เนื่องจากเด็ก ๆ ต้องเปลี่ยนรูปแบบการดำเนินชีวิต จากที่ได้นอนตอนสาย ได้ไปเที่ยวเล่นกับครอบครัว กลับมาสู่กิจวัตรประจำวันที่ต้องไปโรงเรียนอย่างรวดเร็ว ทำให้ไม่อยากไปโรงเรียน ซึ่งจะแสดงอาการแตกต่างกันไป เช่น บางคนร้องไห้ฟูมฟาย บางคนถึงกับลงไปชักดิ้นชักงอ และเมื่อได้ไปเรียนแล้วคุ้นเคยกับเพื่อนที่โรงเรียนก็จะเลิกไปเอง แต่เด็กบางคนไม่ว่าจะทำอย่างไรก็ยังไม่อยากไปโรงเรียน จนเกิดความเครียดทำให้มีอาการเจ็บป่วยตามมา เช่น ปวดท้อง ปวดหัว ปวดแขน ปวดขา ซึ่งเป็นกลไกการต่อต้านทางร่างกายที่ส่งผลมายังเด็ก คุณพ่อคุณแม่อย่าเพิ่งคิดว่าลูกโกหกหรือแกล้งทำ ควรสังเกตพฤติกรรมของลูกให้ดี ๆ ว่าเป็นเพราะสาเหตุใด เพื่อที่จะได้หาแนวทางแก้ไขที่เหมาะสม
โดยสอบถามถึงสาเหตุให้แน่ชัดว่าเพราะอะไรลูกถึงไม่อยากไปโรงเรียน หากลูกร้องไห้ฟูมฟายไม่ยอมฟัง ก็ต้องค่อย ๆ ปลอบให้เขาสงบลงก่อน ในเด็กเล็กที่เพิ่งเคยไปโรงเรียนครั้งแรก อาจมีความวิตกกังวลกับสถานการณ์ใหม่ หรือไม่อยากแยกจากคุณแม่ คุณพ่อคุณแม่ต้องค่อย ๆ พูดโน้มน้าว อธิบายถึงข้อดีของการไปโรงเรียน หรืออาจจะไปรับ-ไปส่งด้วยตัวเอง เพื่อให้ลูกเกิดความเชื่อมั่นและไว้วางใจว่าคุณพ่อคุณแม่ไม่ได้ทิ้งไปไหน แต่ถ้าลูกเคยไปโรงเรียนแล้ว ร้องไม่อยากไปอีกให้สอบถามว่าปัญหาเกิดจากอะไร เข้ากับเพื่อนหรือคุณครูได้หรือไม่ จะได้แก้ไขปัญหาได้ถูกทาง
เพราะเด็ก ๆ จะไม่เข้าใจว่าทำไมต้องไปโรงเรียน เด็กบางคนคิดว่าพ่อแม่เอามาทิ้ง ดังนั้นการทำโทษจะยิ่งทำให้ลูกรู้สึกกลัวและไม่อยากไปโรงเรียนมากขึ้น
คุณพ่อคุณแม่หลายบ้านเห็นลูกร้องไห้หนัก ก็รู้สึกสงสารบางครั้งคิดว่าให้ลูกหยุดสักวันก็แล้วกัน การยอมให้ลูกไม่ไปโรงเรียนในกรณีที่ลูกไม่ได้เจ็บป่วย เป็นความคิดที่ไม่ดีนัก เพราะเด็กจะรู้ว่าการร้องไห้ได้ผล ครั้งต่อไปอาจจะมีพฤติกรรมที่หนักข้อยิ่งขึ้น เช่น บางคนร้องเค้นเพื่อให้อาเจียนออกมา คุณพ่อคุณแม่ต้องใจแข็งนึกถึงผลดีผลเสียที่จะเกิดกับลูกในระยะยาวมากกว่า
เพื่อให้เขาได้ผ่อนคลาย อาจจะถามว่าเล่นอะไรกับเพื่อนที่โรงเรียนบ้าง เมื่อวานทำกิจกรรมอะไรบ้างที่โรงเรียน ที่โรงเรียนมีขนมอะไรอร่อยบ้าง เมื่อคุณพ่อคุณแม่ชวนคุยถึงสิ่งดี ๆ ที่โรงเรียน จะทำให้ลูกเพลิดเพลินและลืมความรู้สึกไม่อยากไปโรงเรียนได้ นอกจากจะเบี่ยงเบนความสนใจลูกได้แล้ว คุณพ่อคุณแม่ยังจะได้รู้ว่าในแต่ละวันลูกทำอะไรบ้าง ถือเป็นการสำรวจพฤติกรรมลูกไปพร้อม ๆ กัน
การที่เด็กนอนหลับไม่เพียงพอจะทำให้เด็กรู้สึกอารมณ์เสียและรู้สึกเหนื่อยระหว่างวัน เป็นเหตุทำให้เกิดความเครียดสะสม ซึ่งอาจทำให้เด็กไม่อยากไปโรงเรียนได้
เด็กบางคนช่วยเหลือตัวเองได้น้อย หรือตอนอยู่บ้านอาจจะไม่ค่อยได้ทำอะไรด้วยตัวเอง เมื่อไปอยู่ร่วมชั้นกันแล้ว ก็จะทำได้ไม่เหมือนเพื่อน ลูกจะรู้สึกว่าตัวเองด้อยกว่าคนอื่น จึงทำให้ลูกไม่อยากไปโรงเรียน คุณพ่อคุณแม่ คุณครู และทุกคนรอบข้างจะต้องช่วยปลูกฝังให้เด็กมีความมั่นใจในตัวเอง เปิดโอกาสให้เขาได้ทำอะไรด้วยตนเอง รู้จักช่วยเหลือตัวเอง ซึ่งการที่เด็กมีความมั่นใจในตัวเอง จะทำให้เขากล้าเข้าหาคนอื่น ๆ สามารถเข้ากับเพื่อน ๆ และเป็นที่ยอมรับของทุกคนได้