นอกจากน้ำจะเป็นส่วนประกอบที่สำคัญของร่างกายแล้ว น้ำยังมีหน้าที่สำคัญในการเป็นตัวกลางที่ช่วยให้เกิดปฏิกิริยาเคมีในร่างกายอีกด้วย เช่น กระบวนการเผาพลาญพลังงาน กระบวนการย่อยอาหาร กระบวนการแลกเปลี่ยนแก๊สคาร์บอนไดออกไซด์ กระบวนการขับถ่ายของเสียออกจากร่างกาย ดังนั้น หากขาดน้ำหรือรักษาสมดุลของน้ำไว้ไม่ได้ เซลล์ในร่างกายก็จะหยุดทำงานและทำให้เสียชีวิตนั้นเอง
ภาวะขาดน้ำ (Dehydration) เป็นภาวะที่ร่างกายสูญเสียน้ำออกจากร่างกายมากกว่าได้รับเข้ามา หรือก็คือร่างกายรักษาสมดุลของเหลวในร่างกายไว้ไม่ได้ ซึ่งมีสาเหตุพื้นฐานเลยมาจากการไม่ได้รับน้ำอย่างเพียงพอต่อการสูญเสียน้ำที่มากเกินไป และยังมีสาเหตุมาจากอาการต่าง ๆ เช่น ท้องเสีย อาเจียน เสียเหงื่อมาก ออกกำลังกายอย่างหนัก หรือการใช้ยาบางชนิดที่ส่งผลต่อภาวะขาดน้ำ โดยมีโอกาสเกิดขึ้นกับเด็กทารก เด็กเล็ก และผู้สูงอายุได้สูงกว่าวัยอื่น ๆ โดยเฉพาะเด็กทารกที่ไม่สามารถบอกความต้องการของตนเองได้อย่างชัดเจน รวมถึงบุคคลอื่น ๆ ที่ติดอยู่ในสถานการณ์ที่ไม่มีน้ำให้บริโภค
อาการอย่างแรกที่สามารถบ่งบอกได้ว่าเราหรือคนใกล้ตัวกำลังขาดน้ำ คือ รู้สึกกระหายน้ำ ปัสสาวะที่ขับถ่ายออกมามีสีเข้มและมีปริมาณน้อยกว่าปกติ ซึ่งปริมาณและสีของปัสสาวะเป็นหนึ่งในตัวบ่งชี้ที่ดีที่สุด ที่สามารถบอกได้ว่าร่างกายของคุณกำลังขาดน้ำอยู่ และยังสามารถสังเกตอาการอื่น ๆ ได้อีก เช่น อาการง่วงซึม อ่อนเพลีย ผิวแห้ง ตาแห้ง ปากแห้ง ผิวหนังเหี่ยวย่น ไม่มีเหงื่อ มึนหัว ปวดศีรษะ โดยในกลุ่มคนที่ไม่ใช่เด็กทารก เด็กเล็ก และผู้สูงอายุ จะสามารถสังเกตอาการได้ง่ายกว่าและสามารถรักษาสมดุลของน้ำในร่างกายให้กลับมาปกติได้ อย่างไรก็ตาม บางกรณีอาจมีอาการที่แตกต่างกันออกไปตามระดับความรุนแรงของภาวะขาดน้ำ
สำหรับเด็กทารกที่ไม่สามาถบอกความต้องการของตนเองได้นั้น สามารถสังเกตได้จากอาการปากแห้ง เล่นน้อยลง ร้องไห้ไม่มีน้ำตา หงุดหงิดง่าย ตาโหล มือเท้าเย็น ผิวหนังเหี่ยวย่น เป็นต้น ส่วนภาวะขาดน้ำของผู้สูงอายุสามารถเกิดขึ้นได้โดยไม่รู้สึกกระหายน้ำ จึงเป็นเหตุผลสำคัญที่ควรดื่มน้ำมากขึ้นเมื่อมีอาการป่วยหรือในช่วงอากาศร้อน
บทความที่เกี่ยวข้อง
- น้ำนั้นสำคัญต่อร่างกายเราอย่างไร