ซึ่งภาวะบกพร่อมทางพฤติกรรมและอารมณ์นี้มักส่งผลให้เด็กแสดงพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสม ต่อต้านตนเองหรือผู้อื่น มีความรู้สึกนึกคิดที่ผิดไปจากปกติ แสดงออกถึงความต้องการทำร้ายตนเองหรือผู้อื่น มีความเชื่อมั่นในตนเองต่ำ จนส่งผลต่อการเรียน มีปัญหาในการเรียนรู้ มีความยากลำบากในการสร้างความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างเพื่อนและครู แสดงออกถึงภาวะความเครียดและไม่มีความสุขอย่างเป็นปกติ มีแนวโน้มของอาการทางสุขภาพร่างกาย ซึ่งมีคุณพ่อคุณแม่จำนวนไม่น้อยที่พบกับปัญหาความบกพร่องทางพฤติกรรมและอารมณ์ของลูก โดยที่ไม่รู้ว่าลูกต้องได้รับการแก้ไขพฤติกรรมที่ถูกต้อง
เด็กที่มีความบกพร่องทางอารมณ์จะนำไปสู่ความบกพร่องทางพฤติกรรมที่หลากหลาย ตั้งแต่เบาจนถึงรุนแรง อาจแสดงอาการทางร่างกาย เช่น ปวดศีรษะ ปวดตามส่วนต่าง ๆ ของร่างกาย หรือมีความหวาดกลัวเมื่อมีปัญหาส่วนตัวหรือปัญหาทางด้านการเรียน ทั้งนี้ปัญหาด้านพฤติกรรมและอารมณ์ที่แสดงออกจะต้องเกิดขึ้นบ่อยครั้ง มีระยะเวลาติดต่อกันนานกว่า 6 เดือน โดยลักษณะของปัญหาความบกพร่องทางพฤติกรรมและอารมณ์ในเด็ก สามารถจำแนกได้ตามกลุ่มอาการ ดังนี้
• ปัญหาด้านความประพฤติ (Conduct Disorders) เช่น ใช้กำลังทำร้ายผู้อื่น ทำลายข้าวของ ลักทรัพย์ ฉุนเฉียวง่าย มีอารมณ์หุนหันพลันแล่น และเกรี้ยวกราด มีนิสัยกลับกลอก เชื่อถือไม่ได้ ชอบโทษผู้อื่น และมักโกหกอยู่เสมอ เอะอะและหยาบคาย หนีเรียน รวมถึงหนีออกจากบ้าน ใช้สารเสพติด
• ปัญหาด้านความสมาธิ (Attention and Concentration) ไม่สามารถจดจ่อต่อสิ่งใดได้นาน มีลักษณะงัวเงีย เซื่องซึม ไม่แสดงความสนใจใด ๆ รวมถึงมีท่าทางเหมือนไม่ฟังสิ่งที่ผู้อื่นพูด
• ภาวะอยู่ไม่สุข (Hyperactivity) และสมาธิสั้น (Attention Deficit) มีลักษณะกระวนกระวาย ไม่สามารถนั่งนิ่ง ๆ ได้ และหยุกหยิกไปมา พูดคุยตลอดเวลา และมักรบกวนหรือเรียกร้องความสนใจจากผู้อื่นอยู่เสมอ มีทักษะการจัดการในระดับต่ำ
• การถอนตัวหรือล้มเลิก (Withdrawal) หลีกเลี่ยงการปฏิสัมพันธ์กับผู้อื่น และมักรู้สึกว่าตนเองด้อยกว่าผู้อื่น เฉื่อยชา และมีลักษณะคล้ายเหนื่อยตลอดเวลา ขาดความมั่นใจ ขี้อาย ขี้กลัว ไม่ค่อยแสดงความรู้สึก
• ความผิดปกติในการทำงานของร่างกาย (Function Disorder) มีความผิดปกติเกี่ยวกับพฤติกรรมการกิน (Eating Disorder) เช่น การอาเจียนโดยตั้งใจ (Voluntary Regurgitation) ปฏิเสธที่จะกิน รวมถึงนิสัยการกินสิ่งที่กินไม่ได้ โรคอ้วน (Obesity) มีความผิดปกติของการขับถ่ายทั้งอุจจาระและปัสสาวะ (Elimination Disorder)
• ภาวะความบกพร่องทางพฤติกรรมและอารมณ์ระดับรุนแรง ขาดเหตุผลในการคิด อาการหลงผิด (Delusion) อาการประสาทหลอน (Hallucination) พฤติกรรมการทำร้ายตัวเอง
– ได้รับอิทธิพลจากพันธุกรรม เช่น โรคจิตเภทหรือจิตเสื่อม และภาวะซึมเศร้า ซึ่งเด็กที่มีปัญหาความบกพร่องทางพฤติกรรมและอารมณ์ ประมาณร้อยละ 20 ถึง 60 นั้น มีสาเหตุมาจากพ่อหรือแม่ที่มีภาวะซึมเศร้า
– การบาดเจ็บทางสมอง ก็เป็นสาเหตุหนึ่งของความบกพร่องทางพฤติกรรมและอารมณ์เช่นกัน
– ความเครียดเรื้อรัง สภาพทางครอบครัวที่มีความขัดแย้งรุนแรง รายได้ครอบครัวที่น้อย การอาศัยอยู่ในแหล่งเสื่อมโทรม มีสัมพันธภาพในเชิงลบกับคนรอบข้าง ขาดความอบอุ่น
– เผชิญเหตุการณ์ที่ตึงเครียด เช่น พ่อแม่แยกทางกัน และการเสียชีวิตของสมาชิกในครอบครัว
– การถูกทารุณกรรม รวมถึงการถูกเพื่อนกลั่นแกล้ง
หากพฤติกรรมไหนที่ไม่เหมาะสมให้รีบชี้แนะ และแสดงตัวอย่างการกระทำที่เหมาะสมให้ลูกเห็น พร้อมทั้งสนับสนุนให้เขาปฏิบัติตาม
เช่น ห้ามพูดคำหยาบในบ้าน หรือห้ามทำลายข้าวของ เพื่อให้ลูกรู้จักระมัดระวังพฤติกรรมของตนเอง โดยปรับใช้อย่างสมเหตุสมผล และไม่เคร่งครัดเกินไปจนลูกรู้สึกกดดัน
เช่น พาไปเที่ยว พาไปกินอาหารนอกบ้าน ซื้อของขวัญของฝากให้ในโอกาสพิเศษบ้าง
หากลูกมีพฤติกรรมที่เปลี่ยนไป ควรหาสาเหตุของปัญหา และรับฟังอย่างเข้าใจ เพื่อสามารถแก้ไขปัญหาได้อย่างตรงจุด เพราะบางครั้งสาเหตุของพฤติกรรมที่ไม่พึงประสงค์อาจเกิดจากความเครียด ความกลัว หรือภาวะซึมเศร้า
เช่น ไม่ทะเลาะกันให้ลูกเห็น ไม่เลี้ยงลูกด้วยความเคร่งครัดจนเกินไป และไม่ควรใช้ความรุนแรงในครอบครัว
โดยร่วมมือกันแก้ไขปัญหาอย่างใกล้ชิด เพื่อให้การปรับพฤติกรรมดำเนินไปอย่างสอดคล้องและต่อเนื่อง ซึ่งจะกระตุ้นให้เด็กเรียนรู้พฤติกรรมที่เหมาะสมได้ดียิ่งกว่าเดิม