วันนี้เรารวบรวมเทคนิคการช้อปปิ้งออนไลน์มาฝากสาว ๆ กันค่ะว่าจะช้อปอย่างไรให้ได้โปรโมชั่นดี ๆ หรือสินค้าราคาตรงใจ รวมไปถึงวิธีการสังเกตและหลีกเลี่ยงร้านของมิจฉาชีพต่าง ๆ เพื่อป้องกันการสูญเสียทั้งเงินและเวลาค่ะ
1. ควรตรวจสอบความน่าเชื่อถือของร้านค้าก่อนการตัดสินใจทุกครั้ง
แน่นอนความน่าเชื่อถือของร้านเป็นสิ่งสำคัญที่สุด สาว ๆ ควรเลือกร้านที่มีเรตติ้งดี มีคนรีวิวเยอะ มียอดฟอลระดับหนึ่ง และเป็นร้านที่แอคทีฟตลอดเวลา เพราะหากเป็นร้านเล็กที่ไม่ค่อยแอคทีฟ หรือมีสินค้าราคาถูกมาก ๆ อาจกลายเป็นร้านของมิจฉาชีพได้นะคะ (รายละเอียดการเลือกและสังเกตร้าน อยู่ในหัวข้อถัดไปนะ)
2. สินค้าที่ราคาถูก อาจไม่ใช่สินค้าคุณภาพดีเสมอไป
เชื่อว่าพอสาว ๆ เห็นของราคาถูกมาก ๆ หลักร้อยหลักสิบก็แทบพุ่งไปกดใส่ตะกร้าใช่ไหมคะ แต่เดี๋ยวก่อน ต้องมีสติก่อน เพราะคุณภาพย่อมแปรผันตามราคาค่ะ ถ้าสาว ๆ อยากได้สินค้าราคาถูกต้องทำใจไว้ล่วงหน้าเลยว่าคุณภาพอาจไม่ดีอย่างที่คาดหวังไว้ หรือสเปคบางอย่าง เช่น ขนาด เนื้อผ้า วัสดุที่ใช้ อะไหล่ต่าง ๆ อาจไม่สมบูรณ์ 100% แต่ถ้าสาว ๆ ไม่ติดใจอะไร กดลงตะกร้าตามอัธยาศัยเลยค่ะ
3. ควรตรวจสอบชื่อ-สกุลของพ่อค้าแม่ค้าก่อนการโอนทุกครั้งว่าเชื่อถือได้หรือไม่
ปัจจุบันมีมิจฉาชีพวนเวียนอยู่ในวงการช้อปปิ้งออนไลน์มากหน้าหลายตาเลยล่ะค่ะ โดยคนกลุ่มนี้มักวนเวียนมาสมัครร้านค้าใหม่ ๆ ขายสินค้าหลากหลายประเภทในราคาที่ถูกผิดปกติ เราต้องรู้เท่าทันกลโกงของมิจฉาชีพเหล่านี้นะคะ วิธีตรวจสอบเบื้องต้นคือ เมื่อร้านค้าแจ้งชื่อกับเลขที่บัญชีมาให้เราโอนเงิน ให้เรานำชื่อ-สกุลของเจ้าของบัญชีไปตรวจสอบในเว็บตรวจสอบมิจฉาชีพออนไลน์ หรือนำชื่อไปแปะใน google โดยตรงเลยก็ได้ค่ะ หากคนนั้นเป็นมิจฉาชีพ ประวัติการติด blacklist ขึ้นแน่นอนค่ะ
4. จงระวัง ของแท้ราคาถูก !
สินค้าละเมิดลิขสิทธิ์ต่าง ๆ ตอนนี้มีวางขายมากมายตามช่องทางออนไลน์ต่าง ๆ มีทั้งไซส์จัมโบ้ ไซส์ปกติ ไปจนกระทั่งไซส์ทดลอง สาว ๆ ต้องมีสติในการเลือกสินค้าและร้านที่จัดจำหน่ายให้มาก ๆ เลยนะคะ โดยเฉพาะอย่างยิ่งร้านที่มีการโปรโมทว่าเป็นสินค้าหลุดคิวซี สินค้าหลุดสต็อก เป็นของแท้ราคาจับต้องได้จากหลักหลายพัน ให้ตระหนักไว้เลยว่าเราอาจโดนย้อมแมวขายของละเมิดลิขสิทธิ์ (หรือของก็อป) อยู่ก็เป็นได้ ทางที่ดีเลือกร้านพรีที่เชื่อถือได้ หรือไปซื้อกับเจ้าของแบรนด์ตอนช่วงเซลล์เลยน่าจะสบายใจกว่านะ
5. สังเกตให้ดี ว่านี่ “พร้อมส่ง” หรือ “พรีออเดอร์”
เชื่อว่าสาว ๆ หลายคนมีปัญหาเข้าใจผิดกับร้านค้าอยู่บ่อยครั้ง เนื่องจากบางร้านระบุไม่ชัดเจนว่าสินค้าชิ้นนี้มีแบบพร้อมส่งหรือต้องพรีออเดอร์ หรือบางร้านระบุไว้แต่ตัวเล็กเหลือเกิน ดังนั้น สาว ๆ ควรอ่านรายละเอียดของสินค้าโดยละเอียด หรือสอบถามไปทางร้านค้าให้ดีว่าสิ่งที่อยากได้เป็นสินค้าแบบไหน เพราะถ้าหากรีบใช้แต่ดันไปกดแบบพรีออเดอร์มา อาจต้องรอเป็นเดือนเลยกว่าจะได้สินค้า จะเสียทั้งอารมณ์และเวลานะคะ
1. ซื้อช่วงจัดโปรโมชั่นตามเทศกาลต่าง ๆ
พอเข้าสู่ช่วงเทศกาล แต่ละร้านมักเลือกปล่อยโปรโมชั่นโดนใจมาล่อตาล่อใจเราเสมอล่ะค่ะ ถ้าเราไม่รีบใช้ แค่อดใจรอช่วงเทศกาลเท่านั้นแหละ ของที่เราอยากได้จะมีโปรโมชั่นดี ๆ มาเคาะประตูเรียกเพียบเลย อาทิ 11.11 ป็อกกี้เดย์, แบล็คฟรายเดย์, มิดซัมเมอร์เซลล์ เป็นต้น เรียกได้ว่ามีโปรตลอดทั้งปีเลยล่ะค่ะ แค่รอช่วงเวลาที่ (กระเป๋าตังค์) พร้อมเท่านั้น
2. ตรวจสอบราคาจากร้านข้างเคียง
หากแพลตฟอร์มที่เราเลือกช้อปออนไลน์มีหลากหลายร้านที่ขายสินค้าที่เราอยากได้ ให้ลองสำรวจตลาดด้วยการเข้าไปดูแต่ละร้านว่าขายเท่าไหร่ก่อนจะกดสั่งซื้อค่ะ เพราะบางร้านอาจมีโค้ดส่วนลดต่าง ๆ ทำให้ราคาถูกกว่าร้านอื่นก็เป็นได้ ทั้งนี้ควรพิจารณาความน่าเชื่อถือของร้านประกอบการตัดสินใจด้วยนะคะ
3. ช่วงไลฟ์ยิ่งถูก
ข้อนี้แอบมากระซิบว่าเจอบ่อยโดยเฉพาะร้านขายเสื้อผ้า รองเท้า กระเป๋า และเครื่องสำอางค่ะ ร้านไหนมีไลฟ์ออนไลน์นี่เกาะจอไว้ให้ดีเลยค่ะสาว ๆ เพราะช่วงไลฟ์สดร้านค้ามักจัดโปรแบบจัดเต็มมาให้เราเสมอ บางครั้งเป็นโปรโมชั่นสำหรับคนที่ cf 10 คนแรก หรือโปรเฉพาะ 10 เซตแรก เรียกได้ว่าช่วงไลฟ์ลดราคานี่ต้องแย่งชิงกันเลยทีเดียว เพราะถูกจริงอะไรจริง !
4. สังเกตโปรค่าส่ง
อยากได้ของราคาถูกลงไปอีก ต้องเลือกที่มีโปรโมชั่นการจัดส่งด้วยค่ะ อาทิ ซื้อครบ 300 บาทจัดส่งฟรี หรือชำระเงินผ่านแอปพลิเคชั่นจะจัดส่งฟรี เป็นต้น ถึงแม้จะถูกลง 10-30 บาทแต่ถ้าสั่งบ่อย ๆ ก็เห็นผลเหมือนกันนะคะ
1. สังเกตเรตติ้งร้าน หรือยอดผู้ติดตามของร้าน
หลักเบสิกคือยิ่งเรตติ้งหรือยอดฟอลสูงยิ่งดูน่าเชื่อถือค่ะ แต่ทั้งนี้สาว ๆ ต้องดูปัจจัยอื่นควบคู่กันไปด้วย เพราะแต่ละร้านมีกุลยุทธในการขายแตกต่างกัน บางร้านซื้อยอดฟอลมาเสริมจะได้โตเร็ว ๆ และดูน่าเชื่อถือ แต่สินค้าบางชิ้นอาจไม่ตรงปก หรือบางร้านสินค้าดีแต่เพิ่งเปิด ยอดฟอลก็จะน้อยหน่อย เป็นต้น
2. เลือกร้านที่แอคทีฟ
ร้านที่แอคทีฟ ณ ที่นี้ คือ ร้านที่ยังมีการลงสินค้าใหม่ ๆ หรือร้านที่มีการปฏิสัมพันธ์กับลูกค้าในช่องคอมเม้นท์อย่างต่อเนื่อง มีการตอบคำถามลูกค้าด้วยความใส่ใจ มีการอัพเดทสินค้าและโปรโมชั่น เพราะสิ่งเหล่านี้แสดงถึงความกระตือรือร้นและความใส่ใจของร้านค้า
3. เลือกร้านที่ระบุราคาชัดเจน
ร้านที่ระบุราคาสินค้าอย่างชัดเจน ทั้งในรูปภาพ และในแคปชั่น บ่งบอกถึงความจริงใจต่อลูกค้าค่ะ เมื่อเราเห็นราคาก็สามารถประเมินได้ว่าราคาเท่านี้กับสินค้าแบบนี้สมเหตุสมผลหรือไม่ ช่วยให้เราตัดสินใจซื้อได้ง่ายขึ้นนั่นเอง
4. เลือกร้านค้าที่มีรีวิวหลากหลาย
กลยุทธ์เลือกร้านค้าที่มีรีวิวเยอะ ๆ เดี๋ยวนี้เริ่มใช้ไม่ได้ผลแล้วค่ะ เพราะเขาเกิดธุรกิจ “รับรีวิวสินค้า” กันแล้ว ก่อนจะกดซื้อสินค้าออนไลน์ร้านใดก็ตาม แนะนำให้เสียเวลาดูรีวิวสินค้าสักนิด ลองสังเกตชื่อผู้รีวิวและเนื้อหาที่เขารีวิวไว้สักหน่อย ว่าเหมือนหรือแตกต่างกันไหม ถ้ารีวิวมีความหลากหลาย แตกต่างกัน มาจากหลากหลายคน แสดงว่าร้านนี้ของดีจริง มีคนอุดหนุนเยอะจริง แต่ถ้าเป็นรีวิวเดิม ๆ จากคนเดิม ๆ หรือภาพรีวิวเดิมแค่เปลี่ยนชื่อยูสเซอร์ให้ เอ๊ะ ไว้ในใจได้เลยว่าเขาจ้างคนรีวิวรึเปล่านะ ?
5. เลือกร้านค้าที่แม่ค้าสนใจและใส่ใจที่จะตอบคำถามลูกค้า
เคยเจอไหมคะ สินค้าร้านนี้น่ารักมาก ราคาก็ดีมาก ๆ แต่พอทักไปกว่าแม่ค้าจะอ่าน หรืออ่านแล้วกว่าจะตอบ ทิ้งให้เรารอข้ามวัน แบบนี้อาจทำให้เราเสียอารมณ์ได้ ดีไม่ดีเมื่อเราเจอสินค้าที่มีปัญหาแม่ค้าอาจหายเงียบไปไม่รับผิดชอบเลยก็ได้ ดังนั้น แนะนำให้สาว ๆ เลือกร้านค้าที่แม่ค้าใส่ใจลูกค้า มี service mind ที่ดี ถามมาตอบไปด้วยความชัดเจน เพราะถึงแม้สินค้าจะดีแค่ไหน แต่แม่ค้าบริการไม่ดีนี่ก็คิดหนักเหมือนกันนะ