ขึ้นชื่อว่าเป็น พืชตระกูลถั่ว แล้วย่อมมีสรรพคุณหลักในการลดคลอเลสเตอรอลได้เป็นอย่างดีค่ะ ซึ่งถั่วยอดนิยมส่วนใหญ่จะมีอัลมอนด์ ถั่วเขียว ถั่วแดง ถั่วเหลือง และถั่วขาว แต่สาวๆ คะ วอลนัท เองก็เป็นถั่วอีกหนึ่งชนิดที่มีสรรพคุณมากมายไม่แพ้กัน หากสาวๆ สนใจอยากลองปรับการกิน เปลี่ยนชนิดของถั่วแล้วล่ะก็ ลองพิจารณาวอลนัทดูหน่อยดีไหมคะ
วอลนัท เป็นพืชตระกูลถั่วที่มีโปรตีนและพลังงานสูง เป็นหนึ่งในของว่างยอดนิยมสำหรับคนที่ต้องการควบคุมน้ำหนัก เนื่องจากพืชตระกูลถั่วนี้ช่วยให้อิ่มท้องแม้กินในปริมาณน้อย มีใยอาหารสูง และมีไขมันชนิดไม่อิ่มตัว ซึ่งถือเป็นไขมันดี ช่วยลดคลอเรสเตอรอลได้เป็นอย่างดี แต่การกินวอลนัทเป็นอาหารว่างก็ควรกินในปริมาณที่เหมาะสม เพราะหากกินมากเกินไปก็อาจก่อให้เกิดการสะสมพลังงานที่มากเกินความจำเป็นได้
อย่างที่กล่าวไปว่าสรรพคุณเด่นของวอลนัท คือการช่วยลดคลอเรสเตอรอล ซึ่งสรรพคุณนี้ได้รับการการันตีจากมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ดที่เผยผลการตรวจร่างกายจากอาสาสมัคร พบว่า อาสาสมัครที่กินวอลนัทจำนวน 2 ออนซ์ หรือ 56 กรัมเป็นเวลา 6 เดือน มีระดับคลอเรสเตอรอลลดลงจริง แม้จะไม่ได้ควบคุมอาหารชนิดอื่นเลย
ด้วยคุณประโยชน์ที่ได้จากโปรตีนและไขมันไม่อิ่มตัว ที่นอกจากจะช่วยลดคลอเรสเตอรอลแล้ว วอลนัทยังช่วยลดความเสี่ยงของโรคหัวใจ และมีสารต่อต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยป้องกันเยื่อบุหลอดเลือดแดง ซึ่งอาจก่อให้เกิดการอุดตันจนทำให้หัวใจวายได้อีกด้วยค่ะ
วอลนัทอุดมไปด้วยโฟเลท วิตามินอี และไขมันชนิดไม่อิ่มตัว วอลนัท 28 กรัม มีโปรตีน 4 กรัม ไฟเบอร์ 2 กรัม และกรดไขมันโอเมก้า 3 2.5 กรัม ซึ่งสารอาหารเหล่านี้จะช่วยให้สาวๆ รู้สึกอิ่มท้องง่ายขึ้น หากสาวๆ กินวอลนัทประมาณ 1 กำมือต่อวัน โดยอาจเลือกกินก่อนอาหารแต่ละมื้อ หรือกินช่วงท้องว่าง ก็จะช่วยให้สาวๆ ควบคุมการกินอาหารได้ดีขึ้น และวางแผนการออกกำลังกายได้ง่ายขึ้นอีกด้วยค่ะ
ผลการวิจัยที่ตีพิมพ์ใน Journal of Nutrition เผยว่า กลุ่มอาสาสมัครที่กินวอลนัทประมาณ 28 กรัม เป็นเวลา 2 ครั้งใน 1 สัปดาห์ มีแนวโน้มที่จะเป็นโรคเบาหวานชนิด 2 ลดลงมากถึง 24% เลยทีเดียวค่ะ
โรคมะเร็งต่อมลูกหมากนี้นับเป็นโรคฮิตของคุณผู้ชายเลยนะคะ ตอนนี้เขามีผลการวิจัยออกมา เผยว่า หนูทดลองที่กินอาหารที่มีส่วนผสมของวอลนัทจะเกิดโรคมะเร็งน้อยกว่าหนูที่กินอาหารปกติ นอกจากนี้ ผลการทดลองยังบอกอีกว่า หนูที่เป็นมะเร็งแล้วกินอาหารที่มีส่วนผสมของวอลนัทเป็นประจำ เซลล์มะเร็งของหนูมีขนาดเล็กลง เมื่อเทียบกับหนูที่เป็นมะเร็งแต่กินอาหารปกติอีกด้วย
มหาวิทยาลัย Marshell ได้ทำการวิจัยกับหนูทดลองแล้วพบว่า หนูที่กินวอลนัทเป็นประจำทุกวัน แนวโน้มเสี่ยงต่อการเป็นมะเร็งเต้านมจะยิ่งลดต่ำลง จึงนำมาศึกษาต่อจนได้ข้อสรุปว่า หากสาวๆ กินวอลนัทประมาณ 56 กรัมต่อวัน จะช่วยความเสี่ยงต่อการเป็นโรคมะเร็งเต้านมลงได้ค่ะ
Tinayahc