พระอภิธรรม แปลว่า ธรรมอันประเสริฐ ธรรมอันยิ่ง ธรรมที่อยู่แท้จริงปราศจากสมมุติ เนื้อความในพระอภิธรรมเกือบทั้งหมด จะกล่าวถึงปรมัตถธรรมล้วน ๆ หมายถึงธรรมที่มีความสำคัญอย่างยิ่ง หรือมีความสำคัญมาก พระอภิธรรมเป็นปรมัตถธรรม คือธรรมขั้นสูง
พระอภิธรรม เรียกให้เต็มว่า พระอภิธรรมปิฎก เป็น ๑ ใน ๓ แห่งพระไตรปิฎก ได้แก่ พระวินัยปิฎก พระสูตตันตปิฎก และพระอภิธรรมปิฎก
พระอภิธรรมปิฎกมีอยู่ทั้งสิ้น ๔๒,๐๐๐ พระธรรมขันธ์ แบ่งออกเป็น ๗ คัมภีร์ เรียกว่า พระอภิธรรม ๗ คัมภีร์ ที่ใช้สวดในงานศพ ได้แก่
๑. คัมภีร์ธัมมสังคณี ว่าด้วยธรรมะที่ประมวลไว้เป็นหมวดเป็นกลุ่ม เรียกว่า กัณฑ์ มี ๔ กัณฑ์ ที่ใช้สวดในงานศพ คือ มาติกา (กุสลา ธัมมา อกุสลา ธัมมา อัพยากตา ธัมมา ฯ)
๒. คัมภีร์วิภังค์ แสดงการจำแนกปรมัตถธรรมออกเป็นข้อ ๆ แบ่งออกเป็น ๑๘ วิภังค์ เช่น จำแนกขันธ์ หมายถึง ขันธ์ ๕ อันประกอบด้วย รูปขันธ์ เวทนาขันธ์ สัญญาขันธ์ สังขารขันธ์ และวิญญาณขันธ์ เรียกว่า ขันธวิภังค์
๓. คัมภีร์ธาตุกถา แสดงการจัดหมวดหมู่ของปรมัตถธรรม โดยสงเคราะห์ด้วย ธาตุ (ธรรมชาติที่ทรงไว้ซึ่งสภาพของตน)
๔. คัมภีร์ปุคคลบัญญัติ ว่าด้วยบัญญัติ ๖ ประการและแสดงรายละเอียดเฉพาะบัญญัติที่เกี่ยวกับบุคคล
๕. คัมภีร์กถาวัตถุ ว่าด้วยคำถามคำตอบประมาณ ๒๑๙ หัวข้อ ที่ถือเป็นหลักในการตัดสินพระธรรมวินัย
๖. คัมภีร์ยมก ในคัมภีร์นี้จะยกหัวข้อปรมัตถธรรมขึ้นวินิจฉัยด้วยวิธีถามตอบ โดยตั้งคำถามย้อนกันเป็นคู่ ๆ
๗. คัมภีร์มหาปัฏฐาน แสดงเหตุปัจจัยและแสดงความสัมพันธ์อันเป็นเหตุ เป็นผลที่อิงอาศัยซึ่งกันและกันแห่งปรมัตถธรรมทั้งปวงโดยพิสดาร (เหตุ ปัจจโย ฯ ที่ใช้สวดต่อจาก กุสลา ธัมมา ฯ ในงานศพ)
เรียกโดยย่อว่า คือ สัง วิ ธา ปุ กะ ยะ ปะ (คาถาหัวใจพระอภิธรรม)
พระอภิธรรม ว่าด้วยเรื่องของปรมัตถธรรม มี ๔ ประการ อันได้แก่
๑. จิต
๒. เจตสิก
๓. รูป และ
๔. นิพพาน
เป็นสภาวธรรม ล้วน ๆ ทางพระอภิธรรมถือว่าบุคคลนั้นไม่มี มีแต่สิ่งซึ่งเป็นที่ประชุมกันของ จิต เจตสิก รูป เท่านั้น ส่วนที่เรียกชื่อว่า นาย ก. นาย ข. นั้นเรียกโดยสมมุติโวหารเท่านั้น
สรุปแล้ว พระอภิธรรมก็คือ ธรรมะหมวดที่ ๓ ในพระไตรปิฎกที่สอนให้รู้จักธรรมชาติอันแท้จริง ที่มีอยู่ในตัวเราและสัตว์ทั้งหลาย อันได้แก่ จิต เจตสิก รูป และรู้จักธรรมชาติอันแท้จริงที่มีอยู่ในตัวเราและสัตว์ทั้งหลายอันได้แก่ จิต เจตสิก รูป และรู้จักพระนิพพาน ซึ่งเป็นจุดหมายสูงสุดในพระพุทธศาสนา
ธรรมชาติทั้ง ๔ คือ จิต เจตสิก รูป นิพพาน นี้เรียกว่า ปรมัตถธรรม หากสรูปลงได้ ๒ ประการ คือ ๑. รูป ๒. นาม (จิต เจตสิก นิพพาน) หรือ ร่างกาย กับ จิตใจ นั่นเอง
ในครั้งพุทธกาล พระสัมมาสัมพุทธเจ้า เมื่อครั้งเสด็จไปโปรดพุทธมารดา ได้ทรงแสดงพระอภิธรรม ๗ คัมภีร์ เพื่อตอบแทนพระคุณของมารดา ที่สวรรค์ชั้นดาวดึงส์ (พระพุทธมารดาจุติที่สวรรค์ชั้นดุสิต เป็นสวรรค์ชั้นที่สูงกว่าดาวดึงส์) เป็นสวรรค์ชั้นกลาง ๆ เทวดาชั้นต่ำก็สามารถขั้นไปฟังธรรมได้ ชั้นที่สูงกว่าก็ลงมาฟังธรรมได้ ทำให้เหล่าเทวดาทั้งหลายได้บรรลุธรรมพร้อมกัน มีพระโสดาบันเป็นเบื้องต่ำ และอนาคามีเป็นเบื้องสูง ทรงใช้เวลาในการแสดงธรรม ๓ เดือน (๑ พรรษา)
ปัจจุบันพระสงฆ์ใช้ธรรมะหมวดอภิธรรมเป็นบทสวดเนื่องในการสวดอภิธรรมศพ เพื่อเป็นการแสดงให้เห็นสัจธรรมของชีวิตว่า โดยปรมัตถธรรมแท้จริงแล้ว ชีวิตประกอบด้วยธรรมชาติ ๒ ส่วน คือ ส่วนที่เป็นรูป คือ ร่างกาย อันประกอบด้วยธรรมชาติ ๔ อย่าง คือ ดิน น้ำ ลม ไฟ (ธาตุ ๔) กับส่วนที่เป็นนาม คือ จิต เจตสิก (ขันธ์ ๕ : เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ)
ถ้าเห็นสัจธรรมของชีวิตตามธรรมชาติด้วยปัญญาญาณ ย่อมบรรลุถึงพระนิพพาน การดับกิเลสคือการดับทุกข์ได้ ดังนั้น การสวดพระอภิธรรมในงานศพ ย่อมมีจุดมุ่งหมายเพื่อให้เห็นความจริงของชีวิต ตามธรรมชาติหรือธรรมดาดังกล่าวนั้น
เนื่องจากพระอภิธรรม โดยสรุป กล่าวถึงหลักสำคัญ ๔ ประการ คือ ๑. จิต ๒. เจตสิก ๓. รูป และ ๔. นิพพาน ดังนั้น จึงนิยมนิมนต์พระ ๔ รูป เท่าจำนวนหลักธรรมดังกล่าว และพระจำนวน ๔ รูป ก็ครบองค์สงฆ์พอดี
ส่วนทำนองในการสวดพระอภิธรรม ก็มีความแตกต่างกันไป เช่น ทำนองหลวง ทำนองของภูมิภาคท้องถิ่น รวมทั้งบทสวดภาษาบาลี และการสวดแปลเป็นภาษาไทย ก็ขึ้นอยู่กับขนบธรรมเนียมประเพณีของแต่ละท้องถิ่นหรือภูมิภาคด้วยเช่นกัน
(๑๘ มิถุนายน ๕๖)
อ้างอิง
พระธรรมปิฎก. พระไตรปิฎก สิ่งที่ชาวพุทธควรรู้, ๒๕๔๘ หน้า ๔๔ – ๔๘.
พระธรรมปิฎก. พจนานุกรมพุทธศาสตร์ ฉบับประมวลธรรม, ๒๕๔๖ หน้า ๗๔.