โดยที่ในปีนี้มีวิทยากรรับเชิญจากหลากหลายวงการมาให้ความรู้เด็ก ๆ ทั้ง ฐปณีย์ เอียดศรีไชย ผู้สื่อข่าวคนดัง, บอล ทายาท เดชเสถียร, ยอด - พิศาล แสงจันทร์ สองนักเดินทางเจ้าของรายการหนังพาไป และ พลอย พลอยไพลิน ตั้งประภาพร ศิลปินนักแสดงวัยรุ่น
นายมหิทธิ์ วงศ์ษา หัวหน้าฝ่ายวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อมที่ 2 สำนักบริหารโครงการ กรมชลประทาน กล่าวถึงโครงการในปีนี้ว่าเป็นการขยายผลจากปีแรกสู่พื้นที่ใหม่ เพื่อสร้างจิตสำนึกนักอนุรักษ์ให้เยาวชนในพื้นที่โครงการอ่างเก็บน้ำ
จากความสำเร็จคราวก่อนทำที่โครงการห้วยโสมงอันเนื่องมาจากพระราชดำริ จ.ปราจีนบุรี ซึ่งมีชายขอบเป็นเขตอุทยานแห่งชาติทับลาน-ปางสีดา มรดกโลกแห่งหนึ่ง มาถึงปีนี้ที่จัดโครงการ ณ เขื่อนขุนด่านปราการชล จ.นครนายก ในวันที่ 24-25 กรกฎาคม 2563 ก็มีบริบทพื้นที่คล้ายกัน
“บริเวณขอบอ่างด้านบนเป็นพื้นที่อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ ซึ่งมีความสำคัญและเป็นมรดกโลกเหมือนกัน เป็นแหล่งท่องเที่ยวสำคัญของนครนายก และพื้นที่ของเขื่อนขุนด่านมีเรื่องการท่องเที่ยว มีคนเข้ามาจำนวนมาก เราจึงเลือกพื้นที่นี้ เพื่อให้เยาวชนรอบ ๆ มาอบรมให้ความรู้ด้านการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมที่มีอ่างเก็บน้ำเป็นที่ตั้งด้วย”
พื้นที่รอบเขื่อนขุนด่านปราการชลนับว่าเป็นทำเลทอง อุดมสมบูรณ์ไปด้วยทรัพยากรธรรมชาติ หากขาดการดูแลรักษาหรือความเอาใจใส่จากคนท้องถิ่น จะมีแต่สูญสลายไปทุกวันๆ กรมชลประทานจึงต้องการสร้างความตระหนักรู้ให้ทั้ง ‘คนนอก’ และ ‘คนใน’
มหิทธิ์ บอกว่าหลังจากกรมชลประทานศึกษาโครงการอ่างเก็บน้ำต่าง ๆ ทั่วประเทศ พบว่าเขื่อนขุนด่านมีสภาพสิ่งแวดล้อมดีขึ้นหลังจากสร้างอ่างเก็บน้ำแล้วเสร็จ “เราพบว่าป่าไม้อุดมสมบูรณ์ขึ้น เนื่องจากคนไม่มีการบุกรุก เราสร้างอ่างเก็บน้ำแล้วมีพื้นที่กันชน และมีการจัดตั้งหน่วยพิทักษ์อุทยานดูแลพื้นที่บริเวณอ่างเก็บน้ำ การมีอ่างเก็บน้ำทำให้ป่าไม้รอบ ๆ อุดมสมบูรณ์ขึ้น สัตว์ป่ามาใช้ประโยชน์ได้มากขึ้น เวลาเราเก็บกักน้ำแล้วเวลาน้ำลดจะมีหญ้าขึ้น ก็เป็นแหล่งอาหารให้สัตว์ป่าได้เป็นอย่างดี”
วิทยากรจากสายสื่อสารมวลชนอย่าง ฐปณีย์ เอียดศรีไชย นำประสบการณ์ที่ได้เดินทางทำข่าว มุมมองต่าง ๆ มากมายรวมถึงด้านสิ่งแวดล้อมมาถ่ายทอดให้เด็ก ๆ ฟัง ผ่านหัวข้อ Good News Good Idea เพื่อสร้างมุมมองต่อสถานการณ์บ้านเมืองและข่าวที่เกิดขึ้น ซึ่งสำหรับเด็กยุคปัจจุบันค่อนข้างห่างไกลจากการเสพข่าวสาร ส่วนมากอยู่โซเชียลมีเดียและแอปพลิเคชั่นด้านความบันเทิง
“ข่าวคือการเรียนรู้นอกห้องเรียน อยากให้เด็ก ๆ สนใจข่าวสารของบ้านเมือง ข่าวสารของชุมชน ข่าวสารในโรงเรียน ข่าวเป็นเรื่องสำคัญที่อยู่กับตัวเรา ข่าวบางข่าวมีผลกระทบต่อสังคม ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงได้ ข่าวจึงเป็นเหมือนหนังสือนอกห้องเรียน เด็กยุคนี้เกิดมาในโลกไร้พรมแดน ไม่ต้องเดินทางไปต่างประเทศเพื่อเรียนรู้เรื่องใดเรื่องหนึ่ง แต่ดูทุกอย่างบนโลกนี้ได้จากโทรศัพท์มือถือ จากอินเทอร์เน็ต Good News ในความหมายของพี่จึงไม่ใช่ข่าวดี แต่ข่าวต้องสร้างเรื่องดี ๆ ให้แก่ผู้คนและสังคม ถ้าเด็ก ๆ ติดตามข่าวนอกจากรู้เท่าทันสังคม ก็จะได้ความรู้นอกห้องเรียน”
ในมุมของผู้สื่อข่าว ปัญหาสิ่งแวดล้อมและทรัพยากรน้ำไม่ใช่เรื่องไกลตัวหรือเรื่องเล็กๆ ฐปณีย์บอกว่า โครงการ ‘RID Young Team 2 น้ำมีชีวิต ภารกิจพิทักษ์น้ำ ปี 2’ จะมีส่วนช่วยสร้างเยาวชนที่จะเป็นพลังสำคัญที่จะดูแลทรัพยากรในบ้านเกิดของพวกเขา
“นี่เป็นโอกาสที่เด็กในพื้นที่อาจไม่ค่อยมี แต่การมีโครงการนี้เป็นการให้โอกาสที่ดีมาก ได้ให้เขามาเรียนรู้เรื่องสิ่งแวดล้อม ประโยชน์ของการกักเก็บน้ำ ทำให้เขาได้เห็นเรื่องจริง และวิธีถ่ายทำ เขียนบท รายงานข่าว การตัดต่อ เป็นเหมือนการทำให้เขารู้จักเครื่องมือการสื่อสารให้เป็นประโยชน์ อย่างน้อยถ้าเกิดเหตุในพื้นที่เขาจะผลิตสื่อเพื่อบอกเล่าเรื่องราวได้ ทั้งในมุมดีและมุมสะท้อนปัญหา”
ด้าน บอลและยอด หนังพาไป วางกล้องแล้วมาคว้าไมค์ถ่ายทอดเรื่องราวระหว่างเส้นทางที่พวกเขาได้พบเจอจากการทำรายการ โดยเน้นไปที่เทคนิคการทำคลิปวิดีโอให้โดนใจคนดู เหมือนกับที่หนังพาไปทำได้มาตลอด 10 ปี ซึ่งโจทย์สำคัญในครั้งนี้ คือ ไม่ใช่แค่ทำคลิปให้ดัง แต่ต้องเป็นคลิปที่ดี สอดแทรกการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมด้วย
“สิ่งที่น่าสนใจคือผมถามเด็ก ๆ ว่า มีใครอยากเป็นนักเล่าเรื่องบ้าง ใครอยากเป็นยูทูบเบอร์บ้าง ปรากฏว่าเด็กหลายคนยกมือกัน เลยรู้สึกว่าถึงแม้เขาจะอยู่ต่างจังหวัด แต่นี่คือความฝันของเด็กรุ่นนี้เลย ซึ่งเราสองคนก็พยายามสอดแทรกการอนุรักษ์ในรายการของเราตลอด แต่ใส่แบบไม่ยัดเยียดเกินไป” ยอด หนังพาไป กล่าว
ส่วน บอล หนังพาไป บอกว่า ความน่าสนใจอีกอย่างคือเด็ก ๆ จะได้ลองถ่ายทำจริง การได้ก้าวไปสู่การลองทำครั้งแรกสำคัญมาก และสิ่งที่พวกเขาทำอาจสร้างการเปลี่ยนแปลงได้
“เราคิดว่าอาจเกิดการเปลี่ยนแปลงได้จากการทำคลิปวิดีโอเหล่านี้ แต่คงต้องใช้วิธีการต่าง ๆ เพื่อให้คนดูรู้สึกร่วมและเป็นส่วนหนึ่งของการเปลี่ยนแปลงนั้น”
สำหรับนักแสดงสาวอย่าง พลอยไพลิน ตั้งประภาพร ศิลปินนักแสดงวัยรุ่น พูดถึงการเป็นคนมีชื่อเสียงกับบทบาทด้านการอนุรักษ์ว่าถือเป็นข้อดีเพราะชื่อเสียงคือกระบอกเสียงที่ทำให้คนมาสนใจเรื่องการอนุรักษ์และสิ่งแวดล้อมมากขึ้น
“พลอยไม่ได้เป็นผู้ใหญ่มากนัก ก็ยังเป็นคนรุ่นใหม่ที่ทำให้คนรุ่นใหม่เห็นได้ว่าพลอยก็ทำเหมือนกัน เราก็เลือกที่จะทำเหมือนกัน” การได้มาถ่ายทอดประสบการณ์ทั้งผ่านเรื่องเล่าและคลิปวิดีโอการเดินทางของพลอย ดึงดูดความสนใจของเด็ก ๆ ได้มาก โดยในเนื้อหาสอดแทรกมุมมองด้านการอนุรักษ์ที่ค่อนข้างเรียบง่ายและเข้าถึงได้ ซึ่งเหมาะสมกับช่วงวัยของเยาวชนที่เข้าอบรม “จริง ๆ เราก็ไม่ได้เป็นนักอนุรักษ์ขนาดนั้น แต่อยากให้ธรรมชาติอยู่กับเรานาน ๆ เพราะเราอยากไปเที่ยว อยากเห็นธรรมชาติที่สวยงาม ก็เลยอยากจะช่วยให้มันอยู่กับเราไปนาน ๆ
ซึ่งโครงการนี้เป็นโครงการที่ดี ที่ให้เด็กได้ศึกษานอกห้องเรียน ไม่ใช่แค่ในตำรา ได้ไปเห็นสถานที่จริง ได้มาคุยกับวิทยากรจริง และได้ลงมือทำด้วย ดีที่ว่าได้ใช้สื่อให้เป็นประโยชน์ เพราะอุปกรณ์ที่ใช้ไม่จำเป็นต้องดีหรือแพง เป็นการสอนที่ทำให้เด็กได้ทำและเห็นว่าทำได้จริง ๆ”
สำหรับ กลุ่มเป้าหมายที่ได้รับประโยชน์ไปเต็ม ๆ จากโครงการ เป็นใครไปไม่ได้นอกจากเยาวชนคนรักษ์น้ำจากสองโรงเรียน ได้แก่ โรงเรียนวัดท่าด่าน และโรงเรียนบ้านดงวิทยาคาร
ด้วยรูปแบบการอบรมที่ต้องสร้างกลุ่มเด็กและเยาวชน แต่สถานการณ์ไวรัสโควิด-19 ทำให้ทุกคนยังต้องระมัดระวัง เพื่อความปลอดภัยของทั้งเยาวชนและทุกคนในโครงการ RID Young Team 2 น้ำมีชีวิต ภารกิจพิทักษ์น้ำ ปี 2 จึงดำเนินการอยู่บนวิถีใหม่ New Normal
ทุกมาตรการเพื่อสุขอนามัย หัวหน้าฝ่ายวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อมที่ 2 บอกว่านำมาใช้ทั้งหมด ทั้ง Social Distancing, ตรวจวัดอุณหภูมิทุกคนที่เข้าร่วมโครงการ, ล้างมือด้วยเจลแอลกอฮอล์ และสวมใส่หน้ากากอนามัยตลอดการอบรม
“เราทำตามนโยบายของภาครัฐ ในการอบรมเราต้องมีมาตรการ ทำกิจกรรมต่างๆ โดยไม่ให้เกิดความเสี่ยงต่อการติดเชื้อหรือแพร่เชื้อ นอกจากสร้างบุคลากรที่จะออกไปอนุรักษ์ถิ่นฐานบ้านเกิดแล้ว ยังไม่สร้างปัญหาด้านสุขอนามัยแก่พื้นที่ด้วย”
ในแง่ผลสัมฤทธิ์หลังจากจบโครงการปีนี้ไป อาจวัดผลเป็นตัวเลขได้ยาก แต่จากการถอดบทเรียนเมื่อปีก่อน การสร้างจิตสำนึกให้เยาวชนและสร้างความหวงแหนต่อคุณค่าในบ้านเกิดของพวกเขา สะท้อนผ่านการลงมือปฏิบัติคือผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นและนับเป็นความสำเร็จตามวัตถุประสงค์
“เรามีเป้าหมายโครงการว่าสร้างจิตสำนึกให้เยาวชนบริเวณพื้นที่โครงการ เพราะเยาวชนนี่แหละจะเป็นตัวจุดประกายให้ผู้ปกครองมาช่วยกันป้องกันดูแลพื้นที่โครงการด้านสิ่งแวดล้อมได้ เพราะการใช้พื้นที่โครงการจากกรมอุทยาน เหมือนมีคำมั่นสัญญาว่าเราต้องรักษาพื้นที่ของเขาเป็นอย่างดี ไม่ให้มีการบุกรุกพื้นที่เพิ่มมากขึ้น เยาวชนจึงเป็นตัวแทนส่วนหนึ่งที่จะไปช่วยบอกต่อแก่พ่อแม่ ญาติพี่น้อง ว่าการมีอ่างเก็บน้ำต้องมีการดูแล”
นี่จึงเป็นอีกครั้งที่เยาวชนจะได้เป็นพลังสำคัญกับภารกิจครั้งยิ่งใหญ่ ที่ไม่ได้จบในห้องเรียนหรือแค่การอบรมชั่วข้ามคืน แต่หมายถึงความรู้และการต่อยอดสู่การอนุรักษ์ โดยมีจุดแข็งที่ความเข้าใจในบริบทพื้นที่ สู่กระบวนการสื่อสารเรื่องราวด้วยสื่อสมัยใหม่อย่างคลิปวิดีโอ อันจะเป็นเครื่องมือเข้าถึงทุกคนได้อย่างดี
สามารถติดตามผลงานน้อง ๆ ได้ที่ facebook : RIDyoungteam62