนาน พร้อมคำแปล พระสูตรที่พระพุทธเจ้าสอนพระอานนท์ให้ขจัดปัดเป่าภัยพิบัติ

Posted By มหัทธโน | 07 พ.ค. 64
39,377 Views

  Favorite

รัตนสูตร บทสวด 7 ตำนาน พระสูตรที่พระพุทธเจ้าสอนพระอานนท์ให้ขจัดปัดเป่าภัยพิบัติ

บทสวดมนต์ "บทรัตนสูตร" มักจะเรียกกันว่า "บทสวดเจ็ดตำนาน" เป็นพระสูตรที่พระอานนท์เถระได้ศึกษาจากสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า เพื่อใช้สวดขจัดปัดเป่าภัยพิบัติร้ายแรงทั้งหลายที่เกิดขึ้นกับชาวกรุงเวสาลี ที่มีทั้งโรคระบาด อันตรายจากภูตผีปีศาจ ความอดอยากล้มตาย

 

พระพุทธองค์ทรงแนะนำให้พระอานนท์เถระรำลึกถึงคุณพระรัตนะ คือ พุทธรัตนะ ธรรมรัตนะ และสังฆรัตนะ ทำสัจกิริยาประพรมน้ำพระพุทธมนต์ให้เกิดความสุขสวัสดีแก่ชาวกรุงเวสาลี ด้วยอานุภาพแห่งพระรัตนสูตรนี้ ภัยพิบัติร้ายแรงได้ระงับลงอย่างฉับพลัน

ปัจจุบัน "บทรัตนสูตร" นิยมสวดในพิธีการทำน้ำพระพุทธมนต์

 

บทสวดและคำแปลของ "บทสวดรัตนสูตร"  

เนื้อหาของบทสวดรัตนสูตร เพื่อความร่มเย็นในชีวิต เป็นการกล่าวถึงคุณพระพุทธ พระธรรม และพระสงฆ์ แบ่งเป็น 3 ส่วน

-- ส่วนแรกการประกาศให้เหล่าภูตคุ้มครองรักษาพวกมนุษย์ ที่นำเครื่องพลีกรรมมาบวงสรวงทั้งในเวลากลางวันและกลางคืน

-- ส่วนที่ 2 บรรยายคุณพระรัตนตรัย โดยเฉพาะคุณของพระสงฆ์ เป็นผู้ประกอบด้วยศีล มีใจมั่นคง ไม่มีกามกิเลส ไม่หวั่นไหวด้วยโลกธรรม และมีพระนิพพานอันเป็นอมตะ

-- ส่วนที่ 3 ประกาศให้ภูตทั้งหลาย จงนมัสการพระพุทธ พระธรรม และพระสงฆ์ และอำนวยพรให้สรรพสัตว์เหล่านี้มีความสวัสดี

 

ยานีธะ ภูตานิ สะมาคะตานิ ภุมมานิ วา ยานิวะ อันตะลิกเข

เหล่าภูตทั้งหลาย ทั้งที่อยู่ ณ ภาคพื้นก็ดี ทั้งที่อยู่ในอากาศก็ดี ที่มาชุมนุมกันอยู่ ณ สถานที่นี้ก็ดี

สัพเพ วะ ภูตา สุมะนา ภะวันตุ

ขอหมู่ภูตทั้งปวงนั้น จงเป็นผู้มีใจดีเถิด

อะโถปิ สักกัจจะ สุณันตุ ภาสิตัง

และเชิญฟังคำสดุดีพระรัตนตรัย อันข้าพเจ้ากล่าว โดยเคารพเถิด

ตัสมา หิ ภูตา นิสาเมถะ สัพเพ

ดูก่อนภูตทั้งหลาย เพราะเหตุนั้นแล ท่านทั้งหลายทั้งปวงจงฟังข้าพเจ้า

เมตตัง กะโรถะ มานุสิยา ปะชายะ

ขอท่านทั้งหลาย จงกระทำเมตตาจิต ในประชาชาวมนุษย์เถิด

ทิวา จะ รัตโต จะ หะรันติ เย พะลิง

ซึ่งเขาทั้งหลาย ทำเทวตาพลีอยู่ ทั้งกลางวันกลางคืน

ตัสมา หิ เน รักขะถะ อัปปะมัตตา ฯ

เพราะเหตุนั้นแล ท่านทั้งหลาย จงเป็นผู้ไม่ประมาท ช่วยคุ้มครองรักษาเขาเหล่านั้นด้วยเถิด

ยังกิญจิ วิตตัง อิธะ วา หุรัง วา

ทรัพย์อย่างใดอย่างหนึ่งในโลกนี้ หรือในโลกอื่น

สัคเคสุ วา ยัง ระตะนัง ปะณีตัง

หรือรัตนะอันใดอันสูงค่า ในสรวงสวรรค์

นะ โน สะมัง อัตถิ ตะถาคะเตนะ

ทรัพย์หรือรัตนะนั้นๆ ที่จะเสมอด้วยพระตถาคตเจ้า ไม่มีเลย

อิทัมปิ พุทเธ ระตะนัง ปะณีตัง

ข้อนี้ จัดเป็นรัตนะคุณอันสูงส่ง ในพระพุทธเจ้า

เอเตนะ สัจเจนะ สุวัตถิ โหตุ ฯ

ด้วยคำสัตย์นี้ ขอความสวัสดี จงบังเกิดมีเถิด

 

ขะยัง วิราคัง อะมะตัง ปะณีตัง, ยะทัชฌะคา สักยะมุนี สะมาหิโต

พระศากยมุนีเจ้า ทรงมีพระหฤทัยดำรงมั่น ได้บรรลุธรรมอันใด เป็นที่สิ้นกิเลส เป็นที่สิ้นราคะ เป็นอมตะอย่างแท้จริง

นะ เตนะ ธัมเมนะ สะมัตถิ กิญจิ

สิ่งใดๆที่เสมอด้วยพระธรรมนั้น ย่อมไม่มี

อิทัมปิ ธัมเม ระตะนัง ปะณีตัง

ข้อนี้ จัดเป็นรัตนะคุณอันสูงส่ง ในพระธรรม

เอเตนะ สัจเจนะ สุวัตถิ โหตุ ฯ

ด้วยคำสัตย์นี้ ขอความสวัสดี จงบังเกิดมีเถิด

ยัมพุทธะเสฏโฐ ปะริวัณณะยี สุจิง

พระพุทธเจ้าผู้ประเสริฐสุดทรงสรรเสริญสมาธิว่าเป็นธรรมอันสะอาด

สะมาธิมานันตะริกัญญะมาหุ

บัณฑิตทั้งหลาย กล่าวว่าสมาธิเป็นคุณธรรมอันให้ผลโดยลำดับสม่ำเสมอ

สะมาธินา เตนะ สะโม นะ วิชชะติ

คุณธรรมอื่น ที่เสมอด้วยสมาธินั้น ย่อมไม่มี

อิทัมปิ ธัมเม ระตะนัง ปะณีตัง

ข้อนี้ จัดเป็นรัตนะคุณอันสูงส่ง ในพระธรรม

เอเตนะ สัจเจนะ สุวัตถิ โหตุ ฯ

ด้วยคำสัตย์นี้ ขอความสวัสดี จงบังเกิดมีเถิด

 

เย ปุคคะลา อัฏฐะ สะตัง ปะสัตถา

บุคคลเหล่าใด นับเรียงองค์ได้เป็น ๘

จัตตาริ เอตานิ ยุคานิ โหนติ

นับเป็นคู่ได้ ๔ คู่ อันสัตบุรุษทั้งหลายสรรเสริญแล้ว

เต ทักขิเณยยา สุคะตัสสะ สาวะกา

บุคคลเหล่านั้น เป็นสาวกของพระสุคตเจ้า เป็นผู้ควรรับทักษิณาทาน

เอเตสุ ทินนานิ มะหัปผะลานิ

ทานทั้งหลาย ที่บุคคลถวายในท่านเหล่านั้น ย่อมมีผลเป็นอันมาก

อิทัมปิ สังเฆ ระตะนัง ปะณีตัง

ข้อนี้ จัดเป็นรัตนะคุณอันสูงส่ง ในพระสงฆ์

เอเตนะ สัจเจนะ สุวัตถิ โหตุ ฯ

ด้วยคำสัตย์นี้ ขอความสวัสดี จงบังเกิดมีเถิด

 

เย สุปปะยุตตา มะนะสา ทัฬเหนะ นิกกามิโน โคตะมะสาสะนัมหิ

บุคคลทั้งหลายเหล่าใด ประกอบความเพียรอย่างดี ดำเนินไปในศาสนาของพระโคดมเจ้าด้วยใจอันมั่นคง

เต ปัตติปัตตา อะมะตัง วิคัยหะ

บุคคลทั้งหลายเหล่านั้น หน่วงเอาพระนิพพานเป็นอารมณ์ได้บรรลุคุณอันควรบรรลุ คือพระอรหัตตผลแล้ว

ลัทธา มุธา นิพพุติง ภุญชะมานา

จึงได้เสวยอมตะรส คือความสงบเย็นจากความเร่าร้อนทั้งปวง

อิทัมปิ สังเฆ ระตะนัง ปะณีตัง

แม้ข้อนี้ก็เป็นรัตนะคุณอันสูงส่งในพระสงฆ์

เอเตนะ สัจเจนะ สุวัตถิ โหตุ ฯ

ด้วยคำสัตย์นี้ ขอความสวัสดี จงบังเกิดมีเถิด

 

ยะถินทะขีโล ปะฐะวิง สิโต สิยา จะตุพภิ วาเตภิ อะสัมปะกัมปิโย

เสาเขื่อนที่ฝังลงดินอย่างมั่นคงแล้ว ลมทั้ง ๔ ทิศไม่พึงทำให้หวั่นไหวได้ฉันใด

ตะถูปะมัง สัปปุริสัง วะทามิ โย อะริยะสัจจานิ อะเวจจะ ปัสสะติ

เราตถาคตกล่าวว่า สัตบุรุษผู้หยั่งเห็นอริยสัจธรรม ก็มีอุปมาฉันนั้นนั่นแล

อิทัมปิ สังเฆ ระตะนัง ปะณีตัง

แม้ข้อนี้ก็เป็นรัตนะคุณอันสูงส่งในพระสงฆ์

เอเตนะ สัจเจนะ สุวัตถิ โหตุ ฯ

ด้วยคำสัตย์นี้ ขอความสวัสดี จงบังเกิดมีเถิด

 

เย อะริยะสัจจานิ วิภาวะยันติ คัมภีระปัญเญนะ สุเทสิตานิ

บุคคลเหล่าใด กระทำอริยสัจธรรมทั้งหลายที่พระบรมศาสดาผู้มีปัญญาอันลึกซึ้ง ทรงแสดงดีแล้วให้แจ่มแจ้งแก่ตนได้

กิญจาปิ เต โหนติ ภุสัปปะมัตตา

บุคคลเหล่านั้นถึงจะยังเป็นผู้ประมาทอยู่มาก (พระโสดาบัน)

นะ เต ภะวัง อัฏฐะมะมาทิยันติ

แต่ท่านก็ย่อมไม่ถือเอาซึ่งภพที่ ๘ (คือเกิดอีกอย่างมาก ๗ ชาติ)

อิทัมปิ สังเฆ ระตะนัง ปะณีตัง

แม้ข้อนี้ก็เป็นรัตนะคุณอันสูงส่งในพระสงฆ์

เอเตนะ สัจเจนะ สุวัตถิ โหตุ ฯ

ด้วยคำสัตย์นี้ ขอความสวัสดี จงบังเกิดมีเถิด

 

สะหาวัสสะ ทัสสะนะสัมปะทายะ ตะยัสสุ ธัมมา ชะหิตา ภะวันติ

พระโสดาบันทรงละสังโยชน์ ๓ ประการได้แล้ว เพราะความถึงพร้อมแห่งญาณทัสนะ

สักกายะทิฏฐิ วิจิกิจฉิตัญจะ สีลัพพะตัง วาปิ ยะทัตถิ กิญจิ

สังโยชน์ทั้ง ๓ ประการซึ่งเป็นกิเลสเครื่องผูกสัตว์ไว้ในภพคือสักกายทิฎฐิ วิจิกิจฉา และสีลัพพตปรามาส

จะตูหะปาเยหิ จะ วิปปะมุตโต

อนึ่งพระโสดาบันเป็นผู้พ้นได้แล้วจากอบายภูมิทั้ง ๔

ฉะ จาภิฐานานิ อะภัพโพ กาตุง

ทั้งไม่อาจที่จะทำอภิฐาน คือฐานะอันหนัก ๖ ประการ (อนันตริยกรรม ๕ และการเข้ารีต)

อิทัมปิ สังเฆ ระตะนัง ปะณีตัง

แม้ข้อนี้ก็เป็นรัตนะคุณอันสูงส่งในพระสงฆ์

เอเตนะ สัจเจนะ สุวัตถิ โหตุ ฯ

ด้วยคำสัตย์นี้ ขอความสวัสดี จงบังเกิดมีเถิด

 

กิญจาปิ โส กัมมัง กะโรติ ปาปะกัง กาเยนะ วาจายุทะ เจตะสา วา

พระโสดาบันนั้น ยังทำความผิดเล็กน้อยทางกาย ทางวาจา หรือทางใจอยู่บ้างก็จริง

อะภัพโพ โส ตัสสะ ปะฏิจฉะทายะ

แต่เมื่อทำแล้ว ท่านเปิดเผยไม่ปกปิดความผิดนั้นไว้

อะภัพพะตา ทิฏฐะปะทัสสะ วุตตา

ความที่บุคคลเข้าถึงกระแสพระนิพพานแล้ว เป็นผู้ไม่ปกปิดความผิดไว้นี้ อันเราตถาคตกล่าวแล้ว

อิทัมปิ สังเฆ ระตะนัง ปะณีตัง

แม้ข้อนี้ก็เป็นรัตนะคุณอันสูงส่งในพระสงฆ์

เอเตนะ สัจเจนะ สุวัตถิ โหตุ ฯ

ด้วยคำสัตย์นี้ ขอความสวัสดี จงบังเกิดมีเถิด

 

วะนัปปะคุมเพ ยะถา ผุสสิตัคเค คิมหานะมาเส ปะฐะมัสมิง คิมเห

พุ่มไม้ในป่าแตกยอดในเดือนคิมหันต์แห่งคิมหันต์ฤดูฉันใด

ตะถูปะมัง ธัมมะวะรัง อะเทสะยิ

พระตถาคตเจ้าได้ทรงแสดงธรรมอันประเสริฐ

นิพพานะคามิง ปะระมัง หิตายะ

ซึ่งเป็นหาทางให้ถึงพระนิพพาน เพื่อประโยชน์อย่างยิ่งแก่สัตว์ทั้งหลายก็มีอุปมาฉันนั้น

อิทัมปิ พุทเธ ระตะนัง ปะณีตัง

แม้ข้อนี้ก็เป็นรัตนะคุณอันสูงส่งในพระพุทธเจ้า

เอเตนะ สัจเจนะ สุวัตถิ โหตุ ฯ

ด้วยคำสัตย์นี้ ขอความสวัสดี จงบังเกิดมีเถิด

 

วะโร วะรัญญู วะระโท วะราหะโร

พระตถาคตเจ้าทรงเป็นผู้ประเสริฐ ทรงเป็นผู้รู้ธรรมอันประเสริฐ ทรงเป็นผู้ให้ธรรมอันประเสริฐ ทรงเป็นผู้นำมาซึ่งธรรมอันประเสริฐ

อะนุตตะโร ธัมมะวะรัง อะเทสะยิ

ทรงเป็นผู้ไม่มีใครยิ่งกว่า ได้ทรงแสดงแล้วซึ่งพระธรรมอันประเสริฐ

อิทัมปิ พุทเธ ระตะนัง ปะณีตัง

แม้ข้อนี้ก็เป็นรัตนะคุณอันสูงส่งในพระพุทธเจ้า

เอเตนะ สัจเจนะ สุวัตถิ โหตุ ฯ

ด้วยคำสัตย์นี้ ขอความสวัสดี จงบังเกิดมีเถิด

 

ขีณัง ปุราณัง นะวัง นัตถิ สัมภะวัง

กรรมเก่าของพระอริยบุคคลเหล่าใดสิ้นแล้ว กรรมสมภพใหม่ย่อมไม่มี

วิรัตตะจิตตายะติเก ภะวัสมิง

พระอริยบุคคลเหล่าใดมีจิตอันหน่ายแล้วในภพต่อไป

เต ขีณะพีชา อะวิรุฬหิฉันทา

พระอรหันต์เหล่านั้น มีพืชคือวิญญาณสิ้นไปแล้ว ไม่มีความพอใจที่จะเกิดอีกต่อไป

นิพพันติ ธีรา ยะถายัมปะทีโป

เป็นผู้มีปัญญา ย่อมนิพพานเหมือนดังดวงประทีปที่ดับไปฉะนั้น

อิทัมปิ สังเฆ ระตะนัง ปะณีตัง

แม้ข้อนี้ก็เป็นรัตนะคุณอันสูงส่งในพระสงฆ์

เอเตนะ สัจเจนะ สุวัตถิ โหตุ ฯ

ด้วยคำสัตย์นี้ ขอความสวัสดี จงบังเกิดมีเถิด

 

ยานีธะ ภูตานิ สะมาคะตานิ ภุมมานิ วา ยานิวะ อันตะลิกเข

เหล่าภูตทั้งหลาย ทั้งที่อยู่ ณ ภาคพื้นก็ดี ทั้งที่อยู่ในอากาศก็ดี ที่มาชุมนุมกันอยู่ ณ สถานที่นี้ก็ดี

ตะถาคะตัง เทวะมะนุสสะปูชิตัง พุทธัง นะมัสสามะ สุวัตถิ โหตุ ฯ

เราทั้งหลายจงนมัสการพระพุทธเจ้าผู้มาแล้ว อันเทวดาและมนุษย์บูชาแล้ว ขอความสุขสวัสดีจงมีเถิด

 

ยานีธะ ภูตานิ สะมาคะตานิ ภุมมานิ วา ยานิวะ อันตะลิกเข

เหล่าภูตทั้งหลาย ทั้งที่อยู่ ณ ภาคพื้นก็ดี ทั้งที่อยู่ในอากาศก็ดี ที่มาชุมนุมกันอยู่ ณ สถานที่นี้ก็ดี

ตะถาคะตัง เทวะมะนุสสะปูชิตัง ธัมมัง นะมัสสามะ สุวัตถิ โหตุ ฯ

เราทั้งหลายจงนมัสการพระธรรมอันมาแล้ว อันเทวดาและมนุษย์บูชาแล้ว ขอความสุขสวัสดีจงมีเถิด

 

ยานีธะ ภูตานิ สะมาคะตานิ ภุมมานิ วา ยานิวะ อันตะลิกเข

เหล่าภูตทั้งหลาย ทั้งที่อยู่ ณ ภาคพื้นก็ดี ทั้งที่อยู่ในอากาศก็ดี ที่มาชุมนุมกันอยู่ ณ สถานที่นี้ก็ดี

ตะถาคะตัง เทวะมะนุสสะปูชิตัง สังฆัง นะมัสสามะ สุวัตถิ โหตุ ฯ

เราทั้งหลายจงนมัสการพระสงฆ์ผู้มาแล้ว อันเทวดาและมนุษย์บูชาแล้ว ขอความสุขสวัสดีจงมีเถิด

*********************************

เว็บไซต์ทรูปลูกปัญญาดอทคอมเป็นเพียงผู้ให้บริการพื้นที่เผยแพร่ความรู้เพื่อประโยชน์ของสังคม ข้อความและรูปภาพที่ปรากฏในบทความเป็นการเผยแพร่โดยผู้ใช้งาน หากพบเห็นข้อความและรูปภาพที่ไม่เหมาะสมหรือละเมิดลิขสิทธิ์ กรุณาแจ้งผู้ดูแลระบบเพื่อดำเนินการต่อไป
Tags
  • Posted By
  • มหัทธโน
  • 4 Followers
  • Follow